หัวใจเต้นผิดจังหวะ (Cardiac Arrhythmia) เป็นภาวะผิดปกติของกระแสไฟฟ้าในหัวใจ ซึ่งจะกระทบต่ออัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้หัวใจเต้นในจังหวะที่เร็วหรือช้ากว่าปกติ ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดลดลง จนเกิดอาการหายใจไม่อิ่ม อ่อนเพลีย วิงเวียน หน้ามืด วิงเวียนเหมือนจะเป็นลม เจ็บหรือแน่นหน้าอก หากมีอาการดังที่กล่าวมาและรู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็วกว่าปกติหรือช้ากว่า ควรไปพบคุณหมอเพื่อรับการรักษาโดยเร็วที่สุด
[embed-health-tool-heart-rate]
หัวใจเต้นผิดจังหวะ คืออะไร
หัวใจเต้นผิดจังหวะ คือ ภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ โดยหัวใจอาจเต้นช้ากว่าปกติ (Bradycardia) หรือเต้นเร็วกว่าปกติ (Tachycardia) บางคนอาจสังเกตได้ว่าหัวใจเต้นผิดจังหวะ แต่บางคนอาจไม่รู้สึกอะไรเลย ในบางกรณีอาจรุนแรงถึงชีวิตได้ หากรู้สึกว่าตัวเองมีอาการหัวใจเต้นผิดปกติ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ ควรรีบไปพบคุณหมอและรับการวินิจฉัยหาสาเหตุและรับการรักษาอย่างเหมาะสม
หัวใจเต้นผิดจังหวะ เกิดจาก อะไร
หัวใจเต้นผิดจังหวะอาจเกิดจากการส่งสัญญาณไฟฟ้าที่ทำหน้าที่ประสานการเต้นของหัวใจผิดปกติหรือไฟฟ้าในห้องหัวใจลัดวงจร จนส่งผลต่อจังหวะการเต้นของหัวใจ แม้คนที่มีสุขภาพหัวใจแข็งแรงดีก็อาจเกิดภาวะนี้ได้เช่นกัน
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ มักเกิดจากสาเหตุต่อไปนี้
- โรคหัวใจ (Heart disease)
- ภาวะระดับอิเล็กโทรไลต์อย่างโซเดียม โพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม ในกระแสเลือดเสียสมดุล
- การบาดเจ็บที่หัวใจหรือความผิดปกติของระบบไหลเวียนเลือด เช่น การไหลเวียนเลือดลดลง เนื้อเยื่อหัวใจแข็งตัว
- อยู่ในช่วงฟื้นตัวหลังจากผ่าตัดหัวใจ
- การติดเชื้อหรือการเจ็บป่วย
- การใช้ยารักษาโรคหรืออาหารเสริมบางชนิดที่ส่งผลต่อหัวใจ เช่น ยาไทรอยด์ ยาไซบูทรามีน (Sibutramine) ที่ใช้เร่งการเผาผลาญและลดความอยากอาหาร ยากระตุ้นการแข็งตัวขององคชาต
- อารมณ์เปลี่ยนแปลงกะทันหันหรือมีปัญหาด้านสุขภาพจิต เช่น เครียดจัด ตื่นเต้นมาก ตกใจกลัวอย่างหนัก
- ปัจจัยภายนอก เช่น การออกกำลังกาย การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การบริโภคคาเฟอีน
ปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ
- อายุ ยิ่งอายุมากขึ้นก็ยิ่งเสี่ยงการเกิดภาวะหัวใจทำงานผิดปกติได้ง่าย
- พันธุกรรม คนที่มีคนในครอบครัวใกล้ชิดเป็นโรคหัวใจหรือมีญาติมีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ จะเสี่ยงเกิดภาวะนี้ได้มากกว่าคนทั่วไป
- พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การใช้ยาเสพติด เป็นพฤติกรรมที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
- ภาวะสุขภาพบางประการ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ โรคอ้วน ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง (Autoimmune disorders) ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน (Hyperthyroidism) ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ (Hypothyroidism) เป็นภาวะสุขภาพที่เสี่ยงเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
- สิ่งแวดล้อม เช่น ฝุ่น มลภาวะ ในบริเวณที่อยู่อาศัยก็เป็นปัจจัยเสี่ยงเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดปกติได้เช่นกัน
ประเภทของหัวใจเต้นผิดจังหวะ
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ อาจแบ่งออกเป็นประเภทหลัก ๆ ได้ดังนี้
- ภาวะหัวใจห้องบนเต้นเร็วผิดจังหวะ (Supraventricular arrhythmias) เกิดจากคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่หัวใจห้องบนผิดปกติ ชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด คือ ภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว (Atrial fibrillation) เกิดขึ้นเมื่อหัวใจห้องบนเต้นพลิ้ว เต้นเป็นจังหวะเร็วกว่าปกติและไม่สม่ำเสมอ อาจเต้นมากกว่า 100 ครั้ง/นาที ทำให้หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ภาวะหัวใจห้องล่างเต้นเร็วผิดจังหวะ (Ventricular arrhythmias) เกิดจากการส่งสัญญาณไฟฟ้าภายในหัวใจผิดปกติ ส่งผลให้หัวใจห้องล่างเต้นเร็วเกินไปและส่งผลต่อการไหลเวียนเลือด ภาวะนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในผู้เป็นโรคหัวใจ จึงควรได้รับการช่วยเหลือจากบุคลากรทางการแพทย์โดยทันที
- ภาวะหัวใจเต้นช้าผิดจังหวะ (Bradyarrhythmia) เกิดจากอัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ ทำให้หัวใจเต้นช้าลง มักเกิดจากโรคเกี่ยวกับระบบการนำไฟฟ้าหัวใจ ส่งผลให้การเต้นของหัวใจไม่สม่ำเสมอและช้าผิดปกติ หัวใจอาจเต้นน้อยกว่า 60 ครั้ง/นาที ทำให้สูบฉีดเลือดได้น้อยลง ในบางกรณีอาจทำให้รู้สึกวิงเวียนศีรษะและหมดสติได้
หัวใจเต้นผิดจังหวะ อาการ เป็นอย่างไร
อาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ อาจมีดังนี้
- ใจสั่น
- รู้สึกถึงหัวใจที่เต้นตุบตับอยู่ในอก
- วิงเวียนศีรษะ เหมือนจะเป็นลม
- หมดสติ
- หายใจลำบาก
- ปวดหน้าอกหรือแน่นหน้าอก
- อ่อนเพลีย เหนื่อยมาก
- วิตกกังวล
- สายตาพร่ามัว
- เหงื่อออกมาก
วิธีรักษาหัวใจเต้นผิดจังหวะ
การรักษาหัวใจเต้นผิดจังหวะจะขึ้นอยู่กับประเภท อายุ และภาวะสุขภาพของผู้ป่วย หากมีภาวะสุขภาพอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ภาวะหัวใจวาย จะต้องได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมด้วยเช่นกัน
การรักษาภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ อาจมีดังนี้
- การใช้ยารักษา เช่น ยารักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (Antiarrhythmic drugs) ยาควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart-rate control drugs) ใช้สำหรับรักษาหรือป้องกันภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ รวมถึงควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจให้เป็นไปตามจังหวะปกติ นอกจากนี้ ยังอาจใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด (Anticoagulants) เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือดหรือการเกิดโรคหลอดเลือดสมองตีบหรือตัน หรืออาจต้องใช้ยารักษาภาวะสุขภาพที่ทำให้เกิดหัวใจเต้นผิดจังหวะ ขึ้นอยู่กับอาการและดุลยพินิจของคุณหมอ
- การช็อคหัวใจด้วยไฟฟ้า (Electrical Cardioversion) เป็นการกระตุกหัวใจด้วยไฟฟ้าผ่านแผ่นที่แปะบนหน้าอกของผู้ป่วยขณะที่ผู้ป่วยได้รับยาสลบ เพื่อปรับให้หัวใจกลับมาเต้นในจังหวะปกติ
- การรักษาด้วยไฟฟ้าความถี่สูงผ่านสายสวน (Radiofrequency Catheter Ablation: RFCA) เป็นการรักษาด้วยไฟฟ้าคลื่นวิทยุความถี่สูงผ่านการใช้สายสวนสอดเข้าไปในห้องหัวใจเพื่อทำลายเนื้อเยื่อผิดปกติที่เป็นสาเหตุที่ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ โดยไม่ต้องผ่าตัดเปิดหน้าอก
- การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker) คุณหมอจะใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจที่เป็นอุปกรณ์กำเนิดชีพจรขนาดเล็กไว้ในผนังหน้าอกใต้ผิวหนังของผู้ป่วย เครื่องนี้จะส่งแรงกระตุ้นไปยังกล้ามเนื้อหัวใจ เพื่อสร้างสัญญาณไฟฟ้าที่กระตุ้นให้หัวใจที่เต้นช้าผิดปกติหรือหยุดเต้นกลับมาเต้นตามปกติ
- การใส่เครื่องกระตุกสัญญาณไฟฟ้าหัวใจ (ICD) เป็นอุปกรณ์ที่คล้ายกับเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ ซึ่งจะฝังอยู่ในร่างกายเพื่อตรวจจับสัญญาณการเต้นของหัวใจ และจะปล่อยกระแสไฟฟ้าเพื่อกระตุ้นหัวใจให้กลับมาเต้นในจังหวะที่เหมาะสมทันทีที่หัวใจเริ่มทำงานผิดปกติ