โรคตา

เมื่ออายุมากขึ้นอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายก็จะเสื่อมสภาพลงไป เนื่องจากการใช้งานมาอย่างยาวนาน ซึ่งดวงตาก็เป็นอีกหนึ่งอวัยวะที่สามารถเสื่อมสมรรถภาพได้จนอาจทำให้เกิด โรคตา ซึ่งวิธีการดูแล รักษา รวมถึงรับมือกับสิ่งต่าง ๆ ทีเกิดขึ้น สามารถอ่านได้ที่นี่

เรื่องเด่นประจำหมวด

โรคตา

ต้อเนื้อ สาเหตุ อาการ และการรักษา

ต้อเนื้อ เป็นปัญหาเกี่ยวกับดวงตา ที่เกิดจากพังผืดของเยื่อบุตาที่มีลักษณะเป็นสีชมพูและแดงลุกลามเข้าไปสู่ตาดำ ซึ่งอาจไม่พัฒนาไปเป็นมะเร็งแต่อาจรบกวนด้านการมองเห็น ดังนั้น จึงควรเข้ารับการวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็วหากสังเกตว่าเยื่อบุตาเริ่มขยายใหญ่ เพื่อลดความเสี่ยงอาการตาบอด คำจำกัดความ ต้อเนื้อ คืออะไร ต้อเนื้อ คือ พังผืดของเยื่อบุตาที่อยู่บริเวณหัวตาขยายใหญ่จนลุกลามเข้าสู่ตาดำ ทำให้ม่านตาขุ่นมัว ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับดวงตาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้าง อย่างไรก็ตาม ต้อเนื้อมักจะไม่พัฒนาเป็นมะเร็ง แต่อาจรบกวนการมองเห็น ส่งผลให้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้ไม่สะดวก และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ หากปล่อยไว้เป็นเวลานานอาจเพิ่มความเสี่ยงที่ส่งผลให้สูญเสียการมองเห็นได้ อาการ อาการของต้อเนื้อ อาการของต้อเนื้อ อาจมีดังนี้ เยื่อบุตาขยายใหญ่และลุกลามเข้าไปยังตาดำอย่างเห็นได้ชัด รู้สึกเหมือนมีอะไรอยู่ในดวงตาตลอดเวลา ตาแดง น้ำตาไหล ระคายเคือง บางคนอาจรู้สึกแสบตา มองเห็นไม่ชัดหรือมองเห็นเป็นภาพซ้อน สาเหตุ สาเหตุของต้อเนื้อ ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดของการเกิดต้อเนื้อ แต่คาดว่าอาจเกิดจากรังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงแดด ลม ฝุ่น หรือสิ่งสกปรกที่เข้าสู่ดวงตา ทำให้ดวงตาระคายเคืองและกระตุ้นการเจริญเติบโตของเยื่อบุตา ทำให้เยื่อบุตาขยายใหญ่จนลุกลามไปบดบังตาดำ ปัจจัยเสี่ยง ปัจจัยเสี่ยงของต้อเนื้อ ปัจจัยเสี่ยงของต้อเนื้อ มีดังนี้ ผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง เพราะอาจเสี่ยงทำให้ดวงตาได้รับรังสีไวโอเลตจากแสงแดดมากเกินไป ผู้ที่ทำงานในพื้นที่ลมแรง และสัมผัสกับฝุ่น หรือสิ่งสกปรกเป็นประจำ เช่น รับเหมาก่อสร้าง เหมืองแร่ ชาวประมง เกษตรกร การวินิจฉัยและการรักษา ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาคุณหมอทุกครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม การวินิจฉัยต้อเนื้อ การวินิจฉัยต้อเนื้อ อาจทำได้ดังนี้ สอบถามประวัติสุขภาพและปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เป็นต้อเนื้อ ทดสอบการมองเห็นด้วยการอ่านตัวอักษร วัดความโค้งของกระจกตาว่ามีความเสี่ยงเป็นสายตาเอียงร่วมด้วยหรือไม่ ใช้กล้องจุลทรรศน์ที่เรียกว่า Slit […]

สำรวจ โรคตา

โรคตา

โรคตาขี้เกียจในเด็ก สาเหตุ การรักษา และการตรวจดวงตาในเด็ก

โรคตาขี้เกียจในเด็ก เป็นหนึ่งในความผิดปกติของดวงตาที่สามารถพบได้บ่อยในเด็กเล็ก เกิดขึ้นจากความผิดปกติของดวงตา เช่น สายตาสั้น สายตายาว ตาเข หากปล่อยไว้นานอาจทำให้การมองเห็นลดลง และอาจนำไปสู่อาการตาบอดสนิทได้ ดังนั้น เด็กจึงควรได้รับการตรวจดวงตาเป็นประจำ เพื่อจะได้ตรวจพบความผิดปกติ และทำการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ โรคตาขี้เกียจในเด็กคืออะไร โรคตาขี้เกียจ เกิดจากความผิดปกติของการมองเห็น เช่น สายตาเอียง สายตาสั้น ตาเข ทำให้ความสามารถในการมองเห็นลดลง และหากปล่อยทิ้งไว้อาจเพิ่มความเสี่ยงของอาการตาบอดในอนาคต โรคตาขี้เกียจในเด็กสามารถตรวจพบได้ด้วยการตรวจวัดสายตา และการตรวจพัฒนาการของดวงตา เด็กบางคนอาจสามารถบอกปัญหาการมองเห็นของตัวเองให้ผู้ปกครองรับทราบ เช่น อาการตามัว ตาเบลอ มองเห็นไม่ชัดเจน แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองควรหมั่นสังเกตการมองเห็นของลูก และพาลูกไปตรวจสุขภาพดวงตาเป็นประจำ เพื่อจะได้ตรวจพบความผิดปกติตั้งแต่เนิ่น ๆ สาเหตุของโรคตาขี้เกียจในเด็ก โรคตาขี้เกียจ มีสาเหตุมาจากความผิดปกติของการมองเห็น ดังนี้ ตาเข ตาเหล่ ค่าสายตาผิดปกติ เช่น สายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง หนังตาตก กระจกตาขุ่น ต้อกระจกแต่กำเนิด ต้อหิน ความผิดปกติของดวงตา โดยเฉพาะหากการมองเห็นของดวงตาทั้งสองข้างไม่เท่ากัน อาจทำให้เด็กใช้ตาข้างใดข้างหนึ่งในการมองมากเกินไป ส่วนดวงตาที่ข้างที่ไม่ค่อยได้ใช้ ก็อาจจะค่อย ๆ เสื่อมถอยลง และกลายเป็นโรคตาขี้เกียจ หากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้สูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรได้ ภาวะแทรกซ้อนของโรคตาขี้เกียจในเด็ก หากเด็กที่ป่วยเป็นโรคตาขี้เกียจไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและทันท่วงที อาจส่งผลให้ความสามารถในการมองเห็นลดลง จนถึงขั้นสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรในอนาคต […]


โรคตา

โรซาเซียที่ดวงตา (Ocular Rosacea)

โรคโรซาเซียที่ดวงตา (ocular rosacea) คือการอักเสบที่ผิวตา มีอาการระคายเคืองตา คันตา มักจะเกิดขึ้นในคนที่มีโรคโรซาเซีย ซึ่งเป็นโรคผิวหนังเรื้อรังบนใบหน้าและดวงตา คำจำกัดความ โรซาเซียที่ดวงตาคืออะไร โรซาเซียที่ดวงตา (ocular rosacea) คือการอักเสบที่ผิวตา มีอาการระคายเคืองตา คันตา มักจะเกิดขึ้นในคนที่มีโรคโรซาเซีย ซึ่งเป็นโรคผิวหนังเรื้อรังใบหน้าและดวงตา โรซาเซียที่ดวงตาพบได้บ่อยแค่ไหน เบื้องต้นแล้วโรคโรซาเซียที่ดวงตา จะพบมากในผู้ใหญ่ อายุระหว่าง 30 ถึง 50 ปี มักจะเกิดในคนที่มีอาการหน้าแดงได้ง่าย และพบในคนเชื้อชาติตะวันตกมากกว่าคนเชื้อชาติเอเชีย สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดปรึกษากับแพทย์ อาการ อาการของโรคโรซาเซียที่ดวงตาเป็นอย่างไร อาการทั่วไปมีดังนี้ ตาแห้ง ปวดแสบปวดร้อนบริเวณดวงตา คันในดวงตา รู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมในดวงตา มองเห็นไม่ชัด ตาไม่สู้แสง (photophobia) มีเยื่อบุตาแดง หลอดเลือดฝอยขยายตัวตรงบริเวณตาขาวมองเห็นได้ชัด เปลือกตาบวมแดง มีน้ำตาไหล สัญญาณของการเกิดโรคโรซาเซียที่ดวงตานั้น อาจจะเกิดก่อนหรือเกิดพร้อมกับอาการของโรคโรซาเซียที่ผิวหนัง หรือเกิดแยกด้วยตัวของมันเอง อาการที่รุนแรงของโรคโรซาเซียที่ดวงตา อาจไม่ตรงกับอาการที่รุนแรงของโรคโรซาเซียที่ผิวหนัง อาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ โปรดปรึกษาหมอของคุณ ควรไปพบหมอเมื่อไร ถ้าคุณมีอาการใดๆ ที่กล่าวมาข้างต้น หรือมีข้อสงสัยใดๆ ควรปรึกษากับคุณหมอ เนื่องจากร่างกายของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดจึงควรพูดคุยกับหมอเพื่อหาแนวทางในการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคุณ สาเหตุ สาเหตุของโรคโรซาเซียที่ดวงตา นักวิทยาศาสตร์ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคโรซาเซียที่ดวงตา แต่งานวิจัยพบว่า 85% ของผู้ที่มีอาการโรซาเซียที่ดวงตานั้นจะมีการปิดกั้นต่อมไขมันรอบดวงตา ต่อมพวกนี้มีหน้าที่ป้องกันไม่ให้ตาแห้ง ซึ่งถ้าหากมันถูกปิดกั้น บริเวณนั้นก็อาจจะเกิดอาการบวมและระคายเคืองได้ และอาจนำไปสู่อาการแดง คัน และตกสะเก็ดที่เปลือกตา นักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่า ไร ซึ่งเป็นแมลงตัวเล็กๆ ที่อาศัยอยู่ในรูขุมขนบนผิวหนัง คือตัวการในการปิดกั้นต่อมไขมัน บางส่วนเชื่อว่าอาจมีความเกี่ยวข้องของโรคโรซาเซีย กับแบคทีเรียที่ทำให้เกิดการติดเชื้อที่ระบบทางเดินอาหาร (Digestive […]


โรคตา

เยื่อบุตาอักเสบเฉียบพลัน (Acute Conjunctivitis)

คำจำกัดความเยื่อบุตาอักเสบเฉียบพลันคืออะไร เยื่อบุตาอักเสบเฉียบพลัน (Acute conjunctivitis) หรือ “โรคตาแดง (red eye)” เป็นการอักเสบที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ตาแดงอาจมีสาเหตุมาจากภูมิแพ้ การบาดเจ็บตา หรือ การใช้ยาหยอดตาบางประเภท ในบทความนี้จะเน้นถึง โรคตาแดงที่เกิดจากไวรัส (adenovirus) ซึ่งเป็นโรคที่ติดต่อสู่ผู้ใกล้ชิด เช่น คนในครอบครัวสูงถึง 50 เปอร์เซ็นต์ โดยมากจะหายได้เองซึ่งแตกต่างจากการติดเชื้อแบคทีเรีย อย่างไรก็ตามในคนไข้บางรายไวรัสกระจายตัวจากเยื่อบุตา เข้าไปที่กระจกตาทำให้ การมองเห็นลดลง น้ำตาไหล สู้แสงไม่ได้ ระคายเคืองตามากขึ้น แม้ว่าอาการตาแดงและมีขี้ตาลดลงก็ตาม อย่างไรก็ตามโรคไวรัสเยื่อบุตาอักเสบสามารถรักษาให้หายขาดได้ และไม่พบว่ามีการสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร เยื่อบุตาอักเสบเฉียบพลันพบได้บ่อยแค่ไหน เยื่อบุตาอักเสบเฉียบพลันจากไวรัสพบได้บ่อย ในหน้าระบาดเช่นในฤดูฝน เยื่อบุตาอักเสบจากแบคทีเรีย พบในเด็กได้บ่อยมากกว่าในผู้ใหญ่ เยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้ มักพบในผู้ป่วยที่มีอาการแพ้ง่าย และเกิดร่วมกับระบบอื่นในร่างกาย เช่นภูมิแพ้เยื่อบุโพรงจมูกอักเสบ ภูมิแพ้ผิวหนัง หรือได้รับตัวก่อภูมิแพ้ เช่นฝุ่น เกสรดอกไม้ ดอกหญ้าบางชนิดที่ผู้ป่วยแพ้ โปรดปรึกษากับหมอของคุณ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม อาการเยื่อบุตาอักเสบเฉียบพลันมีอาการอย่างไร อาการที่พบเห็นบ่อยของเยื่อตาอักเสบเฉียบพลัน ได้แก่ ตาแดง เปลือกตาแดงบวม ระคายเคือง แสบร้อน น้ำตาไหล มีขี้ตามากเป็น มีลักษณะเป็นมูก โดยเฉพาะตอนตื่นนอนตอนเช้าในไวรัสหรือภูมิแพ้ (ถ้าลักษณะขี้ตาเหลืองเขียวจะเกิดจากแบคทีเรีย) มีอาการคล้ายไข้หวัดนำมาก่อน หรืออาจเจ็บบริเวณหน้าหู เนื่องจากอาจมีภาวะต่อมน้ำเหลืองหน้าหูโตในคนไข้บางรายที่ติดเชื้อไวรัส ขนตาตกสะเก็ด รู้สึกเหมือนมีอะไรอยู่ในตา อาจมีอาการบางประเภทที่ไม่ได้ปรากฏอยู่ข้างบน ถ้าคุณมีความกังวลเกี่ยวกับอาการ โปรดปรึกษาจักษุแพทย์ เมื่อไหร่ที่ควรไปพบหมอ หากคุณมีสัญญาณหรืออาการอะไรก็ตามที่เหมือนอาการตามด้านบน หรือ หากคุณมีข้อสงสัย โปรดปรึกษานัดตรวจตากับจักษุแพทย์ สาเหตุเยื่อบุตาอักเสบเฉียบพลันจากเชื้อแบคทีเรีย เกิดจากอะไร เยื่อบุตาอักเสบเกิดได้จากแบคทีเรียหลายชนิด โดยแบคทีเรียที่พบบ่อยในการก่อโรคคือ สแตฟิโลค็อกคัส ออเรียส […]

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม