-
อาจช่วยป้องกันโรคเรื้อรัง
ผักอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี วิตามินเอ โฟเลต ไลโคปีน (Lycopene) ที่มีบทบาทสำคัญช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่ส่งผลให้เซลล์เสื่อมสภาพ และอาจนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็ง และโรคหัวใจและหลอดเลือด จากการศึกษาในวารสาร Vegetable Crops Health Benefits and Cultivation ปี พ.ศ. 2564 เกี่ยวกับประโยชน์ของผักในการป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง พบว่า การรับประทานผักอาจช่วยป้องกันโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด มะเร็ง และโรคอ้วน เนื่องจากผักมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ช่วยขับปัสสาวะ อีกทั้งยังมีโพแทสเซียมและโฟเลต ที่อาจช่วยต้านสารฮิสตามีน (Histamine) ที่เข้าไปจับตัวกับเนื้อเยื่อและผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดขยายตัว จนส่งผลให้หลอดเลือดหัวใจอักเสบ และนำไปสู่การเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
ผักมีลูทีน (Lutein) และซีแซนทีน (Zeaxanthin) ที่เป็นสารในตระกูล (Carotenoid) คือ สารพฤกษเคมีที่ออกฤทธิ์ต้านสารอนุมูลอิสระ ซึ่งอาจมีส่วนช่วยบำรุงสายตาให้มีการมองเห็นที่ดีขึ้นและลดความเสี่ยงการเกิดปัญหาสายตา เช่น สายตาสั้น จอประสาทตาเสื่อม
จากการศึกษาในวารสาร International journal of Ophthalmology ปี พ.ศ. 2561 ที่ศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของการรับประทานผักและผลไม้กับความเสี่ยงในการเกิดอาการตาล้าในนักศึกษาชาวจีน โดยมีนักศึกษาเข้าร่วม 1,022 คน จากมหาวิทยาลัย 5 แห่ง โดยการทำแบบสอบถามถึงการใช้ชีวิต อาการทางสายตา พฤติกรรมการดูแลดวงตา และประวัติของโรคที่เป็น พบว่า การรับประทานผักใบเขียวเข้มมากขึ้นอาจช่วยลดความเสี่ยงอาการตาล้า บรรเทาอาการตาพร่ามัว เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของจุดภาพชัดดวงตา และอาจช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (Oxidation) ที่อาจส่งผลกระทบต่อเรตินาและกล้ามเนื้อตาได้
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย