เมล็ดทานตะวัน เป็นธัญพืชที่อุดมด้วยสารอาหารและคุณค่าทางโภชนาการ เช่น คาร์โบไฮเดรต วิตามินอี โฟเลต ไฟเบอร์ ทั้งยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย รวมถึงการลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ นอกจากนั้น เมล็ดทานตะวันยังอาจสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกันและเพิ่มระดับพลังงานได้อีกด้วย แต่หากรับประทานในปริมาณที่มากจนเกินไปอาจทำให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้ โดยเฉพาะสตรีมีครรภ์ควรหลีกเลี่ยงในการรับประทานเมล็ดทานตะวัน
ทำความรู้จัก เมล็ดทานตะวัน
เมล็ดทานตะวัน (Sunflower Seed) จัดว่าเป็นอีกหนึ่งธัญพืชยอดนิยมที่นิยมนำมาทานเล่น เพราะนอกจากจะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุนานาชนิดแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ รวมไปถึงโรคหัวใจและโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ทั้งยังอาจสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกันและเพิ่มระดับพลังงานได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเมล็ดทานตะวันจะอุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย แต่หากรับประทานในปริมาณที่มากจนเกินไปอาจทำให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้ โดยเฉพาะสตรีมีครรภ์ควรหลีกเลี่ยงในการรับประทานเมล็ดทานตะวัน
ข้อมูลทางโภชนาการของเมล็ดทานตะวัน
เมล็ดทานตะวันอุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อร่างกาย หากรับประทานเมล็ดทานตะวันอบในปริมาณ 1 ออนซ์ (30 กรัม หรือ 1/4 ถ้วย) อาจได้รับสารอาหารและคุณค่าทางโภชนาการ ดังนี้
- พลังงาน 163 แคลอรี่
- ไขมันรวม 14 กรัม
- โปรตีน 5.5 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 6.5 กรัม
- ไฟเบอร์ 3 กรัม
- วิตามินอี 37% ของปริมาณสารอาหารที่แนะนำต่อวัน
- วิตามินบี 3 10% ของปริมาณสารอาหารที่แนะนำต่อวัน
- วิตามินบี 5 20 % ของปริมาณสารอาหารที่แนะนำต่อวัน
- วิตามินบี 6 11% ของปริมาณสารอาหารที่แนะนำต่อวัน
- สังกะสี 10% ของปริมาณสารอาหารที่แนะนำต่อวัน
- แมงกานีส 30% ของปริมาณสารอาหารที่แนะนำต่อวัน
- ซีลีเนียม 32% ของปริมาณสารอาหารที่แนะนำต่อวัน
- ทองแดง 26% ของปริมาณสารอาหารที่แนะนำต่อวัน
- เหล็ก 6% ของปริมาณสารอาหารที่แนะนำต่อวัน
- แมกนีเซียม 9% ของปริมาณสารอาหารที่แนะนำต่อวัน
- โฟเลต 17% ของปริมาณสารอาหารที่แนะนำต่อวัน
5 ประโยชน์จากเมล็ดทานตะวัน
บำรุงหัวใจ
แมกนีเซียมในเมล็ดทานตะวันอาจช่วยลดระดับความดันโลหิต ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจได้ นอกจากนี้ เมล็ดทานตะวันยังอุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวโดยเฉพาะ กรดไลโนเลอิก (Linoleic Acid) ที่ช่วยขยายหลอดเลือด ต่อสู้กับโรคหัวใจ
โรคเบาหวาน
จากการศึกษาและการทดลองบางชิ้นให้ข้อมูลว่า เมล็ดทานตะวันมีสรรพคุณในการช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 แต่อย่างไรยังคงต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ได้ทำการศึกษาในกลุ่มผู้ที่รับประทานเมล็ดทานตะวันปริมาณ 1 ออนซ์ (30 กรัม) ร่วมกับมื้ออาหารเพื่อสุขภาพเป็นประจำทุกวันพบว่า อาจช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดหลังอาหาร (Fasting Blood Sugar) ลดลงประมาณ 10% ในระยะเวลา 6 เดือน เมื่อเทียบกับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพเพียงอย่างเดียว
ลดการอักเสบ
เมล็ดทานตะวันมีสารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ลดการอักเสบเรื้อรังที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรังหลายชนิด
รักษาโรคทั่วไป
ปัจจุบันเมล็ดทานตะวันได้ถูกนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมมากมาย โดยนำน้ำมันที่สกัดจากเมล็ดทานตะวันมาใช้ในการรักษาโรคและอาการต่างๆ เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาขับเสมหะ รักษาโรคหลอดลม หรือใช้ทาเพื่อรักษาโรคผิวหนังต่าง ๆ
รักษาโรคบิด
การรับประทานเมล็ดทานตะวันอาจช่วยรักษาโรคบิด ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก ท้องเสียอย่างรุนแรง นอกจากนี้ยังอาจช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่อีกด้วย
ถึงแม้ว่าเมล็ดทานตะวันจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แต่หากรับประทานในปริมาณที่มากจนเกินไปอาจทำให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้ โดยเฉพาะแคดเมียม (Cadmium) โลหะหนักชนิดนี้ที่อยู่ในเมล็ดทานตะวัน ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อไต
[embed-health-tool-bmr]