Acetylcysteine หรือยา อะเซทิลซิสเทอีน เป็นยาสำหรับใช้รักษาอาการจากการรับประทานยาพาราเซตามอลเกินขนาด ช่วยให้เสมหะเจือจางลง และขับออกจากร่างกายได้โดยการไอ
[embed-health-tool-bmi]
ข้อบ่งใช้
ยา Acetylcysteine ใช้สำหรับ
ยา อะเซทิลซิสเทอีน หากเป็นยาพ่นยาจะใช้เพื่อละลายเสมหะและขับเสมหะในทางเดินหายใจเนื่องจากโรคปอดต่างๆ เช่น โรคหลอดลมอักเสบ โรคถุงลมโป่งพอง หรือโรคปอดบวม ยานี้จะช่วยขับเสมหะออกจากปอดทำให้หายใจได้ง่ายขึ้น
หากเป็นยารับประทาน จะใช้เพื่อป้องกันไม่ให้ตับเสียหายจากการใช้ยาพาราเซตามอลเกินขนาด
วิธีใช้ยา Acetylcysteine
ให้ใช้ยานี้ตามที่แพทย์สั่ง โปรดอ่านข้อมูลทั้งหมด และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
ยาน้ำสำหรับพ่นปาก
- สำหรับพ่นปาก โดยใช้เครื่องพ่นละอองยา
- หากรู้สึกเหนียวที่ใบหน้าหลังจากพ่นยา ควรล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า
- หากยาตกตะกอนห้ามใช้ยานี้
ยาน้ำสำหรับรับประทาน
- ผสมยากับโซดาหรือเครื่องดื่มที่ปราศจากน้ำตาล
- ดื่มน้ำเปล่าตามในปริมาณมาก
- หากอาเจียนหลังจากกินยาภายใน 1 ชั่วโมง ให้กินยาเพิ่มอีกครั้ง
การเก็บรักษา ยาอะเซทิลซิสเทอีน
ขวดที่ยังไม่เปิดใช้
การเก็บรักษายาอะเซทิลซิสเทอีนที่ดีที่สุด ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง ให้ห่างจากแสงโดยตรงและความชื้น เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของยา ไม่ควรเก็บยาอะเซทิลซิสเทอีนไว้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง
ยาอะเซทิลซิสเทอีนมีหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งมีวิธีการเก็บรักษาที่แตกต่างกัน เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องตรวจสอบวิธีการเก็บรักษาที่ระบุไว้ในบรรจุภัณฑ์ หรือสอบถามจากเภสัชกร เพื่อความปลอดภัย ควรเก็บยาทั้งหมดให้ห่างจากเด็กหรือสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรเทยาอะเซทิลซิสเทอีนทิ้งลงในโถส้วมหรือท่อระบายน้ำ เว้นแต่จะได้รับคำแนะนำเช่นนั้น สิ่งสำคัญคือต้องกำจัดยาอย่างเหมาะสม เมื่อหมดอายุหรือไม่ใช้งานแล้ว ให้ปรึกษาเภสัชกรสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดผลิตภัณฑ์อย่างปลอดภัย
ขวดที่เปิดใช้แล้ว
การเก็บรักษายาอะเซทิลซิสเทอีนที่ดีที่สุด ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง ให้ห่างจากแสงโดยตรงและความชื้น เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของยา ไม่ควรเก็บยาอะเซทิลซิสเทอีนไว้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาอะเซทิลซิสเทอีนมีหลากหลายยี่ห้อซึ่งมีวิธีการเก็บรักษาที่แตกต่างกัน เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องตรวจสอบวิธีการเก็บรักษาที่ระบุไว้ในบรรจุภัณฑ์ หรือสอบถามจากเภสัชกร เพื่อความปลอดภัย ควรเก็บยาทั้งหมดให้ห่างจากเด็กหรือสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรเทยาอะเซทิลซิสเทอีนทิ้งลงในโถส้วมหรือท่อระบายน้ำ เว้นแต่จะได้รับคำแนะนำเช่นนั้น สิ่งสำคัญคือต้องกำจัดยาอย่างเหมาะสมเมื่อหมดอายุหรือไม่ใช้งานแล้ว ให้ปรึกษาเภสัชกรสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดผลิตภัณฑ์อย่างปลอดภัย
ข้อควรระวังและคำเตือน
ควรรู้อะไรก่อนใช้ยา อะเซทิลซิสเทอีน
ก่อนใช้ยานี้ ให้แจ้งแพทย์ในกรณีดังต่อไปนี้
- กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจากในขณะที่กำลังตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
- กำลังใช้ยาตัวอื่น รวมถึงยาใด ๆ ที่กำลังใช้อยู่โดยที่สามารถหาซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งยา เช่น ยาสมุนไพรและอาหารเสริม
- มีอาการแพ้ ส่วนผสมที่ออกฤทธิ์และไม่ออกฤทธิ์ใดๆ ของยาอะเซทิลซิสเทอีนหรือยาอื่นๆ
- มีอาการป่วย อาการผิดปกติ หรืออาการทางสุขภาพอื่นๆ
- มีอาการแพ้ยาจำพวกนี้ ยาจำพวกอื่น อาหาร หรือสารอื่น ๆ ให้แจ้งคุณหมอเกี่ยวกับอาการแพ้และอาการบ่งชี้ต่าง ๆ เช่น ผื่น ลมพิษ คัน หายใจไม่อิ่ม ไอ อาการบวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือคอ หรือมีอาการบ่งชี้อื่นๆ
ยานี้อาจทำปฏิกิริยากับยาหรือภาวะทางสุขภาพอื่นๆ
หลังจากเปิดขวดยา ยานี้อาจจะเปลี่ยนสีได้
ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ไม่มีการศึกษาในผู้หญิงที่เพียงพอเพื่อระบุความเสี่ยง เมื่อใช้ยาอะเซทิลซิสเทอีนในระหว่างการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เสมอเพื่อพิจารณาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้ ยาอะเซทิลซิสเทอีนมีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท C ตามที่องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (US Food and Drug Administration: FDA) ได้กำหนดไว้
ความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ตามองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ มีรายการอ้างอิงดังต่อไปนี้
- A=ไม่มีความเสี่ยง
- B=ไม่มีความเสี่ยงในงานวิจัยบางชิ้น
- C=อาจมีความเสี่ยง
- D=มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
- X=ห้ามใช้
- N=ไม่ทราบแน่ชัด
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงจากยาอะเซทิลซิสเทอีน
สำหรับข้อบ่งใช้ทั้งหมดของสารละลายอะเซทิลซิสเทอีน
- สิ่งบ่งชี้ของอาการแพ้ เช่น มีผื่น ลมพิษ คัน ผิวหนังมีรอยแดง บวม พุพอง หรืออาการลอกที่มีหรือไม่มีอาการไข้ร่วมด้วย อาการแน่นที่หน้าอกหรือคอ หายใจหรือพูดลำบาก เสียงแหบผิดปกติ หรืออาการบวมที่ปาก ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือคอ
- หายใจไม่อิ่ม
- ปวดท้องหรืออาเจียน
ยาน้ำสำหรับรับประทาน
- อุจจาระมีสีคล้ำ ข้นหนืด หรือมีเลือดปน
- อาเจียนเป็นเลือดหรืออาเจียนเหมือนผงกาแฟ
ยาสำหรับพ่นปาก
- มีน้ำมูกไหล
- รู้สึกง่วงนอน
- มีอาการระคายเคืองหรือแผลที่ปาก
- ตัวเย็น
- มีไข้
อาการข้างเคียงเหล่านี้พบไม่ได้ในผู้ใช้ยาทุกคน และอาจมีอาการข้างเคียงที่ไม่ได้ระบุข้างต้น หากมีข้องกังวลเกี่ยวกับอาการข้างเคียง ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
