ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน เป็นอีกหนึ่งภาวะร้ายแรงที่ส่งผลให้ผู้คนเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักมีสาเหตุมาจากความเครียดและพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคดังกล่าว บทความนี้ Hello คุณหมอจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน กัน รู้ก่อน ป้องกันไว้ เพื่อที่เราจะได้รักษาได้ทันท่วงที
ทำความรู้จักภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน (Acute Coronary)
ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน (Acute Coronary) เกิดจาก การอุดตันของหลอดเลือดหัวใจ เลือดจึงไม่สามารถไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้ ส่งผลให้เกิดอาการคลื่นไส้และอาเจียน เจ็บหน้าอก วิงเวียนศีรษะจะเป็นลม บางรายอาจร้ายแรงถึงขั้นภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน เเละเสียชีวิตในที่สุด ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันมักเกิดจากการสะสมของไขมันหลายชนิดบนผนังหลอดเลือด เมื่อเกิดการสะสมมาก ๆ จะส่งผลให้เกิดการปริแตกในผนังหลอดเลือด หากลิ่มเลือดอุดกั้นบางส่วนทำให้เลือดไม่สามารถลำเลียงไปยังกล้ามเนื้อหัวใจได้
อย่างไรก็ตาม ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันมีลักษณะคล้ายกับโรคหัวใจชนิดอื่น ๆ และส่วนใหญ่มักเกิดกับบุคคลที่มีปัจจัยเสี่ยง ดังต่อไปนี้
- ผู้สูงอายุ
- ความดันโลหิตสูง
- ไขมันในเลือดสูง
- การสูบบุหรี่
- ขาดการออกกำลังกาย
- โรคอ้วน
- โรคเบาหวาน
- สมาชิกในครอบครัวที่มีประวัติเกี่ยวกับการเป็นโรคหัวใจ
- การติดเชื้อโควิด-19
5 สัญญาณเตือนภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือเฉียบพลัน
หากคุณมีอาการเจ็บหน้าอกอย่างรุนแรงนั่น อาจเป็นสัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่า คุณเข้าข่ายเป็นภาวะ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือเฉียบพลัน รวมถึงอาการอื่น ๆ ดังต่อไปนี้
- มีอาการคลื่นไส้และอาเจียน
- อาหารไม่ย่อย
- รู้สึกกระสับกระส่ายหรือวิตกกังวล
- เหงื่อออกอย่างกะทันหันโดยไม่ทราบสาเหตุ
- รู้สึกเหนื่อยล้าผิดปกติ
5 วิธีป้องกัน ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน
นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์และโฆษกกรมการแพทย์ กล่าวว่า เราสามารถลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดภาวะ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ไขมันจากเนื้อสัตว์ เนย อาหารฟาสต์ฟู้ด นมที่ไม่พร่องไขมัน
- ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยให้หัวใจสูบฉีดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- ควบคุมอาหาร เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ทานผักและผลไม้ให้มากขึ้นในแต่ละมื้อ
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และงดครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ทำจิตใจให้แจ่มใส หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความเครียด อาจหากิจกรรมนันทนาการ เพื่อเสริมสร้างอารมณ์ เช่น วาดรูป ปลูกต้นไม้ นั่งสมาธิ เป็นต้น
[embed-health-tool-heart-rate]