backup og meta

น้ำตาลตก หรือน้ำตาลในเลือดต่ำ เกิดจากอะไร สังเกตยังไง

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย แพทย์หญิงบุรัสกร ทวีบูรณ์ · โรคเบาหวาน · SRK BMI Center


เขียนโดย ศุภานิช สุริโย · แก้ไขล่าสุด 13/06/2023

    น้ำตาลตก หรือน้ำตาลในเลือดต่ำ เกิดจากอะไร สังเกตยังไง

    น้ำตาลตก หรือน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia) คือ ภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำกว่าเกณฑ์ ซึ่งอาจทำให้มีอาการเเสดง เช่น ใจสั่น หัวใจเต้นแรง ตัวสั่น เหงื่อออกมาก รู้สึกหิวหรือโหยผิดปกติ โดยการปฐมพยาบาลเบื้องต้นสามารถเเก้ไข้ได้ด้วยรับประทานคาร์โบไฮเดรตชนิดดูดซึมเร็ว เช่น น้ำตาล น้ำหวาน ลูกอม ซึ่งจะช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างรวดเร็ว แต่หากเมื่อเกิดภาวะน้ำตาลต่ำเเล้วไม่ได้รับการรักษาที่ทันท่วงทีอาจทำให้เกิดอาการรุนเเรง ได้เเก่ ชัก หมดสติ จนถึงขั้นเสียชีวิตได้

    น้ำตาลตก คืออะไร

    อาการน้ำตาลตก คือ ภาวะที่ร่างกายของผู้ที่เป็นเบาหวาน มีระดับน้ำตาลในเลือดซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลักของร่างกายน้อยกว่า 70 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หรือ 3.9 มิลลิโมล/ลิตร แม้ว่าตามปกติแล้ว ระดับน้ำตาลในเลือดจะมีการเปลี่ยนเเปลงตลอดตามปริมาณกลูโคสในอาหารที่รับประทาน แต่หากมีภาวะน้ำตาลต่ำอย่างฉับพลันก็จะทำให้เกิดอาการผิดปกติตามมาได้

    น้ำตาลตกเกิดจากอะไร

    โดยส่วนใหญ่แล้ว อาการน้ำตาลตกมักเกิดขึ้นเมื่อการใช้ยาลดระดับน้ำตาลไม่สัมพันธ์กับระดับน้ำตาลในเลือด อาทิเช่น ผู้ป่วยรับอินซูลินหรือยารักษาเบาหวานในปริมาณมากเกินไป การรับประทานอาหารน้อยลง หรือ ไม่ตรงเวลา รวมถึงการออกกำลังกายที่หักโหมมากกว่าปกติ ก็ล้วนส่งผลให้น้ำตาลตกได้

    ทั้งนี้ อาการน้ำตาลตกอาจเกิดขึ้นในผู้ที่ไม่เป็นเบาหวานได้เช่นกัน เเต่จะพบได้ไม่บ่อยนัก ซึ่งสาเหตุอาจมาจากการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาควินิน (Qualaquin) เพื่อรักษาโรคมาลาเรีย การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป มีเนื้องอกที่ผลิตฮอร์โมนอินซูลิน ภาวะพร่อมงฮอร์โมนบางชนิด รวมไปถึงภาวะเจ็บป่วยบางประการ เช่น การติดเชื้อรุนแรง โรคไต โรคหัวใจ เป็นต้น ซึ่งการรักษาจะเป็นการรักษาที่สาเหตุนั้น ๆ

    น้ำตาลตก อาการเป็นอย่างไร

    อาการน้ำตาลตกที่พบได้บ่อย อาจมีดังนี้

  • หัวใจเต้นแรง รู้สึกใจสั่น หวิว
  • มือสั่น ตัวสั่น
  • รู้สึกชามือ เท้า
  • เหงื่อออกมากผิดปกติ
  • รู้สึกวิตกกังวล ประหม่า ไม่มีสมาธิ
  • หงุดหงิดง่าย สับสน
  • วิงเวียนศีรษะ
  • ปวดศีรษะ
  • รู้สึกหิว โหยอาหารหวาน
  • สายตาพร่ามัว มองเห็นภาพซ้อน
  • ง่วงซึม
  • รู้สึกไม่มีแรง อ่อนเพลีย
  • ฝันร้าย สะดุ้งตื่นกลางดึก หรือ นอนหลับไม่สนิท
  • นอกจากนี้ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมตั้งแต่เนิ่น ๆ อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงขึ้นได้ เช่น

    • ชัก
    • หมดสติ
    • หัวใจหยุดเต้น เเละ เสียชีวิต ได้

    วิธีรักษาอาการ น้ำตาลตก เบื้องต้น

    หากผู้ที่เป็นเบาหวานมีอาการดังที่กล่าวไปข้างต้น หรือ ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดได้น้อยกว่า 70 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ควรดูเเลตนเองเบื้องต้นด้วยการรับประทานน้ำตาลกลูโคสหรือคาร์โบไฮเดรตชนิดดูดซึมเร็ว ปริมาณ 15 กรัม อาทิเช่น น้ำหวาน 1 แก้ว ลูกอม 2-3 เม็ด น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ ลูกเกด 2 ช้อนโต๊ะ แล้วรอสัก 15-20 นาทีเพื่อให้น้ำตาลดูดซึมเข้ากระแสเลือด เเล้วจึงตรวจระดับน้ำตาลอีกครั้ง หากระดับน้ำตาลยังไม่สูงกว่า 80  มิลลิกรัม/เดซิลิตร ให้รับประทานกลูโคสหรือคาร์โบไฮเดรตข้างต้นซ้ำเเละตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอีกครั้ง จนกว่าระดับน้ำตาลในเลือดจะสูงกว่า 80  มิลลิกรัม/เดซิลิตร จึงจะถือว่าปลอดภัย นอกจากนี้ผู้ป่วยยังควรประทานอาหารว่าง เช่น แครกเกอร์ 2-3 ชิ้น ผลไม้ขนาดกลางอย่างชมพู่ ละมุด 1 ลูก เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้ต่ำอีก ก่อนจะถึงมื้ออาหารหลัก มื้อถัดไป

    การดูแลตัวเองเพื่อป้องกันภาวะน้ำตาลต่ำ

    วิธีดูแลตัวเองเพื่อป้องกันมิให้เกิดภาวะน้ำตาลตก อาจทำได้ดังนี้

    • หมั่นตรวจวัดระดับน้ำตาลด้วยเครื่องวัดน้ำตาลในเลือดปลายนิ้ว ด้วยตัวเองเป็นประจำ เพื่อให้ทราบว่าระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำกว่าเกณฑ์ที่เหมาะสมหรือไม่ ซึ่งอาจช่วยให้ผู้ป่วยทราบได้ตั้งเเต่ยังไม่มีอาการ หรือ มีอาการเพียงเล็กน้อย เเละทำให้รีบทำการเเก้ไขได้อย่างทันท่วงที
    • วางแผนการรับประทานอาหาร โดยควรรับประทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมันดีในปริมาณเเละสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายได้รับพลังงานเพียงพอ ซึ่งจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์เป้าหมายได้ โดยที่ร่างายไม่ขาดสารอาหาร
    • หากมีอาการน้ำตาลตกบ่อย ๆ ควรไปพบคุณหมอก่อนนัด เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับการปรับยา หรือ หาสาเหตุเพิ่มเติม เช่น ลดปริมาณยาเบาหวาน ปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน การออกกำลังกาย รวมถึงชนิดของอาหาร
    • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือดื่มแต่พอดี หรือไม่เกิน 2 แก้ว/วัน เเละ ไม่เกิน 2-3 วัน/สัปดาห์ เนื่องจากการดื่มเเอลกอฮอล์ในปริมาณมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม่ได้ทานอาหารร่วมด้วย อาจทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำได้
    • ให้ความรู้เกี่ยวกับสัญญาณของอาการน้ำตาลตกและวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น กับผู้ดูแล หรือ คนในครอบครัวของผู้ป่วยเบาหวาน เพื่อให้สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยได้ในยามฉุกเฉิน

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    แพทย์หญิงบุรัสกร ทวีบูรณ์

    โรคเบาหวาน · SRK BMI Center


    เขียนโดย ศุภานิช สุริโย · แก้ไขล่าสุด 13/06/2023

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา