เนื่องจากร่างกายของเพศหญิงจะมีการผลิตฮอร์โมนเพศ ชื่อว่า เอสโตรเจน (Estrogen) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ส่งผลช่วยเสริมการทำงานของฮอร์โมนอินซูลินในการกระตุ้นให้เซลล์นำน้ำตาลในกระแสเลือดไปเปลี่ยนใช้เป็นพลังงานของร่างกาย ทั้งนี้ หากร่างกายมีอินซูลินมีไม่เพียงพอ หรือ มีฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงหรือผิดปกติไป จะส่งผลให้การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดก็ผิดปกติตามไปด้วย ทำให้เพศหญิงจึงอาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานได้ง่ายกว่าเพศชาย
[embed-health-tool-bmi]
ปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลให้ ผู้หญิงเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 มากกว่าผู้ชาย
ผู้หญิงมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้มากกว่าผู้ชาย เนื่องจากอาจมีพฤติกรรมหรือภาวะสุขภาพที่เอื้อต่อการเกิดโรคเบาหวาน ดังต่อไปนี้
- เมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน หรือวัยทอง ทำให้สมดุลร่างกายแปรปรวน อาจส่งผลต่อสุขภาพด้านต่าง ๆ รวมทั้งภาวะเบาหวาน
- ผู้หญิงอาจทำกิจกรรมที่เคลื่อนไหวร่างกายหรือออกแรงน้อยกว่า ทำให้เสี่ยงต่อการมีน้ำหนักเกินมาตรฐาน เป็นภาวะอ้วน หรือมีคอเลสเตอรอลสูง จึงเพิ่มความเสี่ยงของเบาหวาน
- เคยมีภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์
- ความชอบรับประทานขนมหวาน น้ำหวาน เครื่องดื่มที่ให้น้ำตาลสูง เช่น ชานมไข่มุก
- มีความเครียดหรือความวิตกกังวลสูง เพศหญิงอาจเป็นเพศที่คิดมาก ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะความดันโลหิตสูง อีกทั้งฮอร์โมนคอร์ติซอลซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความเครียดหลั่งมากขึ้น นับเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2
- มีภาวะสุขภาพอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาวะดื้อต่ออินซูลินในร่างกาย เช่น โรคถุงน้ำรังไข่ (Polycystic Ovary Syndrome หรือ PCOS)
วิธีลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานชนิดที่ 2
สามารถลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานได้ โดยปฏิบัติตัวตามคำแนะนำเบื้องต้น ดังต่อไปนี้
- เลิกสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
- ออกกำลังกายเป็นประจำ หรือเคลื่อนไหวร่างกายอยู่เสมอ
- ควบคุมน้ำหนัก รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
- เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นบริโภคผัก ผลไม้ที่มีค่าดัชนีน้ำตาลค่ำ และธัญพืช ลด/จำกัดปริมาณขนมหวานหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล
- หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารแปรรูปและอาหารปรุงสำเร็จเช่น เนื้อแปรรูป อาหารกระป๋อง ไส้กรอก ผลไม้กวน/ดอง รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่มีไขมันสูง และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- ทำจิตใจให้ผ่อนคลาย ลดความเครียด
เนื่องจากผู้หญิงอาจมีโอกาสเป็นโรคเบาหวานได้มากกว่าผู้ชาย ดังนั้น จึงควรดูแลสุขภาพตนเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพในชีวิตประจำวัน เช่น เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเป็นประจำ และเข้ารับการตรวจสุขภาพหมั่นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงและเฝ้าระวังโรคเบาหวานที่อาจเกิดขึ้นได้