หน้าลอกเกิดจาก สาเหตุหลายประการ เช่น แสงแดด สารเคมีบางชนิด การทำทรีตเมนต์หน้า การฉายรังสี โรคผิวหนังบางชนิด ทำให้ผิวหน้าแห้งลอก เป็นขุย รู้สึกระคายเคือง โดยทั่วไปภาวะหน้าลอกสามารถรักษาได้ด้วยตัวเอง เช่น ทายาต้านการอักเสบ ทาครีมที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว อย่างไรก็ตาม หากดูแลรักษาในเบื้องต้นแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง ควรไปพบคุณหมอเพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม
หน้าลอกเกิดจากอะไร
ภาวะหน้าลอกอาจเกิดจากสาเหตุดังนี้
- สารเคมี หน้าลอกอาจเกิดจากผิวหน้าสัมผัสกับสารเคมีโดยตรง เกิดการระคายเคืองจนส่งผลให้ผิวอักเสบ มีผดผื่น ผิวแสบร้อน และบวมแดงร่วมด้วย สารเคมีที่อาจทำให้หน้าลอกได้ เช่น
- สารเคมีในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้าน เช่น สารกันเสีย สารโพลิเมอร์ น้ำหอม สี
- สารเคมีในงานอุตสาหกรรม เช่น สีย้อมผ้า สารละลาย
- สารเคมีในเครื่องสำอาง เช่น ปรอท สเตียรอยด์
- การทำทรีตเมนต์ การลอกหน้าด้วยการผลัดเซลล์ชั้นนอกด้วยเรตินอล (Retinol) หรือกรดอัลฟาไฮดรอกซีหรือเอเอชเอ (Alpha Hydroxy Acids) เพื่อผลัดเซลล์ผิวและกระตุ้นการสร้างผิวใหม่ อาจช่วยลดริ้วรอยหรือลดสิวอุดตันได้ แต่หากใช้ในปริมาณมากเกินไปก็อาจทำให้ผิวระคายเคือง และมีส่วนทำให้ผิวหน้าแห้งลอกหลังทำทรีตเมนต์ได้เช่นกัน
- แสงแดด อีกสาเหตุที่ทำให้หน้าลอก คือการที่ผิวหน้าสัมผัสแสงแดดที่ร้อนจัดเป็นเวลานานโดยไม่มีการป้องกัน เช่น ไม่สวมใส่เสื้อผ้าแขนยาวปกปิดร่างกาย ไม่หลบแดดหรือกางร่มเมื่อออกไปกลางแจ้งเป็นเวลานาน หรือใช้ครีมกันแดดที่อาจมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอ อาจทำให้ผิวหน้าแห้ง ลอก หมองคล้ำได้
- การฉายรังสี การรักษาโรคด้วยการฉายรังสี เช่น การทำคีโม อาจทำให้ผิวหนังบริเวณที่ได้รับรังสีแห้งตึง หมองคล้ำ หรือหลุดลอกได้
- อาการแพ้ หน้าลอกอาจเกิดจากผิวหน้าสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้และระคายเคืองผิวหนัง เช่น น้ำหอม แอลกอฮอล์
- โรคผิวหนังอักเสบ (Eczema) เป็นอาการอักเสบของผิวหนังเรื้อรังที่สามารถกำเริบได้เป็นระยะเมื่อถูกกระตุ้นจากสิ่งที่ก่อภูมิแพ้ ทำให้ผิวหน้าแห้งลอกเป็นขุย มีผดผื่น และอาจมีอาการคันร่วมด้วย
- กลุ่มอาการผิวหนังลอกจากเชื้อสแตฟิโลค็อกคัส (Staphylococcal scalded skin syndrome) เป็นอาการผิวลอกที่มักพบในทารกจากการติดเชื้อแบคทีเรียสแตฟิโลค็อกคัส ทำให้ผิวหนังอักเสบสามารถเกิดขึ้นได้กับผิวหนังทุกส่วนในร่างกาย รวมถึงบริเวณใบหน้าด้วย
- โรคผิวหนังลอก (Peeling skin syndrome หรือ PSS) เป็นโรคทางพันธุกรรมที่ทำให้ผิวหนังชั้นนอกสุดลอกออก พบบ่อยในทารก
- โรคเซ็บเดิร์ม (Seborrheic Dermatitis) เป็นภาวะผิวหนังอักเสบเรื้อรังจากความผิดปกติของต่อมไขมันในชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวหนังมีผื่นแดง คัน ลอกเป็นขุย
- โรคคาวาซากิ (Kawasaki disease) เป็นโรคเยื่อบุผิวหนังอักเสบที่พบได้ไม่บ่อย และพบได้มากในเด็ก ผู้ที่เป็นโรคนี้มักมีไข้สูง ปากบวม หน้าบวม และผิวหนังเปลี่ยนแปลง เช่นริมฝีปากแตกแห้ง ผิวหนังลอก นอกจากนี้ มักมีอาการหลอดเลือดและต่อมน้ำเหลืองอักเสบ ปวดท้อง ท้องเสีย ร่วมด้วย
วิธีรักษาภาวะผิวหน้าลอก
วิธีรักษาผิวหน้าลอก อาจมีดังนี้
- ใช้ครีมขี้ผึ้งหรือครีมบำรุงซึ่งส่วนผสมที่อ่อนโยนต่อผิว เช่น เชียบัตเตอร์ (Shea Butter) เพื่อลดอาการผิวหน้าลอกและเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
- ทาครีมที่มีฤทธิ์ต้านอาการอักเสบของผิวหนัง เช่น ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids)
- ซับหน้าหลังอาบน้ำหรือล้างหน้าด้วยผ้าขนหนูสะอาด อ่อนนุ่ม เลี่ยงการถูหรือเช็ดหน้าแรง ๆ
- ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและบำรุงผิวที่ไม่มีส่วนประกอบของน้ำหอม (Fragrance-free) แอลกอฮอล์ กรดแลคติก (Lactic acid) ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่อาจทำให้ผิวที่กำลังแห้งลอกระคายเคืองมากขึ้น
- อาบน้ำด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ และใช้เวลาอาบน้ำน้อยลง เลี่ยงการอาบน้ำร้อนหรืออุ่นที่ทำให้รูขมขุนเปิดและทำให้ผิวหน้าแห้งลอกมากยิ่งขึ้น
- ใช้เครื่องทำความชื้นในอากาศ ซึ่งเป็นเครื่องพ่นควันหรือไอ อาจช่วยให้ภายในห้องมีความชื้นมากขึ้น และอาจเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
ผิวหน้าลอกอย่างไรควรไปพบคุณหมอ
โดยทั่วไป อาการหน้าลอก เป็นเพียงอาการชั่วคราวที่เกิดขึ้นเมื่อมีสิ่งกระตุ้น เช่น ผิวหน้าสัมผัสกับสิ่งที่ทำให้เกิดอาการแพ้ โดนแสงแดดมากเกินไป ซึ่งอาจรักษาและบรรเทาอาการเองในเบื้องต้นได้ ด้วยการหลีกเลี่ยงการลอกหน้าหรือดึงผิวที่ลอกออก และปล่อยให้ร่างกายซ่อมแซมเซลล์ผิวไปตามธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องไปพบคุณหมอทันที อย่างไรก็ตาม หากดูแลตัวเองเบื้องต้นแล้วอาการหน้าลอกยังไม่ดีขึ้น หรือมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย โดยเฉพาะหากภูมิแพ้กำเริบ เช่น ผิวหน้าบวม ปวดศีรษะ วิงเวียนศีรษะ อาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ ตาพร่ามัว หายใจไม่สะดวก มีผื่นคัน อาจต้องไปหาคุณหมอเพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุและปรึกษาวิธีรักษาเพิ่มเติม
[embed-health-tool-heart-rate]