ฝีที่อวัยเพศหญิง อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยหนึ่งในสาเหตุนั้นคือ ฝีต่อมบาร์โธลิน (Bartholin’s abscess) เกิดจากการอุดตันของต่อมบาร์โธลินที่อยู่บริเวณปากช่องคลอดทั้ง 2 ข้าง ทำให้ต่อมบาร์โธลินขยายใหญ่ขึ้น ร่วมกับมีการติดเชื้อ ทำให้มีลักษณะเป็นฝี และทำให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น ไข้ ปวดบวมบริเวณอวัยวะเพศ อาการระคายเคืองระหว่างมีเพศสัมพันธ์ รู้สึกไม่สบายตัวขณะเดิน วิ่ง หรือนั่ง
[embed-health-tool-ovulation]
คำจำกัดความ
ฝีที่อวัยวะเพศหญิง คืออะไร
ฝีที่อวัยเพศหญิง หรือ ฝีต่อมบาร์โธลิน คือ การที่ต่อมบาร์โธลิน ซึ่งเป็นต่อมที่อยู่บริเวณปากช่องคลอดทั้ง 2 ข้าง มีหน้าที่หลั่งน้ำหล่อลื่นภายในช่องคลอด เพื่อช่วยให้ช่องคลอดชุ่มชื้น และลดความระคายเคืองขณะมีเพศสัมพันธ์ มีการอุดตันทำให้น้ำหล่อลื่นที่ต่อมผลิตไม่สามารถหลั่งออกมาได้ ทำให้ต่อมขยายใหญ่ขึ้น และรู้สึกไม่สบายตัวขณะเคลื่อนไหวแต่มักไม่ส่งผลอันตราย อย่างไรก็ตามหามีการติดเชื้อจะทำให้กลายเป็นฝีที่อวัยวะเพศหญิง โดยสามารถเกิดขึ้นซ้ำได้หลายครั้ง
อาการ
อาการฝีที่อวัยวะเพศหญิง
ฝีที่อวัยวะเพศหญิง หากไม่มีการติดเชื้อ อาจมีอาการดังต่อไปนี้
- อาการบวมเป็นก้อนที่บริเวณปากช่องคลอดข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้ง 2 ข้าง
- อาการไม่สบายตัวขณะเคลื่อนไหวหรือมีเพศสัมพันธ์
หากต่อมบาร์โธลินเกิดการติดเชื้อ อาจทำให้มีอาการดังต่อไปนี้
- มีไข้
- หนาวสั่น
- เจ็บปวดช่องคลอดระหว่างมีเพศสัมพันธ์
- เคลื่อนไหวลำบาก
- อาจมีหนองไหลออกจากมา
ควรเข้าพบคุณหมอทันทีหากสังเกตว่ามีการอาการเจ็บปวดช่องคลอด หรือพบก้อนนูนขึ้นใหม่หลังจากรักษาหาย เพราะสามารถเกิดขึ้นซ้ำได้
สาเหตุ
สาเหตุของฝีที่อวัยวะเพศหญิง
ฝีที่อวัยวะเพศหญิง มีสาเหตุมาจากของเหลวอุดตันในต่อมบาร์โธลิน หรืออาจเกิดจากการติดเชื้อ เช่น แบคทีเรียอีโคไล (E. coli) เชื้อแบคทีเรียไนซีเรีย โกโนเรียอี (Neisseria gonorrhoeae) เชื้อแบคทีเรียคลาไมเดีย (Chlamydia) ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม
ปัจจัยเสี่ยง
ปัจจัยเสี่ยงของฝีที่อวัยวะเพศหญิง
ปัจจัยเสี่ยงของฝีที่อวัยวะเพศหญิง มีดังนี้
- อายุระหว่าง 20-30 ปี
- เคยมีประวัติเป็นฝีที่อวัยวะเพศหญิงหรือต่อมบาร์โธลินอักเสบมาก่อน
- เคยผ่าตัดช่องคลอดหรือบริเวณแคมช่องคลอด
- การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน
การวินิจฉัยและการรักษา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาคุณหมอทุกครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
การวินิจฉัยฝีที่อวัยวะเพศหญิง
วิธีการวินิจฉัยฝีที่อวัยวะเพศหญิง มีดังนี้
- คุณหมออาจสอบถามประวัติสุขภาพและประวัติการรักษาเบื้องต้น
- ตรวจอุ้งเชิงกราน
- เก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งจากช่องคลอดหรือบริเวณปากมดลูก เพื่อตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- ตรวจหาเซลล์มะเร็ง
การรักษาฝีที่อวัยวะเพศหญิง
การรักษาฝีที่อวัยวะเพศหญิง อาจทำได้ดังนี้
- แช่น้ำอุ่น การแช่น้ำในอ่างน้ำอุ่น วันละหลาย ๆ ครั้ง เป็นเวลา 3-4 วัน อาจช่วยให้ของเหลวในฝีที่อวัยวะเพศระบายออกได้ไวขึ้นและช่วยลดขนาดของฝี
- ยาปฏิชีวนะ คุณหมออาจให้รับประทานยาปฏิชีวนะในกรณีที่ฝีมีการติดเชื้อหรือมีความเสี่ยงเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่หากมีการระบายของเหลวอย่างถูกต้อง อาจไม่จำเป็นต้องรับประทานยาปฏิชีวนะ
- การใส่สายสวน เหมาะสำหรับผู้หญิงที่เป็นฝีขนาดใหญ่และมีการติดเชื้อ โดยคุณหมอจะทำการกรีดฝีที่อวัยวะเพศ และใส่สายสวนเพื่อระบายของเหลวที่อยู่ภายในฝีออกจนหมด ทำให้ฝีมีขนาดเล็กลง
- การเลเซอร์ เป็นการใช้ลำแสงที่มีความเข้มข้นสูงเปิดช่องระบายของเหลวที่อยู่ในฝีที่อวัยวะเพศ
- การผ่าตัด สำหรับผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาใด ๆ หรือมีฝีขนาดใหญ่คุณหมออาจจำเป็นต้องผ่าตัดฝีออกทั้งหมด เพื่อป้องกันการอักเสบและการติดเชื้อรุนแรง
การปรับไลฟ์สไตล์และการดูแลตัวเอง
การปรับไลฟ์สไตล์และการดูแลตัวเองเพื่อป้องกันฝีที่อวัยวะเพศหญิง
การดูแลตัวเองเพื่อป้องกันฝีที่อวัยวะเพศหญิง อาจทำได้ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอวัยวะเพศที่มีส่วนประกอบของน้ำหอม
- หลีกเลี่ยงการสวนล้างช่องคลอด และซับอวัยวะเพศให้แห้งทุกครั้งหลังจากขับถ่าย โดยเช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลังเพื่อป้องกันเชื้อโรคจากทวารหนัก
- สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์
- เช้ารับการตรวจคัดกรองโรคประจำปี