โรคคอพอก (Goiter) เป็นความผิดปกติเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ ส่งผลให้ต่อมไทรอยด์บวมกว่าปกติ โดยมีสาเหตุมาจากร่างกายขาดไอโอดีน รวมถึงโรคบางอย่างและการตั้งครรภ์ ทั้งนี้ โรคคอพอกสามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยการรับประทานยาและการผ่าตัด
[embed-health-tool-bmr]
โรคคอพอกคืออะไร
โรคคอพอกเป็นการบวมของต่อมไทรอยด์ หรือต่อมไร้ท่อบริเวณลำคอ ซึ่งมีหน้าที่ผลิตฮอร์โมนเพื่อควบคุมการเผาผลาญพลังงานจากอาหาร ให้สอดคล้องกับระดับพลังงานที่ร่างกายต้องการ
โดยทั่วไป โรคคอพอกมักสัมพันธ์กับระดับฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงมากกว่าปกติ หรือที่เรียกว่าภาวะไทรอยด์ทำงานมากเกินไป (Hyperthyroidism) และภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ (Hypothyroidism)
โรคคอพอก มีอาการอย่างไร
เมื่อเป็นโรคคอพอก ต่อมไทรอยด์จะมีอาการบวมจนเห็นได้ชัด หรืออาจบวมจากเดิมเล็กน้อยจนยากที่จะสังเกตเห็น
นอกจากนี้ อาการอื่น ๆ ของโรคคอพอกมีทั้งอาการที่พบบ่อยและอาการที่พบได้ไม่บ่อย ได้แก่
อาการที่พบบ่อย มีดังนี้
- รู้สึกแน่นในลำคอ
- เสียงแหบ
- หลอดเลือดบริเวณลำคอบวม
- วิงเวียน เมื่อยกแขนขึ้นเหนือศีรษะ
อาการที่พบได้ไม่บ่อย
- หายใจลำบาก
- หายใจมีเสียงหวีด
- ไอ
- กลืนอาหารได้ลำบาก
หากมีภาวะไทรอยด์ทำงานมากเกินไปหรือภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ร่วมด้วย จะมีอาการดังต่อไปนี้ร่วมด้วย
ภาวะไทรอยด์ทำงานมากเกินไป มีอาการดังนี้
- น้ำหนักลด
- หัวใจเต้นเร็ว
- เหงื่อออกมาก
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- นอนหลับยาก
- ประจำเดือนมาไม่ปกติ
- ความดันโลหิตสูง
- หิวบ่อย
ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ มีอาการดังนี้
- อ่อนเพลีย
- ง่วงนอนมากกว่าปกติ
- ผิวแห้ง
- ท้องผูก
- มีปัญหาเกี่ยวกับความทรงจำหรือไม่มีสมาธิ
โรคคอพอก เกิดจากสาเหตุอะไร
โรคคอพอกเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- ร่างกายขาดไอโอดีน (Iodine) ไอโอดีนเป็นธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ เมื่อได้รับไอโอดีนไม่เพียงพอ ต่อมใต้สมองจะกระตุ้นให้ต่อมไทรอยด์ทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้ต่อมไทรอยด์มีขนาดใหญ่กว่าเดิม
- โรคฮาชิโมโตะ (Hashimoto’s Disease) เป็นโรคภูมิต้านทานเนื้อเยื่อของตนเอง ซึ่งเมื่อเป็นแล้วต่อมไทรอยด์จะเสียหาย อักเสบ และผลิตฮอร์โมนได้น้อยลง จนต่อมใต้สมองต้องกระตุ้นให้ต่อมไทรอยด์ทำงานหนักกว่าเดิมและมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น
- โรคเกรฟส์ (Graves’ Disease) เป็นโรคภูมิต้านทานเนื้อเยื่อของตนเอง ซึ่งกระตุ้นให้ต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนมากกว่าปกติ หรือมีภาวะไทรอยด์ทำงานมากเกินไป และมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น
- การตั้งครรภ์ ฮอร์โมนฮิวแมน คอริโอนิก โกนาโดโทรฟิน (Human Chorionic Gonadotropin) ซึ่งร่างกายหลั่งออกมาเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตและการตกไข่ของผู้หญิง สามารถทำให้ต่อมไทรอยด์ทำงานหนักขึ้น หรือบวมขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยได้
- ต่อมไทรอยด์อักเสบ เนื่องจากโรคภูมิต้านทานเนื้อเยื่อของตนเอง การติดเชื้อ หรือการใช้ยาบางชนิด ทำให้ต่อมไทรอยด์บวม และมีภาวะไทรอยด์ทำงานมากเกินไปหรือพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ได้
- มะเร็งไทรอยด์ เป็นความผิดปกติของไทรอยด์ที่พบได้ไม่บ่อยนัก หรือประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ของเนื้องอกทั้งหมดที่พบบริเวณไทรอยด์ มะเร็งไทรอยด์ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่ผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ ผู้ที่มีประวัติถูกฉายรังสีขณะเป็นทารกหรือเป็นเด็ก รวมถึงผู้ที่เคยเป็นโรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์
โรคคอพอกรักษาได้อย่างไร
วิธีการรักษาโรคคอพอกนั้นขึ้นอยู่กับอาการบวมของต่อมไทรอยด์ หากต่อมไทรอยด์บวมไม่มาก คุณหมอจะแนะนำให้รอดูอาการหรือปล่อยให้โรคคอพอกค่อย ๆ หายเอง แต่หากต่อมไทรอยด์มีขนาดใหญ่ หรือส่งผลต่อการดำเนินชีวิต คุณหมอจะเลือกรักษาด้วยวิธีการต่อไปนี้
- เพิ่มการผลิตฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์ ในกรณีที่พบอาการของภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ ด้วยการให้ยาลีโวไทร็อกซีน (Levothyroxine)
- ลดการผลิตฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ที่มากเกินไป หากมีภาวะไทรอยด์ทำงานมากเกินไป โดยคุณหมอจะจ่ายยาอย่างเมไทมาโซล (Methimazole) อะทีโนลอล (Atenolol) หรือเมโทโพรลอล (Metoprolol) ให้คนไข้รับประทาน
- ให้สารไอโอดีนที่เป็นกัมมันตรังสี (Radioactive Iodine Therapy) ในรูปแบบน้ำหรือแคปซูล เป็นการรักษาภาวะไทรอยด์ทำงานมากเกินไปรวมถึงมะเร็งไทรอยด์ โดยสารไอโอดีนจะออกฤทธิ์กำจัดเซลล์ร้ายของต่อมไทรอยด์ ทำให้ต่อมไทรอยด์ที่บวมอยู่มีขนาดเล็กลง
- ผ่าตัด เป็นการนำต่อมไทรอยด์บางส่วนหรือทั้งหมดออกจากร่างกาย คุณหมออาจเลือกรักษาด้วยวิธีนี้หากพบก้อนบวมบริเวณต่อมไทรอยด์ หรือเป็นโรคมะเร็งไทรอยด์ หรือเมื่อต่อมไทรอยด์บวมจนผู้ป่วยหายใจหรือกลืนอาหารได้ลำบาก ทั้งนี้ หลังผ่าตัดแล้ว ผู้ป่วยต้องได้รับฮอร์โมนไทรอยด์ทดแทนตลอดชีวิต
โรคคอพอก ป้องกันได้อย่างไร
โรคคอพอกเกิดจากหลายสาเหตุ แต่อาจป้องกันได้ด้วยการรับประทานอาหารที่มีไอโอดีนเพื่อให้ร่างกายได้รับไอโอดีนที่จำเป็นต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์เพียงพอ เช่น อาหารทะเล สาหร่าย ไข่ และผลิตภัณฑ์จากนม ทั้งนี้ ร่างกายควรได้รับปริมาณไอโอดีน 140 ไมโครกรัมต่อวัน