เห็ดออรินจิ หรือเห็ดนางรมหลวง นิยมนำมาบริโภค ทั้งในแบบสดและแบบผง หรือสารสกัด เนื่องจากมีแคลอรี่ต่ำ อุดมไปด้วยคุณค่าโภชนาการ มีวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด การบริโภคเห็ดออรินจิให้ประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ เช่น ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย อย่างไรก็ตาม ควรบริโภคเห็ดออรินจิในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาสุขภาพ
[embed-health-tool-bmi]
คุณค่าทางโภชนาการของ เห็ดออรินจิ
ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรแห่งสหรัฐอเมริกา (United States Department of Agriculture หรือ USDA) ระบุว่า เห็ดออรินจิ 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 41 กิโลแคลอรี่ และอุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามินและแร่ธาตุ เช่น
- คาร์โบไฮเดรต 6.94 กรัม
- โปรตีน 2.9 กรัม
- ไขมัน 0.19 กรัม
- โพแทสเซียม 282 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 86 มิลลิกรัม
- แมกนีเซียม 13.9 มิลลิกรัม
- โซเดียม 1 มิลลิกรัม
นอกจากนี้ เห็ดออรินจิโดยังมีสังกะสี ทองแดง เหล็ก วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 6 วิตามินบี 7 ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ การรับประทานเห็ดออรินจิในปริมาณที่เหมาะสมจึงอาจส่งผลดีต่อสุขภาพหลายประการ อีกทั้งเห็ดออรินจิยังมีพลังงานและแคลลอรี่ต่ำ จึงเหมาะสำหรับบุคคลทั่วไปและผู้ป่วยที่มีไขมันในเลือดสูง เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ที่เป็นโรคอ้วน
ประโยชน์ต่อสุขภาพของ เห็ดออรินจิ
เห็ดออรินจิอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนคุณสมบัติในการส่งเสริมสุขภาพของเห็ดออรินจิ ดังนี้
อาจช่วยในการลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด
เห็ดออรินจิ อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular diseases) ที่เกิดจากโรคทางคาร์ดิโอเมตาบอลิก (Cardiometabolic diseases) เช่น โรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคอ้วน ภาวะไขมันในเลือดผิดปกติ ได้ เนื่องจากมีฤทธิ์ช่วยลดลดน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีมีประสิทธิภาพ
โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nutrients เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2564 ศึกษาเรื่อง ผลของการบริโภคเห็ดสกุลนางรม รวมถึงเห็ดนางรมหลวงหรือที่เรียกว่าเห็ดออรินจิต่อปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและเมแทบอลิค หรือคาร์ดิโอเมตาบอลิก (Cardiometabolic diseases) โดยแบ่งกลุ่มตัวอย่างออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือผู้ที่มีสุขภาพดี กลุ่มที่ 2 คือผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ควบคุมอาหาร รับประทานสารสกัดจากเห็ดออรินจิในปริมาณ 50 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม พบว่า สารสกัดเห็ดออรินจิมีส่วนช่วยเพิ่มการดูดซึมกลูโคสในลำไส้ แต่ในขณะเดียวกันก็ลดระดับกลูโคสในซีรัม ทั้งยังกระตุ้นการหลั่งอินซูลินที่ทำหน้าที่ควบคุมสมดุลของระดับกลูโคสในเลือด จึงอาจสรุปได้ว่า เห็ดออรินจิมีประโยชน์ในการควบคุมน้ำตาลของผู้ป่วยเบาหวาน
นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่ง ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Phytotherapy Research เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2547 ศึกษาเรื่อง การยับยั้งการอักเสบและการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือดของสารสกัดเมทานอลของเห็ดสกุลนางรม พบว่า สารสกัดจากเห็ดสกุลนางรม รวมถึงเห็ดนางรมหลวงหรือเห็ดออรินจิสามารถเยียวยาการอักเสบเฉียบพลันและการอักเสบเรื้อรังได้ เมื่อรับประทานในปริมาณ 500 และ 1000 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม จึงอาจกล่าวได้ว่า เห็ดออรินจิมีศักยภาพในการรักษาโรคความผิดปกติของหลอดเลือด เช่น ภาวะหลอดเลือดอุดตัน ได้
อาจมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ
เห็ดออรินจิประกอบไปด้วยสารกลุ่มเบต้ากลูแคนส์ (Beta-glucans) ที่พบได้ทั่วไปในสิ่งมีชีวิตตระกูลเห็ด รา ยีสต์ เบต้ากลูแคนส์ช่วยเคลื่อนย้ายเม็ดเลือดขาวให้ไปยังบริเวณที่เกิดการอักเสบและส่งเสริมการทำงานของสารต้านจุลชีพ เห็ดออรินจิจึงมีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบ โดยกระตุ้นให้เกิดการตอบสนองต่ออาการอักเสบของเซลล์ภายในร่างกาย
จากงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nutrition เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2554 ศึกษาเรื่อง ฤทธิ์ต้านการอักเสบของเห็ดสกุลนางรม รวมถึงเห็ดออรินจิที่เกิดขึ้นจากความสามารถในการยับยั้งการส่งสัญญาณของโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการอักเสบและการเกิดมะเร็งอย่าง NF-κB และ AP-1 พบว่า สารประกอบของเห็ดออรินจิ เช่น เมทานอล สเตียรอยด์ กรดฟีนอลิก ไทโรซีน (Tyrosine) วิตามินบี 2 มีฤทธิ์ในการยับยั้งอาการอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงอาจสรุปได้ว่า เห็ดสกุลนางรม รวมถึงเห็ดออรินจิเป็นอาหารที่มีประโยชน์ในการยับยั้งอาการอักเสบของเซลล์ในร่างกาย
อาจช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้
เห็ดออรินจิ มีส่วนประกอบของสารพอลิแซ็กคาไรด์ (Polysaccharides) ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้นกัน โดยสารชนิดนี้จะทำงานร่วมกับเม็ดเลือดขาวแมกโครฟาจ (Macrophage) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ภูมิคุ้มกัน (Dendritic cells) ซึ่งมีหน้าที่ทำลายเซลล์แปลกปลอมที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย และเพิ่มประสิทธิภาพในการต้านเชื้อโรคได้
จากงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2564 ศึกษาเรื่องความรู้และมุมมองต่อสารพอลิแซ็กคาไรด์ในเห็ดสกุลนางรม พบว่า สารพอลิแซ็กคาไรด์ที่พบในเห็ดสกุลนางรม มีส่วนช่วยลดความเสียหายจากการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันที่เกิดจากอนุมูลอิสระได้ ทั้งยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ลดระดับน้ำตาลในเลือด ต้านการอักเสบ ควบคุมความสมดุลของจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร จึงอาจสรุปได้ว่า การรับประทานเห็ดออรินจิหรือเห็ดนางรมหลวง ซึ่งเป็นเห็ดสกุลนางรมชนิดหนึ่ง อาจมีส่วนช่วยให้ระบบร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันได้
ข้อควรระวังในการบริโภค เห็ดออรินจิ
เห็ดออรินจิอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ แต่หากรับประทานมากเกินไป หรือรับประทานผิดวิธี ก็อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงหรือผลเสียต่อสุขภาพได้ ดังนี้
- เห็ดมีทั้งชนิดที่กินได้และเป็นพิษ และบางครั้งอาจมีลักษณะคล้ายคลึงกันมากจนอาจทำให้เข้าใจผิดได้ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาสุขภาพจากการบริโภคเห็ดพิษ ควรเลือกซื้อเห็ดจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ และหลีกเลี่ยงการบริโภคเห็ดที่ไม่คุ้นเคย
- หากรับประทานเห็ดออรินจิหรือเห็ดอื่น ๆ แล้วมีอาการแพ้ เช่น วิงเวียนศีรษะ อาเจียน ท้องเสีย ควรหยุดรับประทานทันทีแล้วรีบไปพบคุณหมอ และควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเห็ดชนิดนั้น ๆ อีกในอนาคต
- เห็ดออรินจิมีส่วนประกอบของสารอราบิทอล (Arabitol) ในปริมาณเล็กน้อย สารชนิดนี้เป็นน้ำตาลแอลกอฮอล์ที่อาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ เช่น ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน จึงควรบริโภคอย่างระวัง และหยุดบริโภคทันทีหากพบอาการดังกล่าว