จัดเตรียมสำหรับวัยหนุ่มสาว

HPV คืออะไร?

HPV หรือ ไวรัสฮิวแมนแพพพิลโลมา เป็นเชื้อที่พบได้บ่อยในโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยไวรัสชนิดนี้มีหลากหลายสายพันธุ์ โดยบางสายพันธุ์ร่างกายสามารถกำจัดเชื้อออกไปได้เอง แต่บางสายพันธุ์ก็อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งบางชนิดได้

เริ่มต้นปกป้องตัวคุณเองได้ โดยการปรึกษาคุณหมอใกล้ตัว

ออกจาก Hello คุณหมอ

คุณกำลังเข้าสู่เว็บไซต์ภายนอกที่ดูแลโดยบุคคลที่สาม เราไม่รับผิดชอบต่อเนื้อหาใดๆ ที่ปรากฏบนเว็บไซต์ภายนอก

บทความแนะนำ

โรคติดเชื้อเอชพีวี

ไวรัส HPV คืออะไร รักษาและป้องกันได้อย่างไรบ้าง?

ไวรัสเอชพีวี คืออะไร? ไวรัส HPV (Human Papillomavirus) คือ DNA ไวรัสชนิดหนึ่ง มีมากกว่า 200 สายพันธุ์ บางสายพันธุ์ก่อให้เกิดโรคที่ผิวหนัง เช่น หูดตามฝ่าเท้า มีประมาณ 40 สายพันธุ์ ที่ก่อให้เกิดโรคตามอวัยวะเพศทวารหนักหรือเยื่อบุอื่น ๆ และมี 15 สายพันธุ์ที่ก่อมะเร็ง ทั้งมะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด มะเร็งปากช่องคลอด มะเร็งทวารหนัก มะเร็งองคชาติ รวมถึงมะเร็งช่องปากและลำคอ สายพันธุ์ก่อมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดคือ สายพันธุ์ 16 เชื้อไวรัส HPV ติดต่ออย่างไร? ไวรัส HPVติอต่อทางการมีเพศสัมพันธ์ การสัมผัสบริเวณอวัยวะเพศ หรือสูดควันที่มีเชื้อ HPV เข้าไปยังจมูกหรือลำคอ( Surgical smoke) การติดเชื้อ HPV เป็นภัยเงียบ เพราะจะไม่มีอาการ จะมีอาการเมื่อมีก้อนหูด หรือกลายเป็นก้อนมะเร็งแล้วเท่านั้น จึงอาจแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้โดยไม่รู้ตัว แม้ว่าการติดเชื้อ HPV ส่วนใหญ่หายได้เองภายใน 12 เดือน แต่ถ้าติดเชื้อสายพันธุ์ก่อมะเร็งแล้วไม่หาย จะพัฒนาไปเป็นระยะก่อนเป็นมะเร็งและกลายเป็นมะเร็งได้ในที่สุด อาการของการติดเชื้อไวรัส […]

มะเร็งปากมดลูก

มะเร็งปากมดลูกเกิดจากอะไร

ปากมดลูก เป็นส่วนที่อยู่ระหว่างช่องคลอดและมดลูก เมื่อเซลล์ปากมดลูกผิดปกติ และเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วก็อาจพัฒนากลายไปเป็นมะเร็งปากมดลูก ซึ่งอาจเป็นอันตรายได้หากไม่ได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องและทันท่วงที อย่างไรก็ตาม การทราบข้อมูลเบื้องต้นว่า มะเร็งปากมดลูกเกิดจาก อะไร และอาจป้องกันได้ด้วยวิธีใดบ้าง อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคนี้ได้ มะเร็งปากมดลูกคืออะไร มะเร็งปากมดลูก (Cervical Cancer) เป็นมะเร็งชนิดหนึ่งที่เกิดบริเวณปากมดลูก ซึ่งมีลักษณะเป็นท่อกลวงที่เชื่อมระหว่างช่วงล่างของมดลูกและช่องคลอด เซลล์มะเร็งปากมดลูกมักเกิดขึ้นที่บริเวณพื้นผิวของปากมดลูก มะเร็งปากมดลูกในระยะเริ่มแรกมักไม่แสดงอาการใด ๆ ส่วนใหญ่อาการจะแสดงออกเมื่ออยู่ในระยะลุกลาม โดยอาการที่อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งปากมดลูก ได้แก่ เลือดออกผิดปกติ เช่น เลือดออกระหว่างมีประจำเดือน เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ ปัสสาวะผิดปกติ เช่น กลิ่นหรือสีเปลี่ยนไป ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ หรือปัสสาวะกะปริดกะปรอย เจ็บปวดเมื่อปัสสาวะ ปวดกระดูกเชิงกราน มะเร็งปากมดลูกเกิดจาก อะไร ส่วนใหญ่แล้ว มะเร็งปากมดลูกเกิดจาก การติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (Human Papilloma Virus หรือ HPV) ซึ่งเป็นไวรัสชนิดเดียวกันกับที่ทำให้เกิดหูดที่อวัยวะเพศ ไวรัสชนิดนี้มีอยู่หลายร้อยสายพันธุ์ แต่สายพันธ์ที่มักทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกมี 2 สายพันธุ์ คือ HPV-16 และ HPV-18 อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีเชื้อ HPV-16 และ HPV-18 ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นมะเร็งปากมดลูกเสมอไป เพราะร่างกายสามารถกำจัดเชื้อเหล่านี้ได้ภายใน 2 […]

