ปลาข้าวสาร หรือที่ชาวประมงนิยามเรียกว่า “ปลาสายไหม” แท้จริงแล้วก็คือลูกปลาแอนโชวี่ตัวเล็กๆ นี้เป็นอาหารที่คนนิยมรับประทาน สูตร ยำปลาข้าวสาร จึงเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย เพื่อเสริมแคลเซียม ปลาข้าวสารนั้นนิยมนำมารับประทานโดยการทอดปลาทั้งตัวให้กรอบ เนื่องจากมีขนาดเล็ก จึงทำให้สามารถเคี้ยวได้เลยทั้งตัว นอกจากปลาข้าวสารนั้นจะอุดมไปด้วยแคลเซียมแล้ว ยังเต็มไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3วิตามินบี 3 วิตามินเอ และแร่ธาตุที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตอีกมากมาย โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ
[embed-health-tool-bmi]
สูตร ยำปลาข้าวสาร
ส่วนผสม สำหรับ 1-2 ท่าน
เวลาทำ 10 นาที
- ปลาข้าวสารทอด 1 ถ้วยตวง
- ตะไคร้ 2 ต้น
- พริก 2-3 เม็ด (หรือตามใจชอบ)
- หอมแดง 2 หัว
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 2 ช้อนโต๊ะ
- ใบมะกรูด 4-5 ใบ
- ต้นหอม 1 ต้น
- ใบผักชี 10-15 ใบ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
- มะม่วงเปรี้ยว 1/2 – 1 ลูก
วิธีทำ
- เตรียมส่วนผสมทั้งหมดให้พร้อม หั่นซอยเครื่องยำ ทั้งพริก ตะไคร้ ใบมะกรูด ต้นหอม และหอมแดง ให้เรียบร้อย พักไว้
- ตั้งน้ำมันให้ร้อน นำปลาข้าวสารมาทอดอีกครั้งด้วยไฟกลาง
- เมื่อทอดจนปลาเหลืองดีแล้ว ยกขึ้นสะเด็ดน้ำมัน พักไว้
- เทเครื่องยำทั้งหมด และปลาข้าวสารทอดใส่ในชาม ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำมะนาว ชิมรสและปรุงตามใจชอบ
- โรยผักชีปิดท้าย คลุกเคล้านิดหน่อยให้พอเข้ากัน
- ตักเสิร์ฟใส่จาน พร้อมรับประทาน
ประโยชน์ของยำข้าวสาร
ยำปลาข้าวสารนี้นอกจากจะได้ประโยชน์จากปลาข