ไขมันที่สะสมในร่างกายที่ทำให้น้ำหนักและรอบเอวเกินเกณฑ์ จนนำไปสู่ความอ้วน อาจเกิดจากการรับประทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตและไขมันสูง รวมถึงขาดการออกกำลังกายหรือการเคลื่อนไหวที่ไม่เพียงพอช่วยในการเผาผลาญไขมัน ดังนั้น ควรศึกษาวิธี เบิร์นไขมัน ในร่างกาย เพื่อช่วยควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติและลดความเสี่ยงจากโรคแทรกซ้อน
[embed-health-tool-bmi]
เบิร์นไขมัน คืออะไร
การเบิร์นไขมัน คือ กระบวนการเผาผลาญไขมันเพื่อนำมาใช้เป็นพลังงานในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ช่วยลดไขมันที่สะสมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ที่สามารถทำได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร เพิ่มการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน การออกกำลังกายเฉพาะส่วนที่ต้องการลดไขมัน
ทำไมจึงควรเบิร์นไขมัน
การเบิร์นไขมัน อาจช่วยลดไขมันส่วนเกินในร่างกายที่เกิดจากการรับประทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตและไขมันมากเกินไป เพราะหลังจากร่างกายย่อยอาหารจะถูกเปลี่ยนเป็นกลูโคสซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลัก หากมีกลูโคสส่วนเกินร่างกายจะเปลี่ยนน้ำตาลเป็นไกลโคเจน (Glycogen) เก็บอยู่ในกล้ามเนื้อและตับ ส่งผลให้น้ำหนักเกินเกณฑ์ ดังนั้น การเบิร์นไขมันจึงช่วยเผาผลาญไขมัน ควบคุมน้ำหนัก และลดความเสี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- โรคข้อเข่าเสื่อม การสะสมของไขมันในร่างกายอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น และส่งผลให้ข้อต่อบริเวณเข่าต้องรองรับน้ำหนักตัวมากเกินไป เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะข้อต่ออักเสบ ข้อเข่าเสื่อมเร็วและรู้สึกปวดเมื่อเคลื่อนไหว
- โรคหัวใจและหลอดเลือด เกิดจากไขมันสะสมในหลอดเลือดมากเกินไป จนอาจทำให้หลอดเลือดหัวใจตีบ ทำให้เลือดไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงหัวใจได้ไม่เต็มที่ จึงนำไปสู่การเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
- โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ไขมันที่สะสมในร่างกายอาจทำให้ร่างกายไม่สามารถใช้อินซูลินในการจัดการกับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงและเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2
- โรคมะเร็ง ไขมันที่สะสมในร่างกายอาจส่งผลให้เกิดภาวะดื้ออินซูลินและเพิ่มระดับอินซูลินสูง ที่กระตุ้นให้เซลล์ร่างกายเจริญเติบโตผิดปกติ เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งตับ มะเร็งปากมดลูกและมะเร็งรังไข่
วิธีเบิร์นไขมัน ลดความอ้วน
วิธีเบิร์นไขมัน ลดความอ้วน อาจทำได้ดังนี้
- เพิ่มการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน เช่น การเดินหรือปั่นจักรยานไปซื้อของในระยะทางที่ใกล้ พาสัตว์เลี้ยงออกไปเดินเล่น การทำงานบ้าน เพื่อช่วยให้ร่างกายค่อย ๆ เบิร์นไขมันนำมาใช้เป็นพลังงาน
- การออกกำลังกาย เป็นอีกหนึ่งวิธีในการเบิร์นไขมันทีอาจส่งผลให้ลดไขมันรวดเร็วการกว่าการเคลื่อนไหว และสามารถเลือกรูปแบบการออกกำลังกายเฉพาะส่วน เพื่อช่วยเบิร์นไขมันในส่วนที่ต้องการได้ เช่น เอว ต้นขา พุง แขน ยกตัวอย่างการสควอช แพลงก์ ปั่นจักรยานบนอากาศ ซิทอัพ เป็นต้น โดยควรออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที เป็นเวลา 5 วัน/สัปดาห์
- เลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ที่ควรเน้นการรับประทานผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี เนื้อสัตว์ไร้ไขมัน ผลิตภัณฑ์จากนมไขมันต่ำ เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ส้ม ผักใบเขียว มะเขือเทศ ฟักทอง อัลมอนด์ ปลาทู ปลาแซลมอน อกไก่ ถั่วเหลือง เพราะอาจทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น ลดปริมาณไขมันที่สะสมในร่างกายจากการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง อีกทั้งยังช่วยควบคุมน้ำหนัก
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีแคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต และไขมันไม่ดีสูง เช่น ขนมปังขาว ข้าวขาว มันฝรั่งทอด ขนมหวาน น้ำอัดลม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และน้ำผลไม้ที่เพิ่มความหวานจากน้ำตาล เพราะอาจทำให้ร่างกายมีการสะสมของไขมันมากเกินไป นำไปสู่ความอ้วนและน้ำหนักเพิ่มขึ้น
ข้อควรระวังในการเบิร์นไขมัน
ในระหว่างการเบิร์นไขมัน ไม่ควรอดอาหารไม่ว่าจะมื้อเช้า กลางวัน หรือเย็น เพราะไม่ใช่ทางออกในการลดน้ำหนักและลดไขมัน แต่สามารถลดปริมาณการรับประทานอาหารด้วยการนับแคลอรี่ให้ไม่เกินกำหนดได้ อีกทั้งการอดอาหารยังอาจกระตุ้นให้ความหิวเพิ่มขึ้น ทำให้รับประทานอาหารในมื้ออื่น ๆ นำไปสู่การสะสมของไขมันในร่างกาย และเสี่ยงน้ำหนักเพิ่มจนนำไปสู่โรคอ้วน
นอกจากนี้ ยังควรอ่านข้อมูลโภชนาการข้างฉลากผลิตภัณฑ์ก่อนเลือกซื้ออาหาร เครื่องปรุง ขนม และเครื่องดื่มมารับประทาน เพื่อเช็กว่ามีคาร์โบไฮเดรต แคลอรี่ ไขมัน และน้ำตาลสูงหรือไม่ และควรหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านั้น