อาการ ผิด ปกติ หลัง คลอด อาจมีตั้งแต่ภาวะตกเลือดหลังคลอด ภาวะมดลูกอักเสบ ภาวะเต้านมอักเสบช่วงให้นม ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด เป็นต้น อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปอาการผิดปกติไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยหรือพบในคุณแม่หลังคลอดทุกคน จึงไม่ควรเป็นกังวลเกินไปนัก เน้นและทำใจให้สบายเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวันคลอดที่ใกล้มาถึง และควรวางแผนการดูแลสุขภาพหลังคลอดไว้ตั้งแต่ก่อนคลอด ซึ่งอาจช่วยให้คุณแม่รู้สึกสบายใจและผ่านช่วงเวลาหลังคลอดไปได้ด้วยดี
[embed-health-tool-due-date]
อาการ ผิด ปกติ หลัง คลอด
อาการผิดปกติที่คุณแม่หลังคลอดอาจพบได้ในบางครั้ง อาจมีดังนี้
ภาวะตกเลือดหลังคลอด (Postpartum haemorrhage)
หลังคลอดคุณแม่อาจสังเกตว่ามีเลือดออกทางช่องคลอดหรือที่เรียกว่าน้ำคาวปลา (Lochia) ซึ่งจะไหลออกมาจากภายในโพรงมดลูกส่วนที่เคยมีครรภ์ยึดเกาะอยู่เป็นปริมาณมากที่สุดในช่วงหลังคลอด และจะค่อยๆ น้อยลงเรื่อย ๆ โดยสีของเลือดจะเปลี่ยนจากสีแดงสดเป็นสีน้ำตาลจนเป็นสีเหลืองภายใน 2-3 สัปดาห์ และจะมีปริมาณน้อยลงและกลายเป็นสีใสจนแห้งไปในที่สุดภายใน 4-6 สัปดาห์
ทั้งนี้ หากเวลาผ่านไปสักระยะแล้วพบว่าเลือดออกเยอะขึ้นแทนที่จะลดน้อยลง หรือมีก้อนเลือดหรือลิ่มเลือดขนาดใหญ่ออกมาจากช่องคลอด ร่วมกับมีอาการอื่นๆ เช่น
- วิงเวียนศีรษะ
- สายตาพร่ามัว
- รู้สึกจะเป็นลม
- ปวดท้องรุนแรง
หากมีอาการดังกล่าว อาจเป็นสัญญาณของภาวะตกเลือดหลังคลอดที่ควรไปพบคุณหมอเพื่อวินิจฉัยและรักษาโดยเร็ว
ภาวะมดลูกอักเสบหลังคลอด (Postpartum Endometritis)
เป็นภาวะผิดปกติหลังคลอดบุตรซึ่งส่วนใหญ่แล้วเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณเยื่อบุโพรงมดลูกหรือระบบสืบพันธุ์ส่วนบน เช่น สเตรปโตคอคคัสกรุ๊ปบี (group B streptococci) สแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus) ซึ่งอาจเป็นแบคทีเรียที่อยู่ในมดลูกอยู่แล้วหรือเพิ่งเข้าสู่ร่างกายขณะคลอดบุตรก็ได้ โดยปกติแล้ว แบคทีเรียจะขึ้นมาจากอวัยวะสืบพันธุ์ส่วนล่างหรือทางเดินอาหารและจะเข้าไปในโพรงเยื่อบุโพรงมดลูกระหว่างการคลอดจนทำให้เกิดการติดเชื้อ โดยทั่วไปจะวินิจฉัยพบตั้งแต่ 10 วันหลังคลอด แต่ก็อาจพบได้ภายในช่วง 6 สัปดาห์หลังคลอด
ผู้ที่เป็นมดลูกอักเสบอาจมีอาการดังต่อไปนี้
- หนาวสั่น
- ปวดหน่วงท้อง
- ท้องบวม
- ปวดศีรษะ
- เจ็บบริเวณอวัยวะเพศขณะปัสสาวะหรือมีเพศสัมพันธ์
- ตกขาวผิดปกติและมีกลิ่นเหม็นหรือมีเลือดปน
นอกจากนี้ การติดเชื้อแบคทีเรียยังอาจทำให้เกิดภาวะติดเชื้อหลังคลอดบริเวณอื่นได้เช่นกัน เช่น การติดเชื้อของแผลผ่าตัดบริเวณหน้าท้อง การติดเชื้อบริเวณแผลฝีเย็บ ฝีที่รังไข่
ภาวะเต้านมอักเสบ (Mastitis)
ภาวะอักเสบบริเวณเต้านมมักพบในคุณแม่ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร อาจเกิดได้จากท่อน้ำนมอุดตันหรือการติดเชื้อแบคทีเรีย คุณหมอจะแนะนำให้คุณแม่ให้นมจากเต้าไปเรื่อย ๆ หลายครั้งต่อวัน เพื่อระบายน้ำนมออกและลดการอุดตัน และควรอาบน้ำอุ่นและนวดเต้าด้วยตัวเองเพื่อบรรเทาอาการคัดตึงเต้านม โดยอาการที่พบอาจมีดังนี้
- เต้านมบวม แดง สัมผัสแล้วเจ็บ
- มีก้อนที่เต้านม เต้านมแข็ง
- รู้สึกเจ็บหรือแสบร้อนเต้านมเป็นช่วง ๆ หรือเจ็บเต้าระหว่างให้นม
- มีไข้ 38.3 องศาเซลเซียสขึ้นไป
- หนาวสั่น
ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด (Postpartum depression)
คุณแม่หลังคลอดบางท่านอาจประสบกับภาวะอารมณ์เศร้าหลังคลอดหรือเบบี้บลูส์ (Postpartum blues หรือ Baby blues) ที่มักเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์แรกหลังคลอดและมักหายเองได้ อาการอาจมีตั้งแต่อารมณ์แปรปรวน นอนไม่หลับ ร้องไห้ วิตกกังวล แต่หากมีอาการนานเกิน 2 สัปดาห์อาจเป็นสัญญาณของภาวะที่รุนแรงขึ้นอย่างโรคซึมเศร้าหลังคลอด ซึ่งคุณแม่จะมีอาการที่นานกว่าและรุนแรงกว่าอาการเบบี้บลูส์ อาการที่พบอาจมีดังนี้
- อารมณ์แปรปรวนรุนแรงหรือซึมเศร้าอย่างหนัก
- ร้องไห้อย่างหนัก
- ไม่มีความรู้สึกผูกพันกับเด็กที่เพิ่งเกิดมา
- เอาตัวออกห่างจากครอบครัวและเพื่อน
- ไม่อยากอาหาร หรือรับประทานอาหารมากกว่าปกติ
- นอนไม่หลับ ใช้เวลานานกว่าปกติกว่าจะหลับ
- ไม่มีแรง เหนื่อยล้า
- กังวลว่าตัวเองไม่สามารถเป็นแม่ที่ดีได้
- รู้สึกสิ้นหวัง ไม่มีค่า อับอาย
- หงุดหงิด โกรธ อารมณ์ไม่ดีอย่างมาก
- หมดความสนใจในกิจกรรมที่เคยชอบ
- ตัดสินใจได้ไม่เด็ดขาด ไม่มีสมาธิ จดจ่อไม่ได้
- คิดทำร้ายตัวเองหรือเด็ก
- วิตกกังวลหรือมีอาการแพนิคอย่างรุนแรง
- คิดหมกมุ่นเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายหรือความตาย
คุณแม่ที่มีปัญหาดังที่กล่าวมา ควรไปพบคุณหมอเพื่อรับการรักษาให้หายโดยเร็ว เพราะภาวะซึมเศร้าหลังคลอดอาจนำไปสู่ภาวะโรคจิตหลังคลอด (Postpartum psychosis) ซึ่งทำให้คุณแม่มีความผิดปกติด้านความคิดและพฤติกรรมที่อาจเป็นอันตรายต่อทั้งคุณแม่และเด็กได้
อาการผิดปกติหลังคลอด ป้องกันได้หรือไม่
ในช่วงก่อนคลอดสิ่งที่คุณแม่สามารถทำได้เบื้องต้นเพื่อลดความเสี่ยงของอาการผิดปกติคือการดูแลสุขภาพของตัวเองด้วยวิธีต่อไปนี้
- รับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- งดสูบบุหรี่และสูดดมควันบุหรี่มือสอง
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
อาการ ผิด ปกติ หลัง คลอด แบบไหนที่ควรหาหมอ
หากพบว่ามีอาการผิดปกติหลังคลอดในลักษณะต่อไปนี้ ควรไปพบคุณหมอเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างตรงจุด
- มีเลือดออกทางช่องคลอดที่มาเยอะจนชุ่มผ้าอนามัยภายใน 1 ชั่วโมง หรือมีลิ่มเลือดที่มีขนาดใหญ่กว่าลูกกอล์ฟ
- น้ำคาวปลาไม่ลดปริมาณลงและมีปริมาณมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไ
- แผลผ่าคลอดไม่หายหรือสมานตัวแม้จะผ่านไปสักระยะแล้วก็ตาม
- อาการบวมหรือแดงที่สัมผัสแล้วเจ็บที่ขาข้างใดข้างหนึ่ง
- น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็นผิดปกติ
- มีไข้สูงตั้งแต่ 38 องศาเซลเซียส
- เจ็บหน้าอก หายใจติดขัดหรือหายใจถี่ ชัก
- อาเจียน
- ปวดศีรษะ สายตาพร่ามัว ที่รับประทานยาแล้วไม่ดีขึ้น
- อาการซึมเศร้าหรือวิตกกังวลหลังคลอดไม่หายไปหลังผ่านไปแล้ว 2 สัปดาห์ และกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันและการเลี้ยงดูเด็ก
- รู้สึกอยากทำร้ายตัวเองหรือเด็ก