5 ประโยชน์ของกระเทียม
กระเทียมมีสารอัลลิซิน ซึ่งทำให้เกิดกลิ่นเฉพาะตัว ทั้งยังเป็นสารออกฤทธิ์หลักที่อาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านต่าง ๆ ดังนี้
อาจช่วยป้องกันไข้หวัด
การรับประทานกระเทียมอาจช่วยเพิ่มการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และอาจทำให้อาการไข้หวัดดีขึ้น จากการวิจัยชิ้นหนึ่งของ The Cochrane Database of Systematic Reviews พ.ศ. 2564 ศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของกระเทียมในการป้องกันหรือรักษาโรคไข้หวัด ในอาสาสมัคร 146 ราย พบว่า ผู้ที่ได้รับประทานอาหารเสริมกระเทียมวันละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 12 สัปดาห์ ป่วยเป็นโรคไข้หวัดลดลง เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก จึงอาจสรุปได้ว่า การบริโภคอาหารเสริมจากกระเทียมอาจช่วยป้องกันไข้หวัด ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยในการใช้กระเทียมเพื่อป้องกันหวัด ควรมีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณสมบัติของกระเทียม
อาจช่วยปรับปรุงระดับคอเลสเตอรอล
กระเทียมอาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลรวมและไขมันชนิดไม่ดี (LDL) ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจ จากงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในสารวาร Nutrition Reviews พ.ศ. 2556 ศึกษาเกี่ยวกับผลของกระเทียมต่อไขมันในเลือด โดยไขมันในเลือดสูงมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการเกิดโรคหัวใจ พบว่า ผู้ที่มีอายุ 50 ปี และมีระดับคอเลสเตอรอล 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หลังรับประทานกระเทียมเป็นเวลา 2 เดือน มีระดับของคอเลสเตอรอลทั้งหมดในเลือดลดลง 8% ซึ่งสัมพันธ์กับการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ 38%
นอกจากนั้น กระเทียมอาจมีประสิทธิภาพในการลดคอเลสเตอรอลรวมได้ประมาณ 6 มิลลิกรัม/เดซิลิตร และอาจช่วยลดคอเลสเตอรอลไลโปโปรตีนความหนาแน่นต่ำได้ประมาณ 6 มิลลิกรัม/เดซิลิตร จึงอาจกล่าวได้ว่า กระเทียมอาจมีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอลและเป็นสมุนไพรที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีคอเลสเตอรอลสูง
อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง
สารประกอบออร์กาโนซัลเฟอร์ (Organosulfur) ที่พบในกระเทียม อาจมีประสิทธิภาพในการทำลายเซลล์เนื้องอกไกลโอบลาสโตมา (Glioblastomas) ซึ่งเป็นเนื้องอกในสมองชนิดร้ายแรง โดยงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Cancer พ.ศ. 2550 ศึกษาเกี่ยวกับสารประกอบออร์กาโนซัลเฟอร์ที่ได้มาจากกระเทียม พบว่า สารประกอบออร์กาโนซัลเฟอร์ที่ได้มาจากกระเทียม 3 ชนิด คือ ไดอัลลิล ซัลไฟด์ (Diallyl Sulfide) ไดอัลลิล ไดซัลไฟด์ (Diallyl Disulfide) ไดอัลลิล ไตรซัลไฟด์ (Diallyl Trisulfide) อาจมีส่วนช่วยป้องกันการก่อมะเร็ง นอกจากนั้น สารประกอบในกระเทียมยังทำให้เซลล์เนื้องอกไกลโอบลาสโตมามีวงจรชีวิตสั้นลงและอาจมีส่วนทำให้เซลล์ตายลงอย่างช้า ๆ
อาจช่วยปรับปรุงสุขภาพกระดูก
ผู้หญิงที่รับประทานผักซึ่งอุดมไปด้วยสารอัลลิซินมีความเสี่ยงต่ำในการเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม จากการวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Dietary Supplements พ.ศ. 2555 ศึกษาเกี่ยวกับผลของกระเทียมอัดเม็ดต่อไซโตไคน์ (Cytokines) ที่ก่อให้เกิดการอักเสบในสตรีวัยหมดประจำเดือนที่เป็นโรคกระดูกพรุนจำนวน 44 ราย พบว่า ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนที่เป็นโรคกระดูกพรุนแล้วรับประทานกระเทียมรูปแบบอัดเม็ด 2 เม็ดทุกวัน เป็นเวลา 1 เดือน มีค่าเฉลี่ยของสารไซโตไคน์ลดลงประมาณ 47% อย่างมีนัยสำคัญ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย