การติดเชื้ออีโคไล (E. coli) สามารถเกิดจากการดื่มน้ำ หรือกินอาหารที่มีเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อน ส่วนใหญ่จะทำให้เกิดอาการท้องเสียเล็กน้อยถึงรุนแรง
คำจำกัดความ
การติดเชื้ออีโคไล คืออะไร
แบคทีเรียเอสเชอริเชีย โคไล (Escherichia coli) หรืออีโคไล (E. coli) พบได้ในลำไส้ของมนุษย์และสัตว์ โดยปกติแล้ว แบคทีเรียอีโคไลส่วนใหญ่จะทำให้เกิดอาการท้องเสียเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็มีเชื้อแบคทีเรียอีโคไลบางสายพันธุ์ เช่น อีโคไล ซีโรไทป์ O157:H7 ซึ่งพบว่าแพร่ระบาดบ่อย ก็สามารถทำให้เกิดอาการติดเชื้ออีโคไลในลำไส้รุนแรง ส่งผลให้ถ่ายเหลว ปวดท้อง ถ่ายเป็นเลือด มีไข้ อาเจียนได้
การติดเชื้อแบคทีเรียอีโคไลสามารถเกิดจากการดื่มน้ำ หรือกินอาหารที่มีเชื้อแบคทีเรียอาศัยอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผักสด และเนื้อสัตว์ที่ไม่สุกดี หากเป็นผู้ใหญ่ที่สุขภาพแข็งแรงดี ส่วนมากแล้วจะสามารถหายจากการติดเชื้ออีโคไล ซีโรไทป์ O157:H7 ได้ภายใน 1 สัปดาห์ แต่หากเป็นเด็ก ผู้สูงอายุ คนที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ หญิงมีครรภ์ จะยิ่งมีความเสี่ยงสูงที่อาการจะพัฒนาไปจนถึงขั้นเสียชีวิตจากอาการไตวายที่เรียกว่า กลุ่มอาการเม็ดเลือดแดงแตกยูรีเมีย (Hemolytic-uremic syndrome หรือ HUS)
อย่างไรก็ตาม การติดเชื้ออีโคไลส่วนใหญ่ สามารถรักษาได้เองที่บ้าน
การติดเชื้ออีโคไล พบได้บ่อยแค่ไหน
การติดเชื้อแบคทีเรียอีโคไลนั้นพบได้บ่อยมาก มักพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย และสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย อย่างไรก็ดี การติดเชื้ออีโคไลสามารถจัดการได้ด้วยการลดปัจจัยเสี่ยง โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
อาการ
อาการของ การติดเชื้ออีโคไล
อาการที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยที่ติดเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ได้แก่
- อาการท้องเสียเฉียบพลัน ถ่ายเป็นน้ำอย่างรุนแรง หรือถ่ายเป็นเลือด
- อาการปวดท้องบิด หรือเจ็บเวลาจับท้อง
- วิงเวียนศีรษะ
- อาเจียน
- เบื่ออาหาร
- อ่อนแรง
- มีไข้
อาการของการติดเชื้อแบคทีเรียอีโคไลขั้นรุนแรง
- ปัสสาวะเป็นเลือด
- ปัสสาวะลดลง
- ตัวซีด
- มีรอยช้ำ
- มีภาวะขาดน้ำ
สำหรับผู้ป่วยบางราย อาจมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการนอกเหนือจากที่ระบุไว้ข้างต้น หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการต่าง ๆ โปรดปรึกษาคุณหมอ
ควรไปพบคุณหมอเมื่อใด
คุณควรไปพบคุณหมอ หากมีอาการเหล่านี้
- อาการท้องเสียไม่ดีขึ้นภายใน 4 วัน หรือ 2 วันสำหรับทารก หรือเด็ก
- ท้องเสียร่วมกับมีไข้
- อาการปวดท้องไม่หายไปหลังจากมีอาการท้องไส้ปั่นป่วน
- มีหนองหรือเลือดปนมาในอุจจาระ
- อาเจียนเกิน 12 ชั่วโมง
- มีอาการของการติดเชื้อในลำไส้ และเพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ
- ปัสสาวะไม่ออก
- กระหายน้ำอย่างรุนแรง
- วิงเวียน
ร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ของคุณ
สาเหตุ
สาเหตุของการติดเชื้ออีโคไล
การติดเชื้อแบคทีเรียอีโคไล อาจเกิดจากสาเหตุต่างๆ ดังต่อไปนี้
- รับประทานอาหารที่ปนเปื้อน ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่พบได้บ่อย
- ไม่ล้างมือ หรือล้างไม่สะอาดก่อนเตรียมอาหาร หรือก่อนกินอาหาร
- ใช้เครื่องครัวที่ไม่สะอาด เช่น เขียง มีด ภาชนะใส่อาหาร
- รับประทานอาหารที่ไม่สุก โดยเฉพาะอาหารทะเล
- ดื่มนมที่ไม่ได้ผ่านการพาสเจอร์ไรส์
- เนื้อสัตว์ที่นำมาปรุงอาหารผ่านกรรมวิธีที่ไม่สะอาด เช่น การฆ่าสัตว์ที่ไม่ได้มาตรฐาน การเก็บรักษาไม่ดี
- สัมผัสกับน้ำที่มีการปนเปื้อน เช่น การดื่มน้ำที่มีการปนเปื้อน ว่ายน้ำในทะเลสาบ หรือสระที่มีการปนเปื้อน
- จากคนสู่คน โดยแบคทีเรียอีโคไลสามารถแพร่ได้ง่ายเมื่อคนที่มีเชื้ออยู่นั้นไม่ล้างมือให้ดีและไปจับคนอื่น หรือสิ่งอื่น เช่นอาหาร
- ได้รับเชื้อผ่านสัตว์ โดยเฉพาะคนที่ทำงานเกี่ยวกับสัตว์ เช่น วัว แพะ แกะ
ปัจจัยเสี่ยง
มีปัจจัยเสี่ยงหลายประการสำหรับการติดเชื้ออีโคไล ได้แก่
- อายุ เด็กเล็ก และผู้สูงอายุนั้นมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อได้มากกว่าวัยอื่น
- ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ที่ใช้ยารักษาโรคมะเร็ง ผู้ที่ได้รับการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ
- การกินอาหารบางชนิด เช่น เนื้อสัตว์ไม่สุก นมที่ไม่ได้ผ่านการพาสเจอร์ไรส์ ชีสที่ทำมาจากนมสด
- ช่วงเวลา เดือนมิถุนายน ถึงเดือนกันยายน ถือเป็นช่วงที่มีผู้ที่ติดเชื้อแบคทีเรียอีโคไลมาก
- การรับประทานยาลดกรด เช่น อีโซเมปราโซล แพนโทพราโซล แลนโซพราโซล โอเมพราโซล
การไม่มีปัจจัยเสี่ยงไม่ได้หมายความว่า คุณจะไม่มีโอกาสติดเชื้อแบคทีเรียอีโคไล ปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้เป็นข้อมูลอ้างอิงเท่านั้น คุณควรปรึกษแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
การวินิจฉัยและการรักษาโรค
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
การวินิจฉัยการติดเชื้ออีโคไล
การติดเชื้อโรคอีโคไลนั้นสามารถวินิจฉัยได้จากผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดปรึกษาแพทย์
การรักษาการติดเชื้ออีโคไล
การรักษาสำหรับการติดเชื้ออีโคไลในกรณีส่วนใหญ่ จะมีขั้นตอนต่อไปนี้
- ทำการทดสอบหลายๆ รอบ
- ดื่มน้ำมากๆ เพื่อลดความเสี่ยงเกิดภาวะขาดน้ำ และความเมื่อยล้า หากจำเป็น แพทย์อาจให้คุณพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพื่อให้น้ำเกลือ
- ทานยาแก้ท้องเสีย แต่ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตนเอง
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตนเองที่ช่วยรับมือกับการติดเชื้ออีโคไล
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตนเองดังต่อไปนี้ จะช่วยให้คุณรับมือกับการติดเชื้ออีโคไลได้
- ล้างผักและผลไม้ และอาหารอื่นๆ ให้สะอาดที่สุด เท่าที่ทำได้ ยกเว้นเนื้อไก่สด
- ล้างมือให้สะอาด ทั้งก่อนรับประทานอาหาร หลังเข้าห้องน้ำ หลังสัมผัสกับสัตว์
- ใช้เครื่องครัว และอุปกรณ์ทำครัว เช่น กระทะ ภาชนะใส่อาหาร ที่สะอาด
- เก็บเนื้อสัตว์ไว้ให้ห่างจากผัก ผลไม้ หรือสิ่งอื่นๆ ในตู้เย็น โดยต้องใส่ในภาชนะที่ปิดมิดชิด เพื่อป้องกันน้ำจากเนื้อสัตว์ไหลไปปนเปื้อนสิ่งอื่น
- หากจะละลายเนื้อสัตว์แช่แข็ง ควรนำออกจากช่องแช่แข็งมาใส่ช่องปกติ หรือละลายน้ำแข็งในไมโครเวฟแทน อย่านำเนื้อสัตว์ออกมาวางให้ละลายบริเวณอ่างน้ำ หรือเคาน์เตอร์เตรียมอาหาร เพราะอาจทำให้อาหารอื่นหรือเครื่องครัวปนเปื้อนได้
- หากรับประทานอาหารไม่หมด ควรใส่ภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด แล้วเก็บเข้าตู้เย็นทันที
- ดื่มนมที่ผ่านการพาสเจอร์ไรส์แล้วเท่านั้น
- ดื่มน้ำที่บรรจุขวดอย่างสะอาดถูกสุขอนามัย หรือดื่มน้ำต้มสุกเท่านั้น
- หากคุณท้องเสีย ไม่ควรทำอาหาร เพราะอาจทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายไปสู่ผู้อื่นได้
หากคุณมีข้อสงสัย โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อให้เข้าใจได้ดีขึ้นถึงวิธีการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด