อาจช่วยป้องกันมะเร็งได้
กระเจี๊ยบมีสารแอนโทไซยานินที่มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เมื่อออกฤทธิ์ร่วมกับสารอื่น ๆ ในกระเจี๊ยบอาจช่วยต้านมะเร็งได้ โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Evidence-Based Complementary and Alternative Medicine ฉบับเดือนเมษายน พ.ศ. 2565 ศึกษาเรื่องประสิทธิภาพของสารสกัดจากกระเจี๊ยบในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระและจุลพยาธิวิทยาในเนื้องอกของเต้านมของหนูทดลอง พบว่า การบริโภคสารสกัดจากกระเจี๊ยบในปริมาณ 125 และ 500 มิลลิกรัมช่วยเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดแดงและเกล็ดเลือดได้ อีกทั้งสารแอนโทไซยานินยังช่วยยับยั้งการแตกของเม็ดเลือดที่เกิดจากสารก่อมะเร็งในเซลล์เม็ดเลือดในหนูทดลอง ซึ่งอาจยืนยันประสิทธิภาพการยับยั้งมะเร็งของกระเจี๊ยบได้
นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Molecular Carcinogenesis เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2548 ศึกษาเรื่องสารสกัดกระเจี๊ยบซึ่งอุดมด้วยสารโพลิฟีนอล (Polyphenol) ที่กระตุ้นให้เซลล์มะเร็งกระเพาะอาหารตายลงได้ พบว่า สารโพลิฟีนอลมีกลไกการออกฤทธิ์ต้านมะเร็ง สามารถกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งในกระเพาะอาหารของมนุษย์ตายได้ ซึ่งอาจมีประโยชน์ในการนำไปรักษาโรคมะเร็งในอนาคต
อาจช่วยป้องกันโรคอ้วนได้
กระเจี๊ยบมีฤทธิ์ในการยับยั้งการสะสมไขมันในร่างกาย เพราะประกอบไปด้วยสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ เช่น สารฟลาโวนอยด์ กรดคลอโรจีนิก สารฟีนอล และสารอื่น ๆ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคเบาหวาน ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดและโรคอ้วน โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่ง ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Molecules ฉบับเดือนเมษายน พ.ศ. 2562 ศึกษาเรื่องประโยชน์ของสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพจากกระเจี๊ยบต่อโรคอ้วน โดยการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลงานวิจัยในกลุ่มตัวอย่างทั้งสัตว์ทดลองและมนุษย์ในหัวข้อที่เกี่ยวข้อง พบว่า การบริโภคกระเจี๊ยบช่วยลดน้ำหนักตัว ลดการสะสมไขมัน และเพิ่มการเผาผลาญคอเลสเตอรอลได้
ข้อควรระวังในการบริโภค กระเจี๊ยบ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย