backup og meta

ภาวะหลอดเลือดแข็ง (Atherosclerosis)

ภาวะหลอดเลือดแข็ง (Atherosclerosis)

ภาวะหลอดเลือดแข็ง หรือ ภาวะหลอดเลือดตีบ (Atherosclerosis) เกิดจากคราบไขมันพังผืดหรือหินปูน (Plaque) สะสมอยู่ที่ผนังหลอดเลือด จนทำให้หลอดเลือดแข็งตัวหรือตีบตัน จนทำให้การไหลเวียนเลือดและออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายทำได้ไม่ดี ส่งผลให้ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายขาดเลือด

คำจำกัดความ

ภาวะหลอดเลือดแข็ง คืออะไร 

ภาวะหลอดเลือดแข็ง (Atherosclerosis) เป็นภาวะที่หลอดเลือดแดงเกิดการตีบและแข็งตัว ซึ่งมีสาเหตุมาจากการสะสมของคราบไขมันพังผืดหรือหินปูน (Plaque) เมื่อหลอดเลือดแดงเกิดการตีบตันและแข็งตัว จะทำให้การลำเลียงออกซิเจนและสารอาหารไปยังหัวใจและส่วนอื่น ๆ ของร่างกายทำได้ยากขึ้น ส่งผลทำให้ร่างกายเกิดการขาดแคลนเลือดและออกซิเจนในเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกาย นอกจากนี้ คราบไขมัน (Plaque) ยังสามารถแตก และทำให้เกิดลิ่มเลือด หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษาหลอดเลือด อาจนำไปสู่อาการหัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมองหรือหัวใจล้มเหลวได้

ภาวะหลอดเลือดแข็ง พบได้บ่อยแค่ไหน

ส่วนใหญ่แล้ว อาการหลอดเลือดแข็ง มักจะแสดงอาการเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยกลางคนขึ้นไป เมื่อการตีบแคบลงอย่างรุนแรง อาจทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่ดี และทำให้เกิดความเจ็บปวดได้ การอุดตันยังสามารถแตกออกอย่างกะทันหัน นั่นทำให้เลือดจับตัวเป็นก้อนภายในหลอดเลือดแดงที่บริเวณรอยแตก

อาการ

อาการของภาวะหลอดเลือดแข็ง

โดยปกติแล้ว ภาวะหลอดเลือดแข็งมักจะไม่แสดงอาการ จนกว่าหลอดเลือดจะเกิดการตีบตันหรืออุดตัน จนไม่สามารถลำเลียงเลือดและออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้ บางครั้งลิ่มเลือดก็จะทำให้เกิดการอุดตัน ปิดกั้นการไหลเวียนของเลือด

อาการของภาวะหลอดเลือดแข็ง จะมีอาการในระดับปานกลางจนถึงขั้นรุนแรงนั้นขึ้นอยู่กับหลอดเลือดว่าได้รับผลกระทบอย่างไร ซึ่งอาการส่วนใหญ่ที่มักจะเกิดขึ้น มีดังนี้

  • อาการเจ็บหน้าอก แน่นหน้าอกที่เกิดจากหลอดเลือดแดงที่ลำเลียงเลือดไปเลี้ยงหัวใจตีบแคบลง
  • อาการชา แขนขาอ่อนแรงอย่างกะทันหัน พูดไม่ชัด พูดลำบาก หรืออาจจะมีอาการสูญเสียการมองเห็นร่วมด้วย
  • ปวดขาขณะเดิน
  • ความดันโลหิตสูง
  • ไตวาย
  • หัวใจเต้นผิดจังหวะ
  • ปวดหัวอย่างรุนแรง

ควรไปพบคุณหมอเมื่อไร

ผู้ป่วยที่มีอาการข้างต้น ควรให้ความสนใจกับอาการเริ่มต้นของโรคที่เกิดขึ้น เช่น อาการเจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก ความดันโลหิตสูง หากมีอาการเบื้องต้นเหล่านี้ ควรเข้ารับการตรวจจากคุณหมอ เพื่อที่จะได้รักษาอาการของโรคได้ทัน

สาเหตุ

สาเหตุของการเกิด อาการหลอดเลือดแข็ง

การสะสมของคราบไขมัน (Plaque) และอาการแข็งของหลอดเลือดแดงจะทำให้การไหลเวียนเลือดและออกซิเจนทำได้ไม่เต็มที่ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดแข็งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้

  • คอเลสเตอรอลสูง
  • ความดันโลหิตสูง
  • ระดับไตรกลีเซอไรด์สูง
  • การสูบบุหรี่
  • โรคอ้วนหรือโรคเบาหวาน
  • การอักเสบที่ไม่มีสาเหตุหรือจากโรค เช่น โรคข้ออักเสบลูปัส โรคสะเก็ดเงิน หรือโรคลำไส้อักเสบ

ปัจจัยเสี่ยง

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิด ภาวะหลอดเลือดแข็ง

ภาวะหลอดเลือดแข็งจะเกิดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป นอกจากความชราแล้ว ปัจจัยอื่น ๆ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคด้วย เช่น

  • ความดันโลหิตสูง
  • คอเลสเตอรอลสูง
  • ระดับโปรตีน C-reactive Protein (CRP) สูง
  • โรคเบาหวาน
  • โรคอ้วน
  • ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
  • การสูบบุหรี่
  • มีคนในครอบครัวเป็นโรคหัวใจ
  • ไม่ออกกำลังกาย
  • รับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ

การวินิจฉัยและการรักษาโรค

การวินิจฉัยภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง

สำหรับการวินิจฉัยโรคหลอดเลือดแข็งคุณหมอจะทำการตรวจร่างกาย หากคุณมีอาการของหลอดเลือด

  • ชีพจรอ่อนลง
  • หลอดเลือดโป่งพอง การโป่งผิดปกติหรือการขยายตัวของหลอดเลือด เนื่องจากความอ่อนแอของผนังหลอดเลือด
  • การรักษาบาดแผลช้า ซึ่งบ่งบอกถึงการไหลเวียนของเลือดที่จำกัด

นอกจากนี้ คุณหมออาจฟังเสียงหัวใจ เพื่อดูว่ามีเสียงผิดปกติหรือไม่ คุณหมอจะทำการฟังเสียงหวีด ซึ่งเป็นเสียงที่บ่งบอกว่าหลอดเลือดแดงถูกปิดกั้น คุณหมออาจจะมีการทดสอบเพิ่มเติม ดังนี้

  • ตรวจเลือดเพื่อตรวจระดับคอเลสเตอรอล
  • อัลตราซาวนด์หัวใจ
  • การตรวจคราบหินปูนในหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Artery Calcium Scoring)
  • การตรวจสมรรถภาพการไหลเวียนของหลอดเลือดแดงส่วนปลาย หรือการตรวจวัดความแข็งตัวของหลอดเลือด (Ankle Brachial Index หรือ ABI)
  • ทำเอ็มอาร์เอ (Magnetic Resonance Angiography หรือ MRA)
  • การตรวจสวนหัวใจ (Cardiac Catheterization Angiography หรือ CAG)
  • ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Elektrokardiogram หรือ Electrocardiogram)
  • การทดสอบความเครียดหรือการทดสอบความทนทานต่อการออกกำลังกาย ซึ่งจะตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิตของคุณ ในขณะที่คุณออกกำลังกายบนลู่วิ่งหรือจักรยานที่อยู่กับที่

การรักษา ภาวะหลอดเลือดแข็ง

การรักษาภาวะหลอดเลือดแข็ง ต้องเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตในปัจจุบัน เพื่อลดปริมาณไขมันและคอเลสเตอรอล และต้องออกกำลังกายร่วมด้วย เพื่อปรับปรุงสุขภาพของหัวใจและหลอดเลือด

หากอาการของโรคไม่รุนแรง คุณหมออาจแนะนำให้เปลี่ยนวิถีชีวิตซึ่งเป็นแนวทางแรกของการรักษา นอกจากนี้ คุณหมออาจแนะนำการรักษาทางการแพทย์เพิ่มเติม เช่น การใช้ยาหรือการผ่าตัด

การใช้ยา

ยาบางตัวที่ใช้ในการรักษาหลอดเลือดมี ดังนี้

  • สแตติน (Statins) เป็นกลุ่มยาลดไขมันในกระแสเลือด โดยยากลุ่มนี้จะทำการลดคอเลสเตอรอลชนิดไลโปโปรตีนความหนาแน่นต่ำ (LDL) ลง ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี สามารถชะลอหรือหยุดการสะสมของไขมันในหลอดเลือดแดงได้
  • แอสไพริน เพื่อลดความเสี่ยงที่เกล็ดเลือดจะจับตัวเป็นก้อนในหลอดเลือดแดง ที่ตีบแคบลง ลดการเกิดลิ่มเลือดและลดการอุดตันเพิ่มเติม
  • ยาลดความดันโลหิต ยาลดความดันโลหิตไม่ได้ช่วยให้หลอดเลือดตีบดีขึ้น แต่มีส่วนช่วยป้องกันหรือรักษาภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับโรค เช่น ยาลดความดันโลหิตบางชนิด สามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวายได้
  • ยาอื่น ๆ ยังมียาที่ใช้สำหรับการรักษาอาการของโรคหลอดเลือดแข็งตัวตัวอื่น ๆ ด้วย โดยคุณหมอสั่งจ่ายยาอื่น ๆ เพื่อควบคุมสภาวะสุขภาพ ที่ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือด เช่น โรคเบาหวาน และอาจมีการกำหนดยาที่มีความเฉพาะ เพื่อรักษาอาการของหลอดเลือดแข็งตัว เช่น อาการปวดขาระหว่างออกกำลังกาย

การผ่าตัด

หากอาการรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกล้ามเนื้อหรือเนื้อเยื่อโดนทำลาย คุณหมออาจแนะนำการรักษาโดยการผ่าตัด ซึ่งการผ่าตัดที่ใช้สำหรับการรักษาหลอดเลือด ได้แก่

  • การผ่าตัดบายพาส (Bypass Surgery) เป็นการผ่าตัดที่เกี่ยวข้องกับการทำทางเบี่ยงเส้นเลือด โดยทำท่อสังเคราะห์เพื่อเบี่ยงเบนเลือดไปรอบ ๆ หลอดเลือดแดงที่อุดตันหรือตีบ
  • การใช้ยาสลายลิ่มเลือด (Thrombolytic Therapy) เป็นการใช้ยาเพื่อละลายลิ่มเลือดที่อุดตัน โดยการฉีดยาเข้าไปในหลอดเลือดแดงที่ตีบตัน
  • การขยายหลอดเลือดหัวใจ (Angioplasty) เป็นการใช้สายสวนและบอลลูน เพื่อขยายหลอดเลือดที่ตีบตัน บางครั้งการใส่ขดลวด เพื่อให้หลอดเลือดเปิด
  • การผ่าตัดหลอดเลือดคอไปเลี้ยงสมอง (Endarterectomy) เป็นการผ่าตัดที่กำจัดไขมันและคราบอุดตันในหลอดเลือดออกจากผนังหลอดเลือด

การปรับไลฟ์สไตล์เพื่อเยียวยาตัวเอง

การปรับไลฟ์สไตล์เพื่อเยียวยาตัวเองเพื่อป้องกันภาวะหลอดเลือดแข็ง

การปรับไลฟ์สไตล์เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยป้องกันและรักษาภาวะหลอดเลือดแข็งได้ ซึ่งวิธีการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์กับหลอดเลือด คือ

  • รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ไขมันอิ่มตัว และคอเลสเตอรอลต่ำ
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง
  • รับประทานเนื้อปลามากขึ้น
  • ออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์
  • เลิกสูบบุหรี่
  • รักษาน้ำหนักให้อยู่ในระดับมาตรฐาน
  • จัดการกับความเครียด
  • ควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ

[embed-health-tool-heart-rate]

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Atherosclerosis.https://www.healthline.com/health/atherosclerosis#TOC_TITLE_HDR_1.Accessed March 26, 2021

Atherosclerosis.https://www.heart.org/en/health-topics/cholesterol/about-cholesterol/atherosclerosis.Accessed March 26, 2021

Arteriosclerosis / atherosclerosis.https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/arteriosclerosis-atherosclerosis/symptoms-causes/syc-20350569#:~:text=Atherosclerosis%20refers%20to%20the%20buildup,arteries%20anywhere%20in%20your%20body..Accessed March 26, 2021

Atherosclerosis.https://www.webmd.com/heart-disease/what-is-atherosclerosis#1.Accessed March 26, 2021

เวอร์ชันปัจจุบัน

08/05/2022

เขียนโดย ชลธิชา จันทร์วิบูลย์

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย นายแพทย์สุรพงษ์ หล่อสมฤดี

อัปเดตโดย: สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


บทความที่เกี่ยวข้อง

หลอดเลือดแดง และโรคหลอดเลือดแดงแข็ง เชื่อมโยงกันอย่างไร

Atherosclerosis คือ ภาวะหลอดเลือดแข็ง ที่ควรรักษา


ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

นายแพทย์สุรพงษ์ หล่อสมฤดี

แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป · คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่


เขียนโดย ชลธิชา จันทร์วิบูลย์ · แก้ไขล่าสุด 08/05/2022

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา