หมอนและผ้าห่มทำให้ลูกน้อยอบอุ่นและหลับสบาย อย่างไรก็ตาม เครื่องนอนอาจเป็นสาเหตุทำให้ทารกเสียชีวิตระหว่างการนอนหลับได้ เพราะอาจไปอุดกั้นการหายใจของทารกทำให้หายใจไม่ออกแม้ว่า คุณพ่อคุณแม่ต้องการฝึกให้ ลูกนอนหนุนหมอน แต่ควรสังเกตความพร้อมและฝึกแบบค่อยเป็นค่อยไปเพื่อให้ลูกน้อยคุ้นชินกับการหนุนหมอนและการห่มผ้าโดยเฉพาะเมื่อต้องแยกห้องนอน
เมื่อไหร่ที่ควรจะให้ ลูกนอนหนุนหมอน
คณะกรรมาธิการความปลอดภัยสินค้าอุปโภคบริโภคของสหรัฐอเมริกา (U.S. Consumer Product Safety Commission; CPSC) แนะนำว่า ควรให้ลูกนอนหนุนหมอนตอนช่วงอายุ 1 ปีครึ่งหรือ 18 เดือน ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบางคนอาจแนะนำให้เริ่มใช้หมอนกับเด็กเมื่ออายุ 24 ขึ้นไปหรืออาจช้ากว่านั้น โดยคำแนะนำเหล่านี้เป็นคำแนะนำพื้นฐานซึ่งเกี่ยวข้องกับโรคไหลตายในทารก (Sudden Infant Death Syndrome; SIDS) และอาการเสียชีวิตอย่างกะทันหันโดยไม่มีสาเหตุในเด็ก (Sudden Unexplained Death In Childhood; SUDC) โดยทั่วไปโรคไหลตายในทารกมักหมายถึงการเสียชีวิตในทารกอายุไม่เกิน 12 เดือน ส่วนอาการเสียชีวิตอย่างกะทันหันโดยไม่มีสาเหตุในเด็ก หมายถึงการเสียชีวิตในเด็กเล็กที่มีอายุมากกว่า 1 ปี
แม้ว่าความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตอย่างกะทันหันโดยไม่ทราบสาเหตุจะลดลงไปเมื่อลูกน้อยอายุครบ 1 ขวบ อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ยังไม่สามารถไว้วางใจได้ เพราะเด็กวัยไม่เกิน 1 ปีครึ่งอาจโดนเครื่องนอนหรือสิ่งของในเปลทับและหายใจไม่ออกจนนำไปสู่การเสียชีวิตได้
ช่วงอายุที่แนะนำให้ลูกนอนหนุนหมอนก็คือ ช่วงเวลาเดียวกับที่เด็ก ๆ สามารถย้ายจากการนอนในเปลไปนอนบนเตียง จึงจะสามารถฝึกให้ลูกนอนหนุนหมอน ทั้งนี้ ควรปรึกษากุมารแพทย์เกี่ยวกับความพร้อมของลูกน้อย เนื่องจากเด็กแต่ละคนมีพัฒนาการในการเจริญเติบโตไม่เท่ากัน คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตพฤติกรรมและท่าทางในการนอนของลูกน้อย เพื่อหาช่วงอายุที่เหมาะสมที่สุดสำหรับให้ลูกน้อยนอนหนุนหมอนในระหว่างการนอนหลับโดยเฉพาะเด็กวัยหัดเดินนั้นมักจะใช้หมอนเป็นที่พิงศีรษะ ซึ่งอาจจะทำให้หมอนบีบเข้ากับใบหน้าเล็ก ๆ ของพวกเขาได้
เคล็ดลับการนอนหลับให้ปลอดภัยสำหรับเด็กวัยหัดเดิน
ผ้าห่มและหมอนนุ่ม ๆ แบบเดียวกับที่ผู้ใหญ่ชอบนอนนั้นอาจจะเป็นอันตรายสำหรับทารกและลูกน้อยวัยหัดเดินได้ เพื่อให้ลูกน้อยปลอดภัยในเวลานอนหลับตลอดทั้งคืน มีเคล็ดลับการนอนหลับให้ปลอดภัยสำหรับเด็กวัยหัดเดินซึ่งเป็นวัยที่อาจเริ่มให้ลูกนอนหนุนหมอน ดังนี้
เลือกหมอนที่เหมาะสม
อันดับแรกที่คุณพ่อคุณแม่ควรจะต้องพิจารณาก็คือ การหาหมอนที่ช่วยเพิ่มความสบายและปลอดภัยสำหรับลูกน้อยวัยหัดเดิน ควรหลีกเลี่ยงหมอนที่มีขนาดใหญ่เกินไป เพื่อลดความเสี่ยงในการที่ลูกน้อยจะหายใจไม่ออก หมอนที่ไม่นุ่มจนเกินไปจะดีต่อคอและกระดูกสันหลังของลูกน้อยที่ยังมีการพัฒนาอยู่ หากลูกมีแพ้ง่าย เช่น แพ้ยางพารา ควรตรวจสอบวัสดุของหมอนว่าจะไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้
นอนหงาย
การฝึกให้เด็กนอนหงาย จะช่วยลดอัตราการเกิดโรคไหลตายในทารก และควรให้นอนหงายต่อไปจนกว่าลูกน้อยจะมีอายุประมาณ 12-18 เดือน อย่างไรก็ตาม หากลูกน้อยพลิกตัวนอนคว่ำ หรือนอนตะแคงด้วยตัวเองก็ไม่จำเป็นต้องคอยจับนอนหงายตลอดเวลา และเมื่อเปลี่ยนให้ลูกน้อยนอนเตียงแทนการนอนเปล ลูกน้อยจะพลิกแพลงท่านอนในท่าที่พวกเขาสบายที่สุด
ที่ตั้งของ เปล หรือเตียง
คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรพาลูกมานอนด้วยบนเตียง แต่ควรนำเปลไว้ในห้องนอนช่วง 6 เดือนแรก เพื่อลดความเสี่ยงของโรคไหลตายในทารก ในความเป็นจริงแล้ว หน่วยงานป้องกันโรคติดต่อในสหรัฐอเมริกา (Centers for Disease Control; CDC) ยังแนะนำว่า การนอนในห้องเดียวกับลูกน้อยจนถึงอายุ 12 เดือน อาจจะเหมาะในแง่ของความปลอดภัยและความสะดวก แต่อาจจะทำให้การแยกลูกน้อยวัยหัดเดินไปนอนคนเดียวได้ยากขึ้น และเมื่อเปลี่ยนให้ลูกน้อยนอนเตียงคนเดียวในห้องส่วนตัว ควรวางเปลให้ห่างจากวัตถุที่มีสายต่าง ๆ เช่น ผ้าม่าน สายไฟ รวมถึงวัสดุอื่น ๆ ที่ลูกน้อยอาจดึงจากเปลหรือเตียงจนมาปกคลุมร่างกายและทำให้หายใจไม่ออกได้
[embed-health-tool-vaccination-tool]