น้ำมันกัญชา คือ สารสกัดเข้มข้นจากต้นกัญชาที่มีความเข้มข้นของสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (Tetrahydrocannabinol หรือ THC) ในระดับสูง ซึ่งถูกจัดเป็นสารเสพติด และยังมีสารแคนนาบิไดออล (Cannabidiol;CBD) ที่อาจช่วยบรรเทาอาการปวดข้อ ป้องกันสิว และลดความเครียดได้ น้ำมันกัญชาจึงมีสรรพคุณมากมาย อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยได้อนุญาตให้นำน้ำมันกัญชามาใช้ในทางการแพทย์ โดยอาจนำมาเป็นส่วนประกอบของยา รวมถึงอาหาร สมุนไพร และเครื่องสำอาง ที่จำเป็นต้องผ่านการเจือจางความเข้มข้นของสาร THC ให้เหลือเพียง 0.2% และควรขอคำปรึกษาจากคุณหมอก่อนใช้เพื่อความปลอดภัย
[embed-health-tool-bmi]
คุณค่าทางโภชนาการของน้ำมันกัญชา
น้ำมันกัญชา 1 ช้อนโต๊ะ อาจให้พลังงาน 125 แคลอรี่ และกรดไขมัน 14 กรัม ที่ประกอบด้วย
- กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 11 กรัม ได้แก่ กรดอัลฟาไลโนเลนิก (Alpha-Linolenic Acid) กรดไขมันกรดแกมมาไลโนเลนิก (Gamma-Linolenic Acid หรือ GLA) และกรดลิโนเลอิก (Linoleic Acid)
- กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 2 กรัม
- กรดไขมันอิ่มตัว 1 กรัม
นอกจากนี้ น้ำมันกัญชายังมีสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล สารแคนนาบิไดออล รวมถึงวิตามินซี แคลเซียม ธาตุเหล็ก วิตามินบี อาจีนีน (Arginine) ที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงสุขภาพ หากใช้ในปริมาณที่เหมาะสม
น้ำมันกัญชา มีสรรพคุณอะไรบ้าง
น้ำมันกัญชามีสรรพคุณที่ดีต่อสุขภาพมากมาย โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุน สรรพคุณของน้ำมันกัญชาในการส่งเสริมสุขภาพ ดังนี้
-
อาจช่วยบรรเทาอาการปวด
น้ำมันกัญชา มีสารแคนนาบิไดออล ที่มีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวดเรื้อรังต่าง ๆ เช่น ปวดกล้ามเนื้อ ระบบประสาทส่วนกลาง ปวดข้อ ปวดประจำเดือน
จากการศึกษาในวารสาร American of Physicians ปีพ.ศ. 2565 ที่ศึกษาเกี่ยวกับการใช้การใช้ผลิตภัณฑ์จากกัญชาเพื่ออาการปวดเรื้อรัง โดยรวบรวมข้อมูลจากฐานข้อมูลต่าง ๆ พบว่า ผู้ป่วยที่มีอาการปวดตามระบบประสาทที่ใช้สารสกัดจากกัญชา อาจมีอาการปวดเรื้อรังลดลงในระยะสั้น แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมถึงผลลัพธ์ในระยะยาวและผลกระทบจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของกัญชา
นอกจากนี้ ยังมีอีกการศึกษาหนึ่งในวารสาร Journal of Pain Research ปีพ.ศ. 2564 ที่ศึกษาเกี่ยวกับความพึงพอใจในการใช้แคนนาบิไดออลต่อแคนนาบิไดออลต่อการรักษาอาการปวดเรื้อรัง โดยสอบถามผู้เข้าร่วมทั้งหมด 253 คน พบว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีทัศนคติเชิงบวกและความพึงพอใจในผลิตภัณฑ์กัญชาที่ใช้ในการรักษา
-
อาจช่วยป้องกันสิว
สารแคนนาบิไดออลในน้ำมันกัญชา มีสรรพคุณช่วยต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ ที่อาจช่วยป้องกันการเกิดสิว รักษาสิว เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และอาจช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
จากการศึกษาในวารสาร Journal of Clinical Investigation ปี พ.ศ. 2557 ที่ศึกษาเกี่ยวกับแคนนาบิไดออลที่ช่วยลดการสร้างน้ำมันส่วนเกินและช่วยต้านการอักเสบของเซลล์ซีโบไซต์ (Sebocytes) ซึ่งเป็นเซลล์ในต่อมไขมันที่หน้าที่ผลิตน้ำมันส่วนเกิน พบว่า แคนนาบิไดออลอาจช่วยยับยั้งการเพิ่มจำนวนของเซลล์ไขมันในซีโบไซต์ อีกทั้งยังอาจช่วยยับยั้งกระบวนการอักเสบ (NF-κB) ซึ่งอาจช่วยป้องกันการเกิดสิวหรือช่วยรักษาสิวได้
-
อาจช่วยรักษาโรคมะเร็ง
น้ำมันกัญชา มีสารแคนนาบินอยด์ (Cannabinoids) ซึ่งเป็นสารที่ออกฤทธิ์ในระบบประสาทส่วนกลาง และมีสรรพคุณช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (Oxidation) ซึ่งเป็นปฏิกิริยาที่ทำให้เซลล์เสื่อมสภาพ และอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง
จากการศึกษาในวารสาร Bosnian Journal of Basic Medical Sciences ปี พ.ศ. 2562 เกี่ยวกับการใช้แคนนาบินอยด์ในการรักษามะเร็ง พบว่า สารแคนนาบินอยด์ อาจช่วยชะลอการเจริญเติบโตของเนื้องอก และชะลอการเพิ่มจำนวนของเซลล์มะเร็งได้ ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะเริ่มมีการใช้น้ำมันกัญชารักษาทางการแพทย์มากขึ้น แต่ยังคงจำเป็นต้องทำการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป
-
อาจช่วยบรรเทาอาการวิตกกังวล
น้ำมันกัญชา มีสารแคนนาบิไดออล ที่มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการวิตกกังวลได้ แต่ขณะเดียวกันหากใช้ในปริมาณมากเกินไปก็อาจเสี่ยงทำให้เกิดอาการจิตเวช ซึมเศร้าได้เช่นเดียวกัน
จากการศึกษาในวารสาร The Permanente Journal ปี พ.ศ. 2562 ที่ศึกษาเกี่ยวกับ แคนนาบิไดออลต่อความวิตกกังวลและนอนหลับ โดยให้กลุ่มอาสาสมัครผู้ใหญ่ 72 คน ที่มีอาการวิตกกังวล 47 คน และผู้ที่มีอาการนอนไม่หลับ 25 คนได้รับการรักษาด้วยแคนนาบิไดออล จากการประเมินผลพบว่าทั้ง 2 กลุ่มมีอาการดีขึ้นในเดือนแรกและเดือนถัดไปตามลำดับ
ข้อควรระวังเกี่ยวกับสรรพคุณของน้ำมันกัญชา
น้ำมันกัญชา อาจมีสรรพคุณที่ดีต่อสุขภาพ หากใช้ในทางการแพทย์และใช้ในขนาดที่เหมาะสม โดยกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขแห่งประเทศไทยแนะนำว่า ไม่ควรใช้น้ำมันกัญชาเกิน 30 มิลลิกรัม/วัน หรือควรใช้ตามที่คุณหมอกำหนด อีกทั้งควรสังเกตอาการของตนเอง หากพบว่ามีอาการท้องร่วง ปวดท้อง ประสาทหลอน กระสับกระส่าย หัวใจเต้นช้า วิงเวียนศีรษะ และระคายเคืองผิวหนัง ควรหยุดใช้ทันที
น้ำมันกัญชามีสรรพคุณที่อาจช่วยลดความดันโลหิต จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำเรื้อรัง โดยเฉพาะผู้ป่วยที่วางแผนผ่าตัด เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงทำให้หัวใจทำงานผิดปกติ มีอาการช็อก และอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้ ดังนั้น จึงควรหยุดการใช้น้ำมันกัญชาก่อนการผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์
น้ำมันกัญชาอาจเหมาะสำหรับใช้รักษาผู้ป่วยที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่แนะนำให้ใช้ในผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี รวมถึงผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับ ผู้ป่วยโรคจิตเวช ผู้ที่ติดสารเสพติดหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสตรีตั้งครรภ์ เพราะน้ำมันกัญชามีสารประกอบที่จัดอยู่ในกลุ่มสารเสพติด จึงอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงระดับรุนแรง เช่น การแท้งบุตร ทารกน้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หัวใจทำงานผิดปกติ และระบบประสาทส่วนกลางถูกทำลาย