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาการ สาเหตุ และการรักษา

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (Sexually Transmitted Diseases หรือ STDs) คือ การติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อที่ทำให้เกิดโรค โดยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีมากกว่า 20 ชนิด เช่น โรคหนองใน ภาวะอักเสบในอุ้งเชิงกราน ส่วนใหญ่อาจเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางนามัย หรือการขาดการดูแลสุขภาพอนามัยทางเพศที่ดี คำจำกัดความ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คืออะไร โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (Sexually Transmitted Diseases หรือ STDs) คือ การติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อที่ทำให้เกิดโรค โดยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีมากกว่า 20 ชนิด เช่น คลามัยเดีย (Chlamydia) โรคหนองใน เชื้อเอชไอวี/โรคเอดส์ ไวรัสเอชพีวี (HPV) โรคซิฟิลิส ท่อปัสสาวะอักเสบ ก้านอัณฑะอักเสบ การติดเชื้อทำให้เกิดการอักเสบบริเวณปากช่องคลอดและช่องคลอด เช่น โรคเริมที่เกิดบริเวณอวัยวะเพศ การติดเชื้อทริโคโมแนส (Trichomoniasis) ภาวะอักเสบในอุ้งเชิงกราน แบคทีเรียกลุ่มอื่นๆเช่นยูเรียพลาสม่า (urea plasma urealyticum/parvum) ไมโครพลาสม่า (mycoplasma hominis/genitalium) โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ พบบ่อยแค่ไหน โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์พบได้ทั่วไป แต่บางสาเหตุอาจทำให้เกิดอาการรุนแรงในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย หากผู้หญิงเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และตั้งครรภ์อาจทำให้มีปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงถ่ายทอดไปยังทารกขณะคลอดได้ อาการ อาการของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์  อาการทั่วไปของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อาจมีดังนี้ แผลเปื่อยหรือตุ่มที่บริเวณอวัยวะเพศหรือปากหรือช่องทวารหนัก ความเจ็บปวด […]

โฆษณา

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง

สุขภาพทางเพศ

เพศสัมพันธ์ครั้งแรก เป็นอย่างไร และมีข้อควรระวังอะไรบ้าง

เพศสัมพันธ์ครั้งแรก หรือเซ็กส์ ครั้ง แรก มักเป็นประสบการณ์ชวนตื่นเต้นสำหรับใครหลายคน อย่างไรก็ตาม ก่อนเริ่มการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ว่าเป็นอย่างไร ควรป้องกันอย่างไร มีข้อควรระวังในเรื่องใดบ้าง เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และภาวะตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม เพศสัมพันธ์ครั้งแรก กับเรื่องที่ควรรู้ ก่อนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ควรทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ ดังต่อไปนี้ การมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกอาจทำให้รู้สึกเจ็บ การมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก มักทำให้ฝ่ายหญิงเจ็บบริเวณช่องคลอด ขณะถูกสอดใส่ เนื่องจากช่องคลอดแห้งเกินไปหรือไม่มีความยืดหยุ่นมากพอ ซึ่งอาจแก้ได้โดยการใช้เจลหล่อลื่น และเล้าโลมให้นานยิ่งขึ้น ทั้งนี้ อาจเจ็บปวดหรือแสบบริเวณช่องคลอดประมาณ 1-2 วัน และมักจะค่อย ๆ ทุเลาลงจนหายไปเองหลังจากมีเพศสัมพันธ์ แต่หากอาการดังกล่าวไม่หายไปในระยะเวลา 3-5 วัน ควรไปพบคุณหมอ นอกจากนั้น ผู้หญิงบางคนอาจมีเลือดไหลออกจากช่องคลอด เนื่องจากเยื่อพรมจารีฉีกขาด รวมทั้งจากการเสียดสีอย่างรุนแรงขององคชาตหรือนิ้วมือเมื่อเกิดการสอดใส่ เนื่องจากช่องคลอดมีความบอบบาง อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงบางรายอาจแค่รู้สึกไม่สบายตัวระหว่างมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ไม่จำเป็นต้องเลือดออกเสมอไป ตามความเชื่อดั้งเดิม การมีเซ็กส์ ครั้ง แรกของผู้หญิงอาจทำให้มีเลือดออกเนื่องจากเยื่อพรหมจารีฉีกขาด ทั้งนี้ ความเชื่อดังกล่าวอาจไม่เป็นความจริง เพราะเยื่อพรหมจารีสามารถฉีกขาดก่อนมีเพศสัมพันธ์ได้ จากการทำกิจกรรมต่อไปนี้ ใช้ผ้าอนามัยแบบสอด สำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง เล่นกีฬาซึ่งกระทบกระเทือนบริเวณอวัยวะเพศ เช่น ยิมนาสติก ปั่นจักรยาน หรือประสบอุบัติเหตุที่ทำให้อวัยวะเพศฉีกขาด ผู้หญิงหลายคนอาจไม่ทราบว่าเยื่อพรหมจารีของตนฉีกขาดก่อนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก เนื่องจากบางครั้งการฉีกขาดของเยื่อพรหมจารี ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บ […]

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

เช็กอาการ! เริมกับHPV 2 โรคนี้ ต่างกันยังไง

เริมกับHPV ต่างก็เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่สามารถพบได้ทั่วไป ทั้งสองโรคอาจคล้ายคลึงกันเนื่องจากเป็นโรคที่ส่งผลกระทบต่อผิวหนังและเกิดขึ้นจากไวรัสด้วยกันทั้งคู่ อย่างไรก็ตาม การศึกษาความแตกต่างของโรคเริมกับการติดเชื้อ HPV ให้กระจ่างยิ่งขึ้น อาจช่วยให้สามารถรับมือกับทั้งสองโรคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เริมกับHPV เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร โรคเริม (Herpes) คืออะไร โรคเริม คือหนึ่งในโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้มากที่สุด โรคนี้สามารถพบได้มากถึง 1 ใน 6 คน โรคเริมเป็นการติดเชื้อไวรัส herpes simplex virus โดยแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ herpes simplex virus ชนิดที่ 1 (HSV-1) ที่มักจะเกิดที่บริเวณปาก และชนิดที่ 2 (HSV-2) ที่มักจะเกิดขึ้นที่บริเวณอวัยวะเพศ โรคเริมนี้สามารถส่งผลกระทบได้ทั้งกับผิวหนังและระบบประสาท โดยเฉพาะอาการแผลเริมที่มีลักษณะเป็นตุ่มใสๆ เล็กๆ โรคเริมสามารถติดต่อสู่ผู้อื่นได้จากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัยป้องกัน การจูบ หรือการทำออรัลเซ็กส์โดยไม่ผ่านแผ่นยางอนามัย นอกจากนี้โรคเริมยังสามารถถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกได้ ขณะที่ทำการคลอดบุตรโดยธรรมชาติ โดยปกติแล้วอาการของโรคเริมมักจะเป็นๆ หายๆ โดยเฉพาะในช่วงที่มีภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอ และไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ โรคติดเชื้อเอชพีวี คืออะไร โรคติดเชื้อเอชพีวี หรือโรคเอชพีวี คือ โรคที่เกิดจากเชื้อฮิวแมนปาปิลโลมาไวรัส หรือเอชพีวี (Human Papillomavirus: HPV) ที่มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ เชื้อไวรัสเอชพีวีมักก่อให้เกิดหูด […]

โรคติดเชื้อเอชพีวี

รู้ไว้! หูดหงอนไก่ ตกขาว ควรสังเกตอย่างไร

หูดหงอนไก่ อาจทำให้ ตกขาว ของผู้หญิงมีความผิดปกติ เช่น ตกขาวเป็นมูกหนา สีขาวข้น เป็นก้อน และหากอาการของโรคมีความรุนแรงขึ้นก็อาจทำให้ตกขาวเปลี่ยนเป็นสีเหลือง สีเขียวหรือสีน้ำตาล อาจมีเลือดปนเล็กน้อยและมีกลิ่นเหม็นรุนแรง นอกจากนี้ อาจทำให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น มีอาการเจ็บปวด คัน แสบร้อน เจ็บปวดขณะปัสสาวะ มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์และมีก้อนเนื้อคล้ายหงอนไก่ ดังนั้น ควรสังเกตความผิดปกติของอาการเหล่านี้และเข้าพบคุณหมอเพื่อทำการรักษาอย่างทันท่วงที หูดหงอนไก่ คืออะไร หูดหงอนไก่ คือ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่ง เป็นการเจริญเติบโตของผิวหนังบริเวณรอบ ๆ ช่องคลอด ปากมดลูกหรือด้านนอกทวารหนัก โดยมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (Human Papillomavirus หรือ HPV) สามารถแพร่กระจายได้ผ่านการสัมผัสทางผิวหนังโดยเฉพาะการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทวารหนักหรือทางปากโดยไม่ป้องกัน อาจทำให้มีอาการตกขาว เลือดออกเล็กน้อย คัน เลือดออก แสบร้อน มีก้อนเนื้อหยาบลักษณะคล้ายหงอนไก่หรือดอกกะหล่ำ หูดหงอนไก่ ตกขาว จะมีลักษณะอย่างไร หูดหงอนไก่ที่เกิดขึ้นในผู้หญิงอาจทำให้ตกขาวมีลักษณะผิดปกติ ดังนี้ ตกขาวมากผิดปกติ ตกขาวมีกลิ่นเหม็นมาก ตกขาวเป็นมูกหนา สีขาวข้น เป็นก้อน หรืออาจเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือเขียว ตกขาวสีน้ำตาลหรือมีเลือดออกเป็นสีน้ำตาล และอาจมีกลิ่นเหม็นคาวร่วมด้วย อาจมีอาการเจ็บปวด คัน […]