ปฏิกิริยาของยา
ปฏิกิริยากับยาอื่น
ยาอะเซทิลซิสเทอีนอาจเกิดปฏิกิริยากับยาชนิดอื่นที่ใช้อยู่ ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงสำหรับอาการข้างเคียงที่รุนแรงขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงปฏิกิริยาของยาที่อาจเกิดขึ้น
ควรแจ้งรายการยาที่ใช้อยู่ทั้งหมด (ยาที่สั่งโดยแพทย์ ยาที่ไม่ได้สั่งโดยแพทย์ และยาสมุนไพร) และแจ้งแก่แพทย์หรือเภสัชกร เพื่อความปลอดภัย ห้ามเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใด ๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์
ยาอะเซทิลซิสเทอีนอาจทำปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์ได้ โดยการเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ยา หรือเพิ่มความเสี่ยงสำหรับอาการข้างเคียงที่รุนแรงขึ้น โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เกี่ยวกับปฏิกิริยาที่อาจเกิดขึ้นของยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์ ก่อนการใช้ยา
ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่นๆ
ยาอะเซทิลซิสเทอีนอาจทำปฏิกิริยากับสภาวะทางสุขภาพ ปฏิกิริยาดังกล่าวอาจทำให้สภาวะทางสุขภาพเสื่อมลง หรือเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ของยา เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบเสมอ เกี่ยวกับสภาวะทางสุขภาพทั้งหมดในปัจจุบัน
ขนาดยา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาที่จะให้ใช้แทนข้อแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาอะเซทิลซิสเทอีนเสมอ
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่
ขนาดใช้ยาปกติของผู้ใหญ่สำหรับการใช้ยาพาราเซตามอลเกินขนาด
ยาฉีด: ขนาดยาโดยรวม คือ 300 มก./กก. แบ่งให้ 3 ครั้ง ภายใน 21 ชั่วโมง
ขนาดใช้ยาปกติของผู้ใหญ่สำหรับการตรวจ Diagnostic Bronchograms
พ่นยาไปยังหน้ากากอนามัยหรือพ่นยาเข้าปาก
- ขนาดยาแนะนำ: 3 ถึง 5 มล. ของสารละลาย 20% หรือ 6 ถึง 10 มล. ของสารละลาย 10% เป็นเวลา 3 ถึง 4 ครั้งต่อวัน
- ขอบเขตขนาดยา: 1 ถึง 10 มล. ของสารละลาย 20% หรือ 2 ถึง 20 มล. ของสารละลาย 10% ทุก 2 ถึง 6 ชั่วโมง
เครื่องพ่นละอองยา
- ขนาดยาแนะนำ: ยาสารละลาย 10% หรือ 20% จะเป็นละอองหมอกอยู่ในเครื่องพ่นยาจนกว่าจะพร้อมใช้งาน
- เครื่องพ่นยาจำเป็นต้องใช้ยาในปริมาณมากถึง 300 มล. สำหรับการรักษาหนึ่งช่วง
- เหมาะสำหรับการให้ยาอย่างต่อเนื่อง หรือให้ยาเป็นระยะ ๆ
- อย่าแบ่งใช้เครื่องพ่นยากับผู้อื่น
การฉีดยาโดยตรง
- ขอบเขตขนาดยา: 1 ถึง 2 มล. ของสารละลาย 10% ถึง 20% ทุกชั่วโมง
- สำหรับการให้ยาทางการเจาะคอ 1 ถึง 2 มล. ของสารละลาย 10% ถึง 20% ทุก 1 ถึง 4 ชั่วโมง
- สำหรับการให้ยาผ่านท่อทางผิวหนัง ยาสารละลาย 20% 1 ถึง 2 มล. หรือยาสารละลาย 10% 2 ถึง 4 มล. ทุก 1 ถึง 4 ชั่วโมง
- สำหรับการฉีดยาเข้าปอดโดยตรง ยาสารละลาย 20% 2 ถึง 5 มล.
การตรวจ Diagnostic Bronchograms
- ขนาดยาแนะนำ: 1 ถึง 2 มล. ของสารละลาย 20% หรือ 2 ถึง 4 มล. ของสารละลาย 10% โดยใช้เครื่องพ่นยาหรือเครื่องหยอดยาเข้าไปในหลอดลม สองหรือสามครั้งก่อนการรักษา
ขนาดใช้ยาปกติของผู้ใหญ่สำหรับสารละลายเสมหะ (Mucolytic)
พ่นยาไปยังหน้ากากอนามัยหรือพ่นยาเข้าปาก
- ขนาดยาแนะนำ: 3 ถึง 5 มล. ของสารละลาย 20% หรือ 6 ถึง 10 มล. ของสารละลาย 10% เป็นเวลา 3 ถึง 4 ครั้งต่อวัน
- ขอบเขตขนาดยา: 1 ถึง 10 มล. ของสารละลาย 20% หรือ 2 ถึง 20 มล. ของสารละลาย 10% ทุก 2 ถึง 6 ชั่วโมง
เครื่องพ่นละอองยา
- ขนาดยาแนะนำ: ยาสารละลาย 10% หรือ 20% จะเป็นละอองหมอกอยู่ในเครื่องพ่นยาจนกว่าจะพร้อมใช้งาน
- เครื่องพ่นยาจำเป็นต้องใช้ยาในปริมาณมากถึง 300 มล. สำหรับการรักษาหนึ่งช่วง
- เหมาะสำหรับการให้ยาอย่างต่อเนื่อง หรือให้ยาเป็นระยะ ๆ
- อย่าแบ่งใช้เครื่องพ่นยากับผู้อื่น
การฉีดยาโดยตรง
- ขอบเขตขนาดยา: 1 ถึง 2 มล. ของสารละลาย 10% ถึง 20% ทุกชั่วโมง
- สำหรับการให้ยาทางการเจาะคอ 1 ถึง 2 มล. ของสารละลาย 10% ถึง 20% ทุก 1 ถึง 4 ชั่วโมง
- สำหรับการให้ยาผ่านท่อทางผิวหนัง ยาสารละลาย 20% 1 ถึง 2 มล. หรือยาสารละลาย 10% 2 ถึง 4 มล. ทุก 1 ถึง 4 ชั่วโมง
- สำหรับการฉีดยาเข้าปอดโดยตรง ยาสารละลาย 20% 2 ถึง 5 มล.
การตรวจ Diagnostic Bronchograms
- ขนาดยาแนะนำ: 1 ถึง 2 มล. ของสารละลาย 20% หรือ 2 ถึง 4 มล. ของสารละลาย 10% โดยใช้เครื่องพ่นยาหรือเครื่องหยอดยาเข้าไปในหลอดลม สองหรือสามครั้งก่อนการรักษา
ขนาดยาสำหรับเด็ก
ขนาดใช้ยาปกติสำหรับการใช้ยาพาราเซตามอลเกินขนาด
ยาฉีด: ขนาดยาโดยรวม คือ 300 มก./กก. โดยให้ยา 3 ขนาดแยกกันและใช้เปป็นเวลาทั้งสิ้น 21 ชั่วโมง
ขนาดใช้ยาปกติสำหรับการตรวจ Diagnostic Bronchograms
พ่นยาไปยังหน้ากากอนามัยหรือพ่นยาเข้าปาก
- ขนาดยาแนะนำ: 3 ถึง 5 มล. ของสารละลาย 20% หรือ 6 ถึง 10 มล. ของสารละลาย 10% เป็นเวลา 3 ถึง 4 ครั้งต่อวัน
- ขอบเขตขนาดยา: 1 ถึง 10 มล. ของสารละลาย 20% หรือ 2 ถึง 20 มล. ของสารละลาย 10% ทุก 2 ถึง 6 ชั่วโมง
เครื่องพ่นละอองยา
- ขนาดยาแนะนำ: ยาสารละลาย 10% หรือ 20% จะเป็นละอองหมอกอยู่ในเครื่องพ่นยาจนกว่าจะพร้อมใช้งาน
- เครื่องพ่นยาจำเป็นต้องใช้ยาในปริมาณมากถึง 300 มล. สำหรับการรักษาหนึ่งช่วง
- เหมาะสำหรับการให้ยาอย่างต่อเนื่อง หรือให้ยาเป็นระยะ ๆ
- อย่าแบ่งใช้เครื่องพ่นยากับผู้อื่น
การฉีดยาโดยตรง
- ขอบเขตขนาดยา: 1 ถึง 2 มล. ของสารละลาย 10% ถึง 20% ทุกชั่วโมง
- สำหรับการให้ยาทางการเจาะคอ 1 ถึง 2 มล. ของสารละลาย 10% ถึง 20% ทุก 1 ถึง 4 ชั่วโมง
- สำหรับการให้ยาผ่านท่อทางผิวหนัง ยาสารละลาย 20% 1 ถึง 2 มล. หรือยาสารละลาย 10% 2 ถึง 4 มล. ทุก 1 ถึง 4 ชั่วโมง
- สำหรับการฉีดยาเข้าปอดโดยตรง ยาสารละลาย 20% 2 ถึง 5 มล.
การตรวจ Diagnostic Bronchograms
- ขนาดยาแนะนำ: 1 ถึง 2 มล. ของสารละลาย 20% หรือ 2 ถึง 4 มล. ของสารละลาย 10% โดยใช้เครื่องพ่นยาหรือเครื่องหยอดยาเข้าไปในหลอดลม สองหรือสามครั้งก่อนการรักษา
ขนาดใช้ยาปกติสำหรับละลายเสมหะ (Mucolytic)
พ่นยาไปยังหน้ากากอนามัยหรือพ่นยาเข้าปาก
- ขนาดยาแนะนำ: 3 ถึง 5 มล. ของสารละลาย 20% หรือ 6 ถึง 10 มล. ของสารละลาย 10% เป็นเวลา 3 ถึง 4 ครั้งต่อวัน
- ขอบเขตขนาดยา: 1 ถึง 10 มล. ของสารละลาย 20% หรือ 2 ถึง 20 มล. ของสารละลาย 10% ทุก 2 ถึง 6 ชั่วโมง
เครื่องพ่นละอองยา
- ขนาดยาแนะนำ: ยาสารละลาย 10% หรือ 20% จะเป็นละอองหมอกอยู่ในเครื่องพ่นยาจนกว่าจะพร้อมใช้งาน
- เครื่องพ่นยาจำเป็นต้องใช้ยาในปริมาณมากถึง 300 มล. สำหรับการรักษาหนึ่งช่วง
- เหมาะสำหรับการให้ยาอย่างต่อเนื่อง หรือให้ยาเป็นระยะ ๆ
- อย่าแบ่งใช้เครื่องพ่นยากับผู้อื่น
การฉีดยาโดยตรง
- ขอบเขตขนาดยา: 1 ถึง 2 มล. ของสารละลาย 10% ถึง 20% ทุกชั่วโมง
- สำหรับการให้ยาทางการเจาะคอ 1 ถึง 2 มล. ของสารละลาย 10% ถึง 20% ทุก 1 ถึง 4 ชั่วโมง
- สำหรับการให้ยาผ่านท่อทางผิวหนัง ยาสารละลาย 20% 1 ถึง 2 มล. หรือยาสารละลาย 10% 2 ถึง 4 มล. ทุก 1 ถึง 4 ชั่วโมง
- สำหรับการฉีดยาเข้าปอดโดยตรง ยาสารละลาย 20% 2 ถึง 5 มล.
การตรวจ Diagnostic Bronchograms
- ขนาดยาแนะนำ: 1 ถึง 2 มล. ของสารละลาย 20% หรือ 2 ถึง 4 มล. ของสารละลาย 10% โดยใช้เครื่องพ่นยาหรือเครื่องหยอดยาเข้าไปในหลอดลม สองหรือสามครั้งก่อนการรักษา
รูปแบบยา
ยาอะเซทิลซิสเทอีนมีรูปแบบการใช้และปริมาณตัวยา ดังต่อไปนี้
- สารละลายสำหรับฉีด
- ของเหลวสำหรับสูดดม
กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด
ในกรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ให้โทรแจ้งบริการฉุกเฉิน หรือไปยังห้องฉุกเฉินในโรงพยาบาลใกล้บ้าน
กรณีลืมใช้ยา
หากลืมใช้ยยาอะเซทิลซิสเทอีน ให้ใช้ยาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างไรก็ดี หากใกล้เวลาใช้รอบถัดไป ให้ข้ามรอบที่ลืมใช้ไปแล้วใช้ยาในรอบถัดไปตามปกติที่กำหนดไว้ ห้ามใช้เพิ่มเป็นสองเท่า