ทั้งนี้ ผู้ใหญ่ที่ขาดวิตามินดีก็อาจไม่แสดงอาการผิดปกติใด ๆ ให้เห็น การไปพบคุณหมอเพื่อรับการตรวจเลือด อาจช่วยให้ทราบว่าร่างกายขาดสารอาหารหรือจำเป็นต้องเสริมวิตามินดีหรือสารอาหารอื่น ๆ หรือไม่
หากร่างกายได้รับวิตามินดีไม่เพียงพอ อาจส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพ ดังนี้
- โรคกระดูกอ่อนในเด็ก (Rickets) เป็นภาวะที่กระดูกไม่แข็งแรงและโค้งงอผิดรูปที่พบในเด็ก อาจส่งผลให้กระดูกไม่สามารถเจริญเติบโตได้ตามปกติ และทำให้เกิดความผิดปกติ เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง เจ็บกระดูก โครงสร้างข้อต่อผิดปกติ กระดูกผิดรูป
- โรคกระดูกพรุน เป็นภาวะที่อาจเกิดในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ที่ขาดวิตามินดี อาจทำให้เสี่ยงกระดูกเสื่อมหรือบางง่าย และมีกระบวนการสร้างกระดูกใหม่ผิดปกติ ทำให้กระดูกเปราะหักได้ง่าย และอาจเกิดภาวะทางสุขภาพอื่น ๆ เช่น ความผิดปกติของกระดูก ภาวะเสื่อมของฟัน อาการชักจากภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ
ข้อควรระวังในการบริโภควิตามินดี
ในอาหารทั่วไปมีปริมาณวิตามินดีน้อยเกินกว่าจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพ แต่หากกินอาหารเสริมวิตามินดีในปริมาณมากเกินไปเป็นเวลานาน อาจเสี่ยงเกิดภาวะวิตามินดีเป็นพิษ (Vitamin D intoxication) จนส่งผลให้มีแคลเซียมและฟอสเฟตในกระแสเลือดมากเกินไป และนำไปสู่อาการผิดปกติ เช่น น้ำหนักลด เบื่ออาหาร กระสับกระส่าย หัวใจเต้นผิดจังหวะ จึงไม่ควรบริโภควิตามินดีในรูปแบบอาหารเสริมเกิน 100 ไมโครกรัม หรือ 4,000 IU ต่อวัน เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาสุขภาพ
นอกจากนี้ วิตามินดีอาจมีปฏิกิริยากับยารักษาโรคบางชนิด เช่น ยาบูโรซูแมบ (Burosumab) ยาจับฟอสเฟต (Phosphate binders) ยาไบล์แอซิดซีเควสแตรนต์ (Bile acid sequestrants) จึงไม่ควรกินในเวลาใกล้เคียงกัน
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย