มะม่วง เป็นผลไม้ที่มีรสชาติอร่อยและมีสารอาหารมากมาย โดยเฉพาะ มะม่วงสุก ที่มีรสชาติหวานอร่อย แต่อย่างไรก็ตาม มะม่วงสุกก็มีน้ำตาลค่อนข้างสูง จึงควรกินในปริมาณที่พอดี เพื่อที่จะได้รับประโยชน์สุขภาพของมะม่วง โดยไม่สร้างปัญหาต่อร่างกาย
มะม่วงสุก อุดมคุณค่าอาหาร
มะม่วงสุก 1 ถ้วย (165 กรัม) ให้พลังงาน 107 แคลอรี่ และมีสารอาหารดังนี้
- ไฟเบอร์ 3 กรัม
- น้ำตาล 24 กรัม
- โปรตีน 1 กรัม
- วิตามินเอ 25% ของปริมาณวิตามินเอที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน
- วิตามันซี 76% ของปริมาณวิตามินซีที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน
- โพแทสเซียม 257 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 6 0.2 มิลลิกรัม
นอกจากนี้มะม่วงยังมีแร่ธาตุทองแดง (คอปเปอร์) แคลเซียม และธาตุเหล็ก รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระซีแซนทิน (zeaxanthin) และเบต้า-แคโรทีน (beta-carotene) อีกด้วย
ประโยชน์สุขภาพของมะม่วงสุก
อาจช่วยป้องกันมะเร็ง
งานวิจัยโดย Texas AgriLife Research ให้ข้อมูลว่า นักวิทยาศาสตร์ด้านอาหารได้ทดสอบปฏิกิริยาของสารสกัดโพลีฟีนอล (Polyphenol) ในมะม่วงกับเนื้อเยื่อมะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด มะเร็งเม็ดเลือดขาว และมะเร็งต่อมลูกหมาก ผลการศึกษาพบว่า สารสกัดจากมะม่วงส่งผลต่อเซลล์มะเร็งทุกเซลล์ แต่มีประสิทธิผลที่สุดกับเซลล์มะเร็งเต้านมและมะเร็งลำไส้ อย่างไรก็ตามทีมวิจัยยังคงต้องการการศึกษาวิจัยต่อไป
ดีต่อการย่อยอาหาร
งานวิจัยที่เผยแพร่ในวารสาร The Official Journal of the Federation of American Societies for Experimental Biology ให้ข้อมูลว่า กลุ่มคนผู้ที่กินมะม่วงทุกวันจะมีอาการท้องผูกดีขึ้นกว่าผู้ที่กินไฟเบอร์ในปริมาณที่เท่ากัน เนื่องจากมะม่วงมีไฟเบอร์และน้ำ ซึ่งจะช่วยป้องกันอาการท้องผูก และทำให้ระบบทางเดินอาหารสุขภาพดีขึ้น
ลดความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจ
ไฟเบอร์ โพแทสเซียม และวิตามินในมะม่วงจะช่วยป้องกันโรคหัวใจ นอกจากนี้การเพิ่มโพแทสเซียมและลดการกินโซเดียม ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจด้วย
อุดมไปด้วยวิตามินเอ
มะม่วงสุกปริมาณ 1 ถ้วยมีวิตามินเอ 25% ของปริมาณวิตามินเอที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน วิตามินเอมีความสำคัญกับการทำงานของร่างกายหลายส่วน โดยเฉพาะดวงตา ผิวและเส้นผม นอกจากนี้ยังช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง และช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน
อุดมไปด้วยวิตามินซี
มะม่วงสุกอุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งจำเป็นต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย มะม่วงสุกปริมาณ 1 ถ้วยมีวิตามินซี 76% ของปริมาณวิตามินซีที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน ซึ่งวิตามินซีมีบทบาทสำคัญในการเติบโตของกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และกระดูก รวมถึงช่วยดูดซึมธาตุเหล็กด้วย
ดีต่อระดับน้ำตาลในเลือด
งานวิจัยพบว่า มะม่วงช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดเมื่อทดลองในสัตว์ทดลอง นอกจากนี้มีงานวิจัยที่เผยแพร่ใน Nutrition and Metabolic ที่พบว่า การกินมะม่วงช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ที่เป็นโรคอ้วน
มะม่วงกับเซลล์ไขมัน
ยังไม่มีงานวิจัยที่ชี้ว่าการกินมะม่วงนำไปสู่การลดน้ำหนัก อย่างไรก็ตามมีนักวิจัยที่ศึกษาผลกระทบของมะม่วงกับเซลล์ไขมันในห้องปฏิบัติการ มะม่วงมีสารโพลีฟีนอล (Polyphenol) และนักวิทยาศาสตร์ได้รายงานว่า สารชนิดนี้ช่วยลดความสามารถในการเพิ่มขึ้นของเซลล์ไขมัน แต่อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้ยังคงต้องการการศึกษาต่อไป โดยนักวิจัยได้แนะนำว่า มะม่วงอาจช่วยป้องกันโรคอ้วนและโรคที่เกี่ยวข้องกับความอ้วนได้
กินให้ดีต้องระวัง
- การกินมะม่วงสุกในปริมาณที่พอดีคือหัวใจสำคัญ เนื่องจากมะม่วงสุกเป็นผลไม้ที่มีรสหวาน ดังนั้น The United States Department of Agriculture จึงแนะนำว่า ผู้ใหญ่ควรกินไม่เกิน 1-2 ถ้วยต่อวัน (ประมาณ 165 กรัมต่อวัน)
- ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ควรระวังปริมาณน้ำตาลในมะม่วง เนื่องจากมะม่วงสุก 1 ถ้วยมีปริมาณน้ำตาล 24 กรัม ดังนั้น ผู้ที่เป็นเบาหวานควรรับคำแนะนำเรื่องการบริโภคที่เหมาะสมจากคุณหมอ ก่อนกินมะม่วงหรือผลไม้รสหวานชนิดอื่นๆ
[embed-health-tool-bmr]