ตกขาว คือ สารคัดหลั่ง ลักษณะเป็นของเหลวหรือเมือกที่ถูกขับออกมาทางช่องคลอดซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการของระบบสืบพันธุ์เพศหญิง มีส่วนช่วยป้องกันภาวะช่องคลอดแห้งและลดการติดเชื้อ แม้การเกิดตกขาวจะเป็นภาวะที่พบได้ทั่วไป แต่ผู้หญิงบางคนอาจสงสัยว่า มีตกขาวทุกวัน ผิดปกติหรือไม่ แล้วจะสังเกตได้อย่างไรว่าตกขาวผิดปกติ
[embed-health-tool-ovulation]
ตกขาว คืออะไร
ตกขาว คือ สารคัดหลั่งที่ถูกขับออกมาทางช่องคลอด มีลักษณะเป็นของเหลวหรือเมือก มีสีใสหรือค่อนข้างขาว เนื้อสัมผัสลื่นคล้ายไข่ขาว ตกขาวมีประโยชน์ในการช่วยให้ช่องคลอดชุ่มชื้น ป้องกันช่องคลอดแห้ง และป้องกันการติดเชื้อ โดยปริมาณ สี และกลิ่นของตกขาวอาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ทั้งนี้ ปริมาณตกขาวสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในทุกช่วงเวลาขึ้นอยู่กับรอบเดือนดังนี้
- วันที่ 1-5 ของการ มีประจำเดือน อาจมีตกขาวสีแดง หรือชมพู เนื่องจากมีเลือดประจำเดือนปน
- วันที่ 6 -14 หลังจากหมดรอบเดือน ตกขาวมักมีลักษณะขุ่น เหนียว มีสีขาวหรือเหลือง ซึ่งช่วงนี้อาจสังเกตเห็นตกขาวน้อยกว่าปกติ
- วันที่ 15 -25 ช่วงก่อนวันตกไข่ประมาณ 2-3 วัน ตกขาวอาจมีลักษณะเป็นเมือกลื่น ๆ สีใส คล้ายไข่ขาว แต่หลังวันตกไข่ ตกขาวมัก มีลักษณะขุ่น เหนียว มีสีขาวหรือเหลือง
- วันที่ 26 -28 ช่วงก่อนมีประจำเดือน ตกขาวมีปริมาณน้อยจนอาจแทบจะไม่มี
มีตกขาวทุกวัน ผิดปกติหรือไม่
การมีตกขาวทุกวัน ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้หญิง ตกขาวอาจจะมามาก มาน้อย หรือมีสีและลักษณะแตกต่างกันได้ ขึ้นอยู่กับช่วงระยะเวลาของการตกไข่และรอบประจำเดือน อย่างไรก็ตาม หากตกขาวมีกลิ่นเหม็น สีผิดปกติ คันอวัยวะเพศ ควรไปพบคุณหมอ เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาได้อย่างตรงจุด
ลักษณะสีของตกขาว
ลักษณะและสีของตกขาวที่อาจมีดังนี้
- ตกขาวสีขาวหรือสีครีม เป็นสีที่พบได้ทั่วไป แต่ถ้าหากมีอาการผิดปกติ เช่น มีกลิ่นเหม็น คัน ระคายเคืองบริเวณอวัยวะเพศ ตกขาวมีลักษณะข้น เหนียว อาจเกิดจากการติดเชื้อรา หรือภาวะช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย
- ตกขาวสีเหลืองหรือสีเขียว อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อโรคพยาธิในช่องคลอด หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคหนองใน ซึ่ง อาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น คันบริเวณอวัยวะเพศ ปวดปัสสาวะบ่อยขึ้น
- ตกขาวสีชมพู มักเกิดขึ้นก่อนมีประจำเดือน หรืออาจเกิดจากเยื่อบุโพรงมดลูกลอกตัวหลังคลอดลูก
- ตกขาวสีแดงหรือสีน้ำตาล อาจเป็นสัญญาณของภาวะประจำเดือนมาไม่ปกติ โรคมะเร็งปากมดลูก โรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก เป็นต้น
- ตกขาวสีเทา อาจเป็นการบ่งชี้ของภาวะช่องคลอดอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งอาจมีอาการคัน ระคายเคืองบริเวณช่องคลอด และกลิ่นเหม็น
อาการตกขาวผิดปกติ
ตกขาวผิดปกติอาจมีอาการดังต่อไปนี้ร่วมด้วย
- คัน ระคายเคืองบริเวณอวัยวะเพศ
- แสบหรือเจ็บขณะปัสสาวะ หรือขณะมีเพศสัมพันธ์
- ปวดท้อง หรือปวดบริเวณอุ้งเชิงกราน
- ตกขาวมีกลิ่นเหม็น และสีผิดปกติ
- ตกขาวเป็นฟอง และมีปริมาณมากผิดปกติ
หากตกขาวมีสีหรือลักษณะผิดปกติ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับช่องคลอดอื่น ๆ ร่วมด้วย ควรไปพบคุณหมอโดยเร็ว คุณหมอจะได้ตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุและรักษาได้อย่างทันท่วงที
วิธีป้องกันตกขาวผิดปกติ
วิธีเหล่านี้อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดตกขาวผิดปกติ หรือช่วงให้อาการที่มีดีขึ้นได้เร็วขึ้น
- ควรล้างทำความสะอาดอวัยวะเพศและเช็ดให้แห้งทุกครั้งหลังใช้ห้องน้ำ โดยเช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลัง เพื่อป้องกันแบคทีเรียจากบริเวณทวารหนักเข้าสู่ช่องคลอด
- ไม่ควรล้างภายในช่องคลอดด้วยน้ำสบู่หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น เนื่องจากช่องคลอดมีสภาพเป็นกรด น้ำสบู่อาจทำให้ช่องคลอดระคายเคือง และทำให้แบคทีเรียในช่องคลอดเสียสมดุล มีแบคทีเรียไม่ดีมากกว่าแบคทีเรียชนิดดี จนเสี่ยงติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดง่ายขึ้น
- หลีกเลี่ยงการสวนล้างช่องคลอด เพราะการสวนล้างช่องคลอดบ่อย ๆ อาจทำให้แบคทีเรียเข้าไปในมดลูก ท่อนำไข่ หรือรังไข่ จนเกิดการติดเชื้อได้
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมหรือแอลกอฮอล์ บริเวณช่องคลอด และอวัยวะเพศภายนอก
- หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไป ควรใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี เพื่อป้องกันการอับชื้น ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อราในช่องคลอดได้
- หมั่นเปลี่ยนผ้าอนามัยเป็นประจำในช่วงที่มีประจำเดือน โดยปกติคือ ทุก ๆ 3-4 ชั่วโมง หรืออาจบ่อยกว่านั้นหากประจำเดือนมามาก เพื่อป้องกันช่องคลอดอับชื้น