Hypokalemia คือ อาการโพแทสเซียมในเลือดต่ำ อาจเกิดขึ้นจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น การใช้ยาขับปัสสาวะ ท้องร่วง อาเจียน โรคไตเรื้อรัง หรืออาจเกิดจากการได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ โดยปกติแล้วโพแทสเซียมเป็นแร่ธาตุที่มีส่วนช่วยควบคุมการทำงานของระบบประสาทและเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย หากร่างกายมีระดับโพแทสเซียมต่ำเกินไปอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ ที่สังเกตได้จาก อาการเหนื่อยล้าง่าย หัวใจเต้นผิดปกติ ใจสั่น วิงเวียนศีรษะ เป็นต้น ดังนั้นจึงควรรับประทานอาหารที่มีโพแทสเซียมให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน รวมถึงเข้าพบคุณหมอเพื่อรับการรักษา
[embed-health-tool-bmr]
Hypokalemia คืออาการอะไร
Hypokalemia คือ อาการโพแทสเซียมในเลือดต่ำ ที่เกิดขึ้นเมื่อระดับโพแทสเซียมในเลือดน้อยกว่า 2.5 มิลลิโมล/ลิตร จากระดับปกติที่ควรอยู่ที่ประมาณ 3.6-5.2 มิลลิโมล/ลิตร ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพ เช่น ท้องเสีย หายใจลำบาก ค่าความเป็นกรด-ด่างในเลือดไม่สมดุล หัวใจเต้นผิดจังหวะ กล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นอัมพาตชั่วคราว ไตวาย และอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้ เนื่องจากโพแทสเซียมมีบทบาทสำคัญต่อร่างกายเพื่อช่วยควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ อัตราการการเต้นของหัวใจ ระบบประสาท ความดันโลหิต และความสมดุลของความเป็นกรด-ด่างในร่างกาย
สาเหตุของ Hypokalemia
ภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
- โรคไตเรื้อรัง
- การทำงานของต่อมหมวกไตบกพร่อง
- มีอาการอาเจียนและท้องร่วงผิดปกติ
- เหงื่อออกมากเกินไป
- ภาวะเลือดเป็นกรด (Diabetic ketoacidosis) โดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวาน
- สูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
- ร่างกายขาดกรดโฟลิก (Folic Acid) แมกนีเซียม เนื่องจากสารอาหารเหล่านี้มีส่วนช่วยในการดูดซึมโพแทสเซียมเข้าสู่เซลล์ หากร่างกายมีระดับโฟลิกและแมกนีเซียมต่ำ อาจทำให้เสี่ยงภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำได้
- การดูดซึมสารอาหารผิดปกติ
- การใช้ยาขับปัสสาวะ ยารักษาโรคหอบหืด และยาปฏิชีวนะ เช่น ยากลุ่มเพนิซิลลิน (Penicillin) แอมโฟเทอริซิน บี (Amphotericin B) ยากลุ่มไธอะไซด์ไดยูเรติก (Thiazide Diuretics) และฟูโรซีไมด์ (Furosemide)
- ภาวะอัลโดสเตอโรนสูง (Primary Aldosteronism) ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดจากการที่ต่อมหมวกไตผลิตฮอร์โมนแอลโดรสเตอโรนมากเกินไป ทำให้เกิดความดันโลหิตสูงและโพแทสเซียมต่ำลง
นอกจากนี้ ผู้ที่เป็นกลุ่มอาการคุชชิง (Cushing’s syndrome) กลุ่มอาการจิเทลแมน (Gitelman Syndrome) กลุ่มอาการลิดเดิล (Liddle Syndrome) กลุ่มอาการบาร์ตเตอร์ (Bartter Syndrome) กลุ่มอาการแฟนโคนี (Fanconi Syndrome) ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดจากความผิดปกติของไต ก็อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะโพแทสเซียมต่ำได้เช่นกัน
Hypokalemia มีอาการอย่างไร
อาการของ Hypokalemia มีดังนี้
- เหนื่อยล้าง่ายและอ่อนเพลีย
- อาเจียน
- วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด
- ปัสสาวะบ่อย
- กระหายน้ำมาก
- เบื่ออาหาร
- จังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ ใจสั่น
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง บางคนอาจมีอาการกล้ามเนื้อกระตุกและเป็นตะคริว
- ท้องผูก หรือท้องเสีย
หากสังเกตว่ามีอาการหายใจลำบาก แขนขาชา อัมพาต ลำไส้แปรปรวน หัวใจเต้นเร็วเกินไปหรือช้าเกินไป ควรเข้าพบคุณหมอทันที
การรักษา อาการ Hypokalemia
การรักษา อาการ Hypokalemia มีดังนี้
- หยุดหรือลดปริมาณยาที่อาจทำให้โพแทสเซียมต่ำ โดยควรขอคำปรึกษาจากคุณหมอ ไม่ควรหยุดยาเอง เพราะอาจทำให้โรคที่เป็นอยู่มีอาการรุนแรงขึ้น
- รับประทานอาหารเสริมโพแทสเซียม ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีระดับโพแทสเซียมในเลือดต่ำถึงปานกลาง
- ฉีดโพแทสเซียมเข้าสู่หลอดเลือดดำ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีระดับโพแทสเซียมในเลือดต่ำที่ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเต้นผิดปกติและร่างกายไม่ตอบสนองต่อการรับประทานอาหารเสริมโพแทสเซียม
การป้องกัน อาการ Hypokalemia
โดยปกติแล้ว ผู้หญิงควรได้รับโพแทสเซียมประมาณ 2,600 มิลลิกรัม/วัน และผู้ชายควรได้รับโพแทสเซียมประมาณ 3,400 มิลลิกรัม/วัน เพื่อป้องกัน อาการ Hypokalemia ดังนั้น จึงควรรับเลือกรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียม ดังนี้
- อะโวคาโด
- กล้วย
- กีวี่
- ส้ม
- แคนตาลูป
- ผักโขม
- มะเขือเทศ
- ฟักทอง
- มันฝรั่ง
- แตงกวา
- บร็อคโคลี่
- บวบ
- เห็ด
- ถั่วเหลือง
- ปลาทูน่า
- ปลาเทราท์
- ข้าวกล้อง
- ลูกพรุนแห้ง
- น้ำมะพร้าว
- น้ำส้ม
- เนื้อสัตว์ปีกหรือเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน
จากการศึกษาในวารสาร Advances in Nutrition เมื่อปี พ.ศ. 2556 ที่ศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างโพแทสเซียมและสุขภาพ พบว่า การบริโภคอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง อาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิด อาการ Hypokalemiaหรือภาวะโพแทสเซียมต่ำ และช่วยลดความดันโลหิต ช่วยรักษามวลกระดูก ช่วยควบคุมการทำงานของหัวใจ และอาจช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้
นอกจากนี้ ยังควรหยุดหรือลดปริมาณยารักษาโรคที่อาจทำให้โพแทสเซียมในเลือดลดลง โดยควรขอคำปรึกษาคุณหมอ ไม่ควรหยุดยาเอง เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