ฉลากโภชนาการ หรือ “Nutrition Information” เป็นฉลากที่ระบุข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า มักอยู่ในกรอบสี่เหลี่ยม ระบุรายละเอียดของชนิดและปริมาณสารอาหาร เพื่อเป็นประโยชน์ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า จะช่วยให้ได้อาหารที่มีประโยชน์ และตรงกับความต้องการของร่างกาย รวมถึงสามารถที่จะหลีกเลี่ยงสารอาหารหรือสารบางชนิดในผลิตภัณฑ์ที่จะก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพได้
[embed-health-tool-bmi]
ประโยชน์ของการอ่าน ฉลากโภชนาการ
ช่วยคำนวนพลังงานที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน
การอ่านฉลากโภชนาการ จะทำให้ได้ทราบว่าสินค้าชิ้นนี้ใช้วัตถุดิบอะไรบ้าง ใช้ในปริมาณเท่าไร และให้พลังงานรวมทั้งหมดกี่แคลอรี่ โดยเฉพาะผู้ที่กำลังควบคุมอาหาร หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว รวมทั้งผู้ที่แพ้วัตถุดิบางอย่าง การอ่านฉลากจะทำให้สามารถหลีกเลี่ยงหรือเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพได้ ลดโอกาสเสี่ยงเกิดภูมิแพ้
ช่วยให้ควบคุมน้ำหนักได้ดีขึ้น
สำหรับคนรักสุขภาพ หรือกำลังลดน้ำหนัก การอ่านฉลากโภชนาการ จะทำให้ทราบถึงปริมาณไขมันทั้งหมดว่า มีไขมันรวมทั้งหมดเท่าไร และไขมันแต่ละชนิดมีปริมาณเท่าไร เช่น ไขมันอิ่มตัว หรือไขมันทรานส์
ช่วยในการเลือกอาหารเช้าที่เหมาะสม
นักโภชนาการแนะนำว่า ร่างกายควรจะได้รับปริมาณของไฟเบอร์ประมาณ 25-38 กรัมต่อวัน และสำหรับคนที่ชอบซื้ออาหารประเภทซีเรียลหรือขนมปังเพื่อนำไปรับประทานในมื้อเช้าที่เร่งรีบควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ให้ปริมาณไฟเบอร์ 3 กรัม ต่อหนึ่งหน่วยบริโภคหรือมากกว่านั้น และควรซื้อผักและผลไม้ไปเสริมเพื่อให้ร่างกายได้รับปริมาณไฟเบอร์อย่างเพียงพอ
ลดความเสี่ยงเกิดโรคเรื้อรัง
การอ่านฉลากโภชนาการ จะทำให้ได้ทราบว่าปริมาณของเกลือหรือโซเดียมที่เพียงพอต่อความจำเป็นของร่างกาย รวมทั้งสามารถควบคุมปริมาณโซเดียม เพื่อลดโอกาสเสี่ยงเกิดโรคเรื้อรัง ทั้งนี้ ปริมาณของโซเดียมที่แนะนำบริโภคต่อวัน ควรจะอยู่ที่ปริมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ต่อหนึ่งหน่วยของการบริโภค หรือน้อยกว่านั้น
ช่วยควบคุมปริมาณน้ำตาล
การควบคุมน้ำตาล นอกจากจะทำให้สุขภาพดีและลดความเสี่ยงของการเป็นโรคเรื้อรังอย่างเช่นโรคเบาหวาน รวมทั้งผู้ที่กำลังลดน้ำหนัก การอ่านฉลากโภชนาการอาจมีส่วนช่วยให้การลดน้ำหนักเห็นผลได้ชัดเจนขึ้น
รู้ส่วนผสมที่เสี่ยงต่ออาการแพ้
สำหรับผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ หรืออาจแพ้วัตถุดิบต่าง ๆ ที่นำมาประกอบเป็นอาหาร เช่น แพ้ถั่ว แพ้กลูเตน หรือแม้กระทั่งสีผสมอาหาร หรือสารเคมีบางชนิดที่ใช้ในการถนอมอาหาร การอ่านฉลากโภชนาการ สามารถทำให้หลีกเลี่ยงวัตถุดิบที่จะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้
ดีต่อผู้ที่เป็นมังสวิรัติ
ผู้ที่เป็นมังสวิรัติ จะไม่สามารถรับประทานอาหารที่มีการแปรรูปหรือสกัดจากเนื้อสัตว์ได้เลย การอ่านฉลากโภชนาการจะทำให้ทราบว่าวัตถุดิบหลักคืออะไร สามารถนำไปใช้ประกอบตัดสินใจการรับประทานอาหารมังสวิรัติได้อย่างเหมาะสม ยกตัวอย่างเช่น เจลาติน ที่แม้จะปลอดภัยและหลายคนไม่ได้มีปัญหากับการกินเจลาติน แต่เจลาตินทำมาจากเนื้อเยื่อของสัตว์ ซึ่งไม่เหมาะสมกับผู้ที่เป็นมังสวิรัติ
รู้จักสารอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
อาหารประเภทขนม ของขบเคี้ยว หรือลูกอม อาหารบางอย่างอาจมีส่วนผสมของสารปรุงแต่งอาหาร สารเคลือบสีให้เงางาม ซึ่งบางชนิดอาจให้ผลที่ไม่ดีต่อสุขภาพหากรับประทานในปริมาณมาก
รู้ปริมาณของสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย
นอกจากสารอาหารที่ต้องระวังอย่างน้ำตาล ไขมัน และโซเดียมแล้ว สารอาหารสำคัญอย่างวิตามินและแร่ธาตุ ก็จำเป็นด้วยเหมือนกัน บางคนอาจต้องการวิตามินบางชนิดมากกว่าคนอื่น หรือบางคนอาจจำเป็นต้องเพิ่มสารอาหารชนิดนี้มากกว่าคนทั่วไป การอ่านฉลากโภชนาการ จะช่วยให้สามารถคำนวณปริมาณของสารอาหารเหล่านั้นได้ตามที่เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย