อาหารเสริมสำหรับคนเป็นเบาหวาน มักมีส่วนช่วยในการปรับปรุงระดับน้ำตาลในเลือด และลดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่อาจพบร่วมกับเบาหวาน อย่างไรก็ตาม ไม่เเนะนำให้รับประทานอาหารเสริมแทนยารักษาเบาหวาน เพราะอาหารเสริมเหล่านี้เพียงช่วยเสริมให้ร่างกายจัดการกับน้ำตาลได้ดีขึ้นเท่านั้น เเต่ยังคงจำเป็นต้องรับประทานยาเเละปรับพฤติกรรมสุขภาพให้เหมาะสมร่วมด้วย
[embed-health-tool-bmi]
อาหารเสริม คืออะไร
อาหารเสริม คือ ผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วย วิตามิน/แร่ธาตุ กรดอะมิโน รวมถึง สมุนไพร ซึ่งมาจากธรรมชาติ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่อาจได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน โดยอาหารเสริมเหล่านี้จะเสริมคุณค่าทางโภชนาการเพิ่มเติมแก่ร่างกายได้ เเต่อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยยังคงจำเป็นต้องรับประทานยารักษาเบาหวานเเละปฏิบัติตามคำเเนะนำของคุณหมอ เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์เป้าหมาย
อาหารเสริมสำหรับคนเป็นเบาหวาน มีอะไรบ้าง
โดยส่วนใหญ่แล้ว อาหารเสริมสําหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน มักมีคุณสมบัติที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอินซูลิน และช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเบาหวาน นอกจากนี้ อาหารเสริมบางชนิด ยังอาจมีคุณสมบัติช่วย ลดความดันโลหิต ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้อีกด้วยซึ่งอาหารเสริมสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน อาจมีดังนี้
กรดอัลฟาไลโปอิก (Alpha Lipoic Acid หรือ ALA)
กรดอัลฟาไลโปอิก จัดเป็นสารต้านอนุมูลสระชนิดหนึ่ง มีคุณสมบัติที่อาจช่วยลดอาการที่เกิดจากโรคเส้นประสาทเสื่อมเบาหวาน ทั้งยังอาจช่วยลดการบวมของจอประสาทตาบวมน้ำจากเบาหวาน ที่หากปล่อยทิ้งไว้ อาจรุนเเรงจนทำให้สูญเสียการมองเห็นได้ นอกจากนี้ ยังพบว่า กรดอัลฟาไลโปอิกยังอาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหารได้อีกด้วย
อบเชย
อบเชยเป็นเครื่องเทศชนิดหนึ่ง ที่พบว่าอาจช่วยเพิ่มความไวต่ออินซูลิน ลดระดับน้ำตาลในเลือด และลดระดับคอเลสเตอรอลในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nutrients เมื่อ พ.ศ. 2555 พบว่า อบเชยอาจมีประโยชน์ต่อผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ในการช่วยควบคุมระดับน้ำตาลและไขมันในเลือดให้ดีขึ้น ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญน้ำตาลกลูโคสในระดับเนื้อเยื่อ และช่วยลดคอเลสเตอรอลและการดูดซึมไขมันที่ลำไส้ได้อีกด้วย
โครเมียม
ได้มีการศึกษาพบว่า การขาดโครเมียมอาจส่งผลให้ระดับดับน้ำตาลในเลือดสูงเพิ่มสูงขึ้น ดังน้ัน โครเมียมจึงอาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน เพิ่มความทนทานต่อน้ำตาล และลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ได้อีกด้วย
แมกนีเซียม
แมกนีเซียมเป็นเเร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย การขาดแมกนีเซียม ทำให้กระบวนการหลั่งอินซูลินผิดปกติไป จึงส่งผลต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด จึงอาจกล่าวได้ว่า แมกนีเซียมเป็นเเร่ธาตุที่จำเป็นต่อกระบวนการจัดการกับน้ำตาลในเลือดของร่างกาย
การรับประทานอาหารเสริมแมกนีเซียมจึงอาจช่วยทำให้การหลั่งอินซูลินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดเเละลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะเเทรกซ้อนจากโรคเบาหวานได้
วิตามินดี
วิตามินดีนับเป็นวิตามินที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ได้มีการศึกษาพบว่าหากผู้ที่เป็นเบาหวานขาดวิตามินดีอาจส่งผลให้ความไวต่ออินซูลินลดลงได้ นอกจากนี้ พบว่าการมีระดับวิตามินดีต่ำยังอาจสัมพันธ์กับความผิดปกติของระบบเผาผลาญ เช่น โรคเบาหวานชนิดที่ 2 กลุ่มอาการเมตาบอลิซึม ภาวะดื้อต่ออินซูลิน ดังนั้น วิตามินดีจึงอาจช่วยเพิ่มความไวของอินซูลิน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยลดการดื้อต่ออินซูลิน รวมถึงอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเบาหวานชนิดที่ 2 ได้อีกด้วย
วิตามินอี
วิตามินอี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยให้เซลล์ต่อสู้กับสารพิษได้ดีขึ้น และอาจช่วยเสริมการทำงานของอินซูลินในร่างกายให้ดีขึ้นได้ หากได้รับวิตามินอีไม่เพียงพออาจทำให้เซลล์ไม่เเข็งเเรงเเละถูกทำลายจากสารอนุมูลอิสระได้ง่ายขึ้น การเสริมวิตามินอีจึงอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเบาหวานชนิดที่ 2 เพิ่มความทนทานต่อน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 อีกทั้งสารต้านอนุมูลอิสระในวิตามินอียังอาจช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวานได้อีกด้วย
ข้อควรระวังในการบริโภค อาหารเสริมสำหรับคนเป็นเบาหวาน
แม้อาหารเสริมสำหรับคนเป็นเบาหวานจะมีประโยชน์ในการช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดความดันโลหิต และอาจช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเบาหวานได้ แต่ก็มีข้อควรระวังในการบริโภค ดังนี้
- ผู้ป่วยเบาหวานที่มีปัญหาโรคไตร่วมด้วยไม่ควรรับประทานอาหารเสริมโครเมียม เเมกนีเซียม และอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของอบเชย เพราะอาจทำให้เกิดเเร่ธาตุดังกล่าวตกค้างในร่างกาย และเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
- การรับประทานอาหารเสริมแมกนีเซียมมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ ท้องเสีย เป็นตะคริวในช่องท้อง นอกจากนี้ หากได้รับแมกนีเซียมมากกว่า 5,000 มิลลิกรัม/วัน อาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
- การรับประทานอาหารเสริมวิตามินดีมากเกินไป อาจส่งผลให้เกิดภาวะเเคลเซียมเกินในร่างกาย ซึ่งทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ ท้องผูก ไตวาย อ่อนเพลีย สับสน และหัวใจเต้นผิดจังหวะได้
- การรับประทานอาหารเสริมกรดอัลฟาไลโปอิกในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารได้
สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ก่อนรับประทานอาหารเสริมควรปรึกษาคุณหมอก่อนเสมอ เพราะอาหารเสริมบางชนิดอาจส่งผลกระทบรบกวนประสิทธิภาพของยาเบาหวานเเละยาโรคประจำตัวอื่น ๆ ของผู้ป่วยได้ รวมถึงอาจทำให้โรคที่เป็นอยู่มีอาการแย่ลงได้ด้วย