โรคภูมิแพ้

อาการแพ้ คือปฏิกิริยาตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน ที่มีต่อสิ่งแปลกปลอมหรือตัวกระตุ้นต่าง ๆ เช่น ฝุ่นละออง รังแค หรืออาหารบางชนิด และอาจเป็นอันตรายได้ หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง เรียนรู้เกี่ยวกับ โรคภูมิแพ้ ทั้งสาเหตุ อาการ ปัจจัยเสี่ยง การรักษา และการป้องกัน ได้ที่นี่

เรื่องเด่นประจำหมวด

โรคภูมิแพ้

เห็บ กัด อาการเป็นอย่างไร เสี่ยงโรคอะไรบ้าง

เห็บ ลักษณะกลมรี ตัวขนาดเล็ก ๆ มีหลายขา เห็บนั้นมีมากมายหลายร้อยชนิด พบได้ตามขนของสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะสุนัขและแมว เพราะเห็บส่วนใหญ่เป็นปรสิตดูดกินเลือดของสัตว์ แต่ก็พบได้ในพื้นที่ป่า อาศัยอยู่บริเวณต้นหญ้าสูง ๆ หรือในพุ่มไม้ได้เช่นกัน ซึ่งเห็บจะได้กลิ่นเหงื่อหรือความร้อนที่เกิดจากอุณหภูมิในร่างกายของมนุษย์ จึงกระโดดเกาะและดูดเลือดได้ ปากของเห็บจะกัดลงบนผิวหนังเพื่อดูดเลือดจนอิ่ม แล้วจึงคลายปาก หลุดออกไปได้เอง โดยใช้เวลา 2 ชั่วโมง แต่อาจนานได้ถึง 7 วัน บริเวณที่พบเห็บกัดได้บ่อย เช่น รักแร้ ไรผม และซอกพับ  [embed-health-tool-bmr] แพทย์นำเห็บออกจากร่างกายอย่างไร กรณีที่แพทย์เห็นเห็บเกาะอยู่บนร่างกายของผู้ป่วย แพทย์จะคีบเอาเห็บออกโดยใช้แหนบคีบที่ส่วนหัวของเห็บแล้วค่อย ๆ ดึงขึ้นตรง ๆ อย่างนุ่มนวล ไม่คีบบริเวณลำตัวหรือท้องของเห็บ ไม่บิดคีมขณะที่กำลังคีบ เพราะจะทำให้ส่วนปากของเห็บคงค้างอยู่ในผิวหนัง เกิดเป็นปฏิกิริยาเฉพาะที่แบบเรื้อรังตามมาได้ เมื่อตัวเห็บออกไปได้แล้ว จะรักษาอาการผิวหนังบวมแดงด้วยยาทาลดการอักเสบ รายที่บวมแดงมาก แพทย์อาจพิจารณาใช้การฉีดยาใต้ผิวหนังเพื่อลดอาการ  เห็บกัด มีอาการแบบไหน ในช่วงแรกที่โดนเห็บกัด อาจไม่มีอาการ ไม่เจ็บ เพราะเห็บจะปล่อยสารที่ทำให้ชา ส่งผลให้เลือดไม่แข็งตัว จนเกิดปฏิกิริยาที่ผิวหนัง ลักษณะของผู้ที่โดนเห็บกัดจะเป็นตุ่มแดง จากนั้นตุ่มอาจใหญ่เป็นปื้น บวมเป็นก้อนนูนได้ หลังจากถูกเห็บกัดแล้วจะเกิดอาการคันอย่างมากที่บริเวณตุ่ม  การรักษาตุ่มคันที่เป็นสาเหตุจากเห็บกัด แพทย์จะใช้ยาในกลุ่มสเตียรอยด์ เพื่อลดการอักเสบ โดยให้ทายาอย่างสม่ำเสมอ […]

สำรวจ โรคภูมิแพ้

ภูมิแพ้แบบอื่น

เคล็ดลับที่จะช่วยคุณ ต่อสู้อาการภูมิแพ้ จากไรฝุ่นและละอองเกสรอย่างได้ผล

ปริมาณฝุ่นละออง มักมีปริมาณที่เพิ่มขึ้นในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ และละอองต่างๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศเราสามารถพบได้ มาจาก หญ้า วัชพืชและต้นไม้ เมื่อคุณสูดหายใจเอาละอองของพืชเหล่านี้เข้าไป อาจกระตุ้นปฏิกิริยาของระบบภูมิคุ้มกัน นั่นก็คือ โรคไข้ละอองฟาง และอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้คือ ไรฝุ่น ซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า  Hello คุณหมอ ขอแนะนำวิธีการดังต่อไปนี้ช่วยให้คุณ ต่อสู้อาการภูมิแพ้ ได้ เคล็ดลับที่จะช่วยคุณ ต่อสู้อาการภูมิแพ้ จำกัดเวลาในการอยู่นอกบ้าน ปริมาณละอองเกสรที่มีอยู่นับล้าน หากเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจจากจมูกลงสู่ปอดแล้ว อาจกระตุ้นปฏิกิริยาเกิดเป็นอาการภูมิแพ้ขึ้นได้ การอยู่ในที่ร่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ลมแรง และในช่วงเวลาเช้า เป็นวิธีที่ช่วยลดโอกาสการเกิดอาการภูมิแพ้ได้ เนื่องจากในช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่มีปริมาณละอองต่างๆ ในอากาศสูงที่สุด เมื่อคุณออกไปข้างนอก คุณควรสวมแว่นตาเพื่อไม่ให้ละอองต่างๆ เข้าตา รวมทั้งยังควรสวมหน้ากาก เมื่อคุณตัดหญ้าหรือทำสวน นอกจากนี้คุณควรอาบน้ำ สระผมและเปลี่ยนเสื้อผ้าเสมอ เพราะอาจมีละอองต่างๆ ติดมากับเสื้อผ้าเข้ามาในบ้านได้ เลิกบุหรี่ การสูบบุหรี่เป็นปัจจัยที่อันตรายในการกระตุ้นอาการภูมิแพ้ให้รุนแรงขึ้น หากคุณต้องอยู่ร่วมกับควันบุหรี่ หรือคุณสูบบุหรี่ อาจถึงเวลาแล้วที่คุณต้องเลิกสูบบุหรี่ เพราะไม่ใช่คุณเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ แต่คนรอบข้างของคุณ ก็ได้รับผลกระทบจากการสูบบุหรี่ด้วยเช่นกัน ป้องกันตัวเอง คุณควรเริ่มใช้ยาก่อนที่จะเกิดอาการภูมิแพ้ และไม่ควรหยุดยาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ก่อนถึงช่วงเวลาที่อาการแพ้กำเริบ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งเกี่ยวกับการกินยา เพื่อรักษาอาการภูมิแพ้ ใช้สมุนไพรบรรเทาอาการ อาการภูมิแพ้สามารถบรรเทาได้ด้วยยาสมุนไพร แม้ว่าต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม แต่สารสกัดจากสมุนไพรที่เรียกว่า บัตเตอร์เบอร์ (butterbur) มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการ นอกจากนี้ยังมีไบมีน […]


ภูมิแพ้จมูกและตา

hay fever หรือไข้ละอองฟาง สาเหตุ อาการ วิธีรับมือ

โรคไข้ละอองฟาง หรือ ไข้ละอองฟาง (Hay fever) หรือ จมูกอักเสบภูมิแพ้ (allergic rhinitis) เกิดขึ้นเนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ทำปฏิกิริยากับสารก่อภูมิแพ้ เช่น เกสรดอกไม้ ไรฝุ่น หรือขนสัตว์ เมื่อสูดสารก่อภูมิแพ้เหล่านี้เข้าไป เซลล์ที่เรียงตัวกันในผนังโพรงจมูก จะปล่อยสารฮีสตามีนและสารอื่นๆ ที่ทำให้เกิดอาการตาแดง คันจมูก และจาม สาเหตุและอาการของ ไข้ละอองฟาง ไข้ละอองฟางเป็นโรคทั่วไป ที่เกิดกับประชากรร้อยละ 15 ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ โรคนี้จะเกิดบ่อยขึ้นกับผู้ที่เป็นโรคหอบหืด (Asthma) หรือ ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (dermatitis) และมักจะเกิดกับผู้ที่มีญาติเป็นโรคภูมิแพ้ อาการของไข้ละอองฟางอาจเกิดขึ้นฉับพลัน และทุเลาลงได้ทุกเมื่อ อาจเกิดในบางฤดูกาลหรือตลอดทั้งปี สาเหตุทั่วไปของ โรคไข้ละอองฟาง คือ ละอองหญ้าหรือสปอร์เชื้อรา นอกจากนี้ แมลง ฝุ่นในบ้านหรือขนสัตว์ ก็อาจทำให้เกิดอาการนี้ได้ตลอดทั้งปี เมื่อหายใจเอาฝุ่นในอากาศเข้าไป ร่างกายจะทำปฏิกิริยาโดยการหลั่งสารเคมี ที่เรียกว่า ฮีสตามีน (histamine) ฮีสตามีน ทำให้เกิดอาการโดยทั่วไป ที่เกี่ยวข้องกับ โรคไข้ละอองฟาง สารนี้จะทำให้เซลล์ที่เรียงกันบริเวณตา ขนตา จมูกและโพรงอากาศข้างจมูกขยายตัว อาการอื่นๆ ที่เกิดขึ้นได้แก่ […]


ภูมิแพ้อาหาร

การแพ้อาหารในเด็ก เรื่องใหญ่ที่ไม่ควรมองข้าม

การแพ้อาหารในเด็ก เป็นสิ่งที่พบได้บ่อย แต่บางครั้งก็อาจสังเกตได้ยาก ถ้าเป็นภูมิแพ้อาหารแบบล่าช้า หรือภูมิแพ้อาหารแฝง บทความต่อไปนี้ของ Hello คุณหมอ คือข้อมูลที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้ เพื่อให้สามารถแยกแยะอาการแพ้ในเบื้องต้นและรับมือได้ หากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น การแพ้อาหารคืออะไร การแพ้อาหาร หรือภูมิแพ้อาหาร (Food allergy) เกิดขึ้นเมื่อร่างกายปฏิบัติต่ออาหารในฐานะที่เป็นสิ่งแปลกปลอม หรือสิ่งที่ก่อให้เกิดอันตราย โดยจะส่งสัญญาณไปที่ระบบภูมิคุ้มกันให้สร้างสารแอนติบอดีขึ้นมาเพื่อต่อต้านกลับ เมื่อมีการสัมผัสกับอาหาร ร่างกายก็จะกระตุ้นการปล่อยสารเคมีบางชนิด หนึ่งในนั้นคือฮีสตามีน ซึ่งร่างกายใช้ในการต้านทานตนเอง อาการดังกล่าวทำให้เกิดอาการแพ้ ที่ส่งผลต่อระบบหายใจ ระบบทางเดินอาหาร ผิวหนัง หรือระบบหลอดเลือดหัวใจ การแพ้อาหารในเด็ก มีอาการอย่างไรบ้าง อาการของการแพ้อาหารแบบทันที ที่พบได้ทั่วไป ได้แก่ ผิวหนังแดง ลมพิษ ผื่นแดงและคัน ริมฝีปาก ดวงตา และหน้าบวม น้ำมูกไหลหรือคัดจมูก จาม น้ำตาไหล คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องร่วง มีอาการคันในปากหรือคอ หากภูมิแพ้มีอาการร้ายแรง อาจเกิดเป็นการแพ้ชนิดรุนแรง (Anaphylaxis) ซึ่งเป็นอันตราย คุณต้องให้ลูกเข้ารับการรักษาทันที หากลูกมีอาการดังต่อไปนี้ หายใจมีเสียง แน่นหน้าอก ลิ้นและคอบวม ทางเดินหายใจอุดกั้น ความดันโลหิตต่ำ ตามด้วยอาการช็อก วิงเวียนศีรษะ มึนงง ไม่รู้สึกตัว ในบางกรณี ภูมิแพ้อาหารอาจตรวจพบได้ยาก เนื่องจากปรากฏอาการน้อยเกินไป อาการเหล่านี้มักเรียกว่าการแพ้อาหารล่าช้า (Delayed allergies) ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยในเด็กวัยทารก การแพ้อาหารทันทีคือร่างกายมีการปล่อยสารฮิสตามีนออกมา ต่างจากการแพ้อาหารล่าช้าที่สัมพันธ์กับระบบภูมิคุ้มกันในบางส่วน ซึ่งใช้เวลานานกว่าในการตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้ การตอบสนองที่ล่าช้าทำให้เป็นเรื่องยากในการระบุว่า อาหารใดเป็นสิ่งกระตุ้น ซึ่งผู้ปกครองอาจให้อาหารที่มีสารก่อภูมิแพ้แก่ลูกซ้ำแล้วซ้ำอีก […]


ภูมิแพ้อาหาร

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ การแพ้อาหาร ที่พ่อแม่ควรรู้

การแพ้อาหาร (Food allergy) เป็นอาการแพ้ที่เกิดขึ้น เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเริ่มรู้สึกว่าแพ้อาหารบางชนิด ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย สารที่กระตุ้นอาการแพ้เรียกว่า สารก่อภูมิแพ้ (allergens) ในงานวิจัยพบว่ามีเด็กร้อยละ 4-6 และผู้ใหญ่ประมาณร้อยละ 6 ที่ได้รับผลกระทบจากการแพ้อาหาร นอกจากนี้ ยังสามารถพบอาการการแพ้อาหาร ในทารกและเด็กได้เช่นกัน ประเภท การแพ้อาหาร การแพ้อาหารมี 2 ประเภท ได้แก่ ประเภท IgE mediated อาการแพ้ชนิดนี้ เกิดขึ้นในแบบที่สัมพันธ์กับการปล่อยแอนติบอดี IgE จากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย แอนติบอดีเหล่านี้ จะมีปฏิกิริยากับอาหารบางชนิด ประเภท Non-IgE mediated ภาวะนี้เกิดขึ้นเมื่อส่วนอื่นๆ ของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย มีปฏิกิริยาต่ออาหารบางชนิด การแพ้อาหารชนิดนี้ ไม่ทำให้ร่างกายกระตุ้นแอนติบอดี IgE แพ้อาหารมีอาการอย่างไร  เมื่อเด็กแพ้อาหาร อาการต่างๆ มักพบได้ที่ผิวหนัง ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบทางเดินอาหาร และทางเดินหายใจ อาการที่พบได้มากที่สุด ได้แก่ อาเจียน ท้องร่วง หรือเป็นตะคริวที่ท้อง และปวดท้อง มีผื่นแดงหรือลมพิษ มีอาการบวมที่ลิ้น ริมฝีปาก ลำคอ หรือมีอาการคันในปาก ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการพูด หรือหายใจ มีอาการแน่นที่คอ หายใจลำบาก หายใจมีเสียง ชีพจรต่ำ ทำให้ความดันโลหิตลดลง เวียนศีรษะ ผิวหนังอาจเป็นสีซีดหรือสีฟ้า อาการแพ้ดังกล่าว มักเกิดขึ้นกับอวัยวะของร่างกาย […]


ภูมิแพ้แบบอื่น

ผู้ป่วยภูมิแพ้ กับผลกระทบทางจิตใจ จะรับมือได้อย่างไรบ้าง

คุณสามารถพบ ผู้ป่วยภูมิแพ้ ที่มีอาการแพ้ทั่วไปได้โดยง่าย เช่น อาการจาม คันตา ลมพิษ หอบหืด และคลื่นไส้ อาการเหล่านี้เป็นเพียงอาการทางร่างกายที่เกิดขึ้นทันที จากการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันต่อสารก่อภูมิแพ้ชนิดต่างๆ แต่ในขณะเดียวกัน ภูมิแพ้ประเภทต่างๆ ก็สามารถก่อให้เกิดผลกระทบทางอารมณ์ พฤติกรรม และจิตใจได้หลายอย่างด้วยเช่นกัน ผลกระทบของ ผู้ป่วยภูมิแพ้ อาการทางจิตใจและอารมณ์ที่เกิดขึ้นจากภูมิแพ้ สามารถเกิดขึ้นได้หลายระดับมาก ทั้งอาการย้ำคิดย้ำทำ ภาวะกระวนกระวาย ความวิตกกังวล ขาดสมาธิ และอาการซึมเศร้า ผู้ป่วยบางรายอาจมีกลไกของการแพ้อาหาร นอกจากจะทำให้เกิดปฏิกิริยาตอบสนองฉับพลันแล้ว ยังส่งผลให้ระบบประสาทส่วนกลางผ่านการบวม หรือมีอาการบวมน้ำ ในบริเวณเฉพาะของสมอง และมีผลกระทบอย่างมากต่อการใช้ชีวิต ซึ่งส่งผลต่อสภาพจิตใจและอารมณ์ ผู้ป่วยภูมิแพ้อาจมีผลกระทบทางจิตใจและอารมณ์ ดังต่อไปนี้ อาการสมองล้า เป็นรูปแบบหนึ่งของอาการอ่อนล้าทางความคิดและจิตใจ เป็นอาการที่รุนแรงกว่าอาการเหนื่อยล้าทางกายเป็นอย่างมาก อาการสมองล้า (Brain Fog) ได้แก่ อาการมึนงงทางจิต ขาดความคิดสร้างสรรค์ คิดช้า ขาดอารมณ์ทางเพศเป็นครั้งคราว และรู้สึกสิ้นหวังป อาการซึมเศร้า จากการศึกษาในเร็วๆ นี้ ผู้ใหญ่ที่เป็นเยื่อจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (allergic rhinitis) หรือไข้ละอองฟาง (hay fever) มีโอกาสถึงสองเท่าที่จะได้รับการวินิจฉัยว่า มีอาการซึมเศร้ารุนแรงในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ในทางกลับกัน เด็กที่เป็นไข้ละอองฟางเมื่ออายุ 5 […]


โรคภูมิแพ้

ยาภูมิคุ้มกันบำบัด รักษาภูมิแพ้ด้วยวิธีนี้ สามารถช่วยคุณได้หรือไม่?

หากคุณเป็นภูมิแพ้บางชนิด คุณอาจทราบแล้วว่า วิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงอาการแพ้ก็คือ การหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ หากมีอาการรุนแรงหรือคุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ได้ ยาภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) หรือการฉีดสารภูมิแพ้ (Allergy shots) อาจได้ผลสำหรับคุณ วิธีดังกล่าวช่วยป้องกัน หรืออย่างน้อยที่สุด ก็ช่วยบรรเทาอาการแพ้ได้ รักษาภูมิแพ้ด้วยการฉีด ยาภูมิคุ้มกันบำบัด แรกสุด คุณจำเป็นต้องพบแแพทย์หนึ่งครั้งหรือสองครั้ง ทุกสัปดาห์ เป็นเวลาหลายเดือน แพทย์จะฉีด ภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) หรือฉีดสารภูมิแพ้ (Allergy shots)ให้คุณ ในบริเวณต้นแขน การฉีดสารภูมิแพ้แต่ละครั้ง จะมีสารก่อภูมิแพ้ในปริมาณน้อย แพทย์จะค่อยๆ เพิ่มขนาดสารก่อภูมิแพ้ทีละน้อย จนถึงในระดับ Maintenace Dose (ขนาดยาที่ใช้สำหรับการควบคุมอาการ หรือขนาดยาระดับปกติ สำหรับการประคับประคองอาการ) จากนั้น คุณจำเป็นต้องได้รับการฉีดสารก่อภูมิแพ้เช่นนี้ หนึ่งครั้งทุกสองสัปดาห์ เป็นเวลา 4-5 เดือน หลังจากนั้น แพทย์จะค่อยๆ ขยายเวลาห่างระหว่างการฉีดทั้งสองครั้งนี้ออกไป ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง คุณจะจำเป็นต้องเข้ารับการฉีดทุกเดือนเป็นเวลา 3-5 ปี ในระหว่างนั้น อาการภูมิแพ้ของคุณจะรุนแรงน้อยลง และอาจหายไป การเตรียมตัว แนะนำให้หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย หรือกิจกรรมทางกายที่ใช้แรงมาก เป็นเวลาสองชั่วโมงก่อนและหลังการนัดหมาย เนื่องจากการออกกำลังกายจะเป็นการกระตุ้นการสูบฉีดเลือดโดยรอบร่างกาย […]


ภูมิแพ้แบบอื่น

วิงเวียนศีรษะ บ้านหมุน เป็นสัญญาณของภูมิแพ้กำเริบหรือเปล่า?

อาการ วิงเวียนศีรษะ อาจเกิดจากสาเหตุพื้นฐานหลายประการ นับตั้งแต่ภาวะขาดน้ำ ไปจนถึงอาการทางสุขภาพที่รุนแรง และสาเหตุที่เป็นไปได้ประการหนึ่งก็คือ ภูมิแพ้ (Allergy) อาการภูมิแพ้เกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิคุ้มกันมีปฏิกิริยาอย่างรุนแรง ต่อสิ่งที่ไม่เป็นอันตราย เช่น ละอองเกสร ขนสัตว์ และอาหารบางชนิด ปฏิกิริยาดังกล่าวอาจมีความรุนแรง และในบางครั้งอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ไปหาคำตอบของอาการเหล่านี้ได้ในบทความนี้จาก Hello คุณหมอ อาการเวียนศีรษะที่เกิดจากภูมิแพ้อากาศ อนุภาคในอากาศ สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ได้ เมื่ออนุภาคดังกล่าวเข้าสู่ร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกันของคุณจะมีการต้านทาน โดยการปล่อยสารแอนติบอดี้ อาการแพ้ตามปกติ ได้แก่ ไซนัสอุดกั้น จามซ้ำๆ อาการคันคอ และไอรุนแรง ภูมิแพ้ส่งผลต่อท่อยูสเตเชียน (Eustachian tube) ซึ่งเป็นท่อที่เชื่อมหูส่วนกลางกับคอส่วนหลัง ท่อยูสเตเชียนจะช่วยควบคุมสมดุลร่างกาย และทำให้ความดันในหูชั้นกลางเท่ากับความดันอากาศโดยรอบ คุณอาจมีอาการต่างๆ เช่น ความรู้สึกถูกอุดกั้นในหู หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการได้ยิน อาการดังกล่าวอาจเกิดขึ้น เมื่อท่อยูสเตเชียนถูกอุดกั้นด้วยเมือก ท่อยูสเตเชียนที่ถูกอุดกั้นไม่สามารถทำให้ความดันเท่ากัน และรักษาสมดุลของร่างกายได้ จึงทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ อาการ วิงเวียนศีรษะ ที่เกิดจากภูมิแพ้อาหาร ภูมิแพ้ที่เกิดจากอาหาร (Food-related allergies) สามารถกระตุ้นอาการวิงเวียนศีรษะได้เช่นกัน หากคุณมักมีอาการวิงเวียนศีรษะ ภูมิแพ้อากาศ (Airborne allergies) อาจไม่ใช่สาเหตุ เป็นไปได้ว่า คุณอาจมีอาการแพ้อาหารบางชนิด […]


ภูมิแพ้แบบอื่น

อาการแทรกซ้อนจากภูมิแพ้ อะไรบ้างที่คุณควรรู้?

ภูมิแพ้ (Allergy) เป็นภาวะที่ระบบภูมิคุ้มกันมีปฏิกิริยาอย่างรุนแรง ต่อสิ่งที่ไม่เป็นอันตราย เช่น ละอองเกสร อาหารบางชนิด เชื้อรา หรือสะเก็ดผิวหนังสัตว์ ภูมิแพ้บางชนิดเป็นอันตรายต่อชีวิต และทำให้เกิด อาการแทรกซ้อนจากภูมิแพ้ ที่เป็นอันตรายได้ อาการแทรกซ้อนจากภูมิแพ้ ที่ไม่รุนแรง คนส่วนใหญ่มีอาการแทรกซ้อนที่ไม่รุนแรงจากภูมิแพ้ ในบางช่วงเวลาของชีวิต อย่างเช่น เยื่อจมูกอักเสบ (Rhinitis) และไซนัสอักเสบ (sinusitis) เป็นอาการแทรกซ้อน 2 ประการที่พบได้มากที่สุดสำหรับภูมิแพ้ โดยเยื่อบุจมูกอักเสบเป็นอาการอักเสบของระบบจมูก โดยปกติแล้วมีอาการ ได้แก่ จาม น้ำมูกไหล คัดจมูก และน้ำตาไหล นอกจากนี้ ยังมีอาการคันที่จมูก คอ ตา และหู ส่วนไซนัสอักเสบ เป็นอาการอักเสบของไซนัส ได้แก่ คัดจมูก มีน้ำมูกสีเขียวหรือสีเทาในจมูก มีหยดของเหลวด้านหลังจมูก และมีความรู้สึกแน่นที่ใบหน้า อาการปวดศีรษะเรื้อรัง (Chronic Headache) อาการไข้ และอาการไอในบางครั้งอาจเป็นสาเหตุของไซนัสอักเสบ ยาที่วางจำหน่ายทั่วไป สามารถช่วยรักษาอาการแทรกซ้อนที่ไม่รุนแรงได้ อย่างไรก็ดี ผู้ป่วยบางรายอาจจำเป็นต้องใช้การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด (immunotherapy) หรือการฉีดยารักษาภูมิแพ้ (allergy shots) เพื่อบรรเทาอาการ ลมพิษ ลมพิษเป็นตุ่มนูนที่มีสีแดง และมีอาการคัน […]


ภูมิแพ้แบบอื่น

การวินิจฉัยอาการแพ้ยา ทำได้อย่างไรบ้าง

หากคุณคิดว่าคุณกำลังมีอาการแพ้ยา แจ้งให้แพทย์ทราบ แพทย์อาจแนะนำให้ไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้ คุณจะได้รับการวินิจฉัยเกี่ยวกับการแพ้ยาได้อย่างเหมาะสมและถูกต้อง โดยวิธีการที่ง่ายที่สุดในการวินิจฉัยอาการ ก็คือการซักประวัติของคนไข้ และอาจตามด้วยการทดสอบบางอย่าง ต่อไปนี้ คือแนวทางใน การวินิจฉัยอาการแพ้ยา ที่คุณควรรู้ สิ่งที่หมอจะถาม การทดสอบที่สำคัญที่สุดในการแพ้ยา ไม่ใช่การทดสอบในห้องปฏิบัติการ หรือการทดสอบผิวหนัง แต่เป็นประวัติของสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อมีอาการแพ้ยาก่อนหน้านี้ คำถามบางประการที่แพทย์จะถามคุณ เมื่อสงสัยว่ามีอาการแพ้ยา  เพื่อเป็นแนวทางใน การวินิจฉัยอาการแพ้ยา ได้แก่ ชื่อยา เป็นเรื่องสำคัญมาก ในการเก็บบันทึกรายการยาที่คุณใช้ในช่วงเวลาหนึ่ง เนื่องจากยาบางชนิดมีชื่อที่คล้ายกัน และยาแต่ละชนิดส่งผลต่อเราต่างกัน การรู้ชัดเจนถึงยาชนิดต่างๆ จึงสำคัญมาก ช่วงเวลาที่เกิดอาการแพ้ยา อาการแพ้ยาเกิดขึ้นในขณะที่คุณใช้ยา หรือหลังจากนั้น อวัยวะของร่างกายที่ได้รับผลจากการแพ้ยา และอาการที่เกิดขึ้น อาการใดๆ ก็สามารถเกิดขึ้นกับร่างกายได้ จากการแพ้ยา เช่น อาการเกี่ยวกับผิวหนัง (ผื่นผิวหนัง) อาการเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร (ปวดท้อง ท้องร่วง คลื่นไส้และอาเจียน) หรืออาการที่อวัยวะอื่นๆ (ริมฝีปาก ลิ้น และลำคอ ที่มีอาการบวม คัน หรือมีแผล) ยาชนิดอื่นที่ใช้ในขณะมีอาการแพ้ยา การใช้ยาหลายชนิดมากเกินไปในเวลาเดียวกัน อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด เกี่ยวกับสาเหตุของอาการแพ้ยาได้ เหตุผลในการรับยา ทำไมคุณถึงได้รับยาชนิดนั้น นี่เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องรู้ เนื่องจากอาการต่างๆ ของโรคประจำตัวบางอย่าง อาจทำให้เกิดการเข้าใจผิดว่า เป็นอาการแพ้ยาก็เป็นได้ การทดสอบเพิ่มเติม เพื่อวินิจฉัยการแพ้ยา นอกจากนี้ แพทย์อาจให้มีการทดสอบเพิ่มเติม […]


ภูมิแพ้ผิวหนัง

การทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง ข้อมูลที่ควรรู้ก่อนรับการทดสอบ

ภูมิแพ้ (Allergy) เป็นภาวะที่ระบบภูมิคุ้มกันมีปฏิกิริยาอย่างรุนแรงต่อสิ่งที่ไม่เป็นอันตราย เช่น ละอองเกสร ขนสัตว์ และอาหารบางชนิด อาการแพ้มีความรุนแรง และในบางครั้งอาจถึงแก่ชีวิตได้ สิ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทำได้ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการแพ้ก็คือ การรับทราบเกี่ยวกับสิ่งที่แพ้ และ การทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง เป็นวิธีหนึ่งในการบ่งชี้สารก่อภูมิแพ้ของคุณ การทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง คืออะไร การทดสอบผิวหนังใช้สารก่อภูมิแพ้ทั่วไปในรูปแบบเข้มข้น แพทย์จะใช้สารก่อภูมิแพ้ที่ผิวหนัง เพื่อดูว่าผิวหนังมีการตอบสนองอย่างไร ผิวหนังอาจมีอาการระคายเคือง และคันเหมือนยุงกัด ข้ออธิบายสำหรับปฏิกิริยาดังกล่าวก็คือ เกิดจากกลไกของระบบภูมิคุ้มกัน เมื่อคุณสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ ระบบภูมิคุ้มกันจะปล่อยแอนติบอดี้ออกมา จะทำให้เกิดห่วงโซ่ปฏิกิริยาทางเคมี เพื่อต้านสิ่งกระตุ้น ตามปฏิกิริยาของผิวหนังแล้ว แพทย์จะสามารถตรวจหาสารก่อภูมิแพ้ได้ ประเภทการทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง การทดสอบผิวหนังมีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทจะแตกต่างกัน ดังนี้ การทดสอบด้วยการสะกิดผิว การทดสอบด้วยการสะกิดผิว (Scratch test หรือ prick test) เป็นการทดสอบที่ใช้มากที่สุด แพทย์จะทำการตรวจผิวหนังที่แขนหรือหลัง แล้วเช็ดด้วยแอลกอออล์ แล้วแพทย์จะทำเครื่องหมายที่ผิวหนังด้วยปากกา หลังจากนั้น แพทย์จะหยดสารก่อภูมิแพ้ในแต่ละจุด และทำการสะกิดผิว เพื่อให้สารก่อภูมิแพ้เข้าไปในผิวหนัง การดำเนินการดังกล่าวไม่ใช่การฉีดยา และไม่มีเลือดออก การทดสอบในชั้นผิวหนัง (Intradermal test) การเตรียมตัวค่อนข้างเหมือนกับการทดสอบด้วยการสะกิดผิวหนัง เว้นแต่ในการทดสอบนี้ จะฉีดสารก่อภูมิแพ้เข้าไปในผิวหนังชั้นนอก การทดสอบด้วยแผ่นแปะ ในการทดสอบด้วยแผ่นแปะ (Patch Test) นั้น จะใส่สารก่อภูมิแพ้เข้าไปในแผ่นทดสอบ แล้วนำไปติดที่ผิวหนัง โดยปกติแล้ว การทดสอบมักใช้เวลา […]

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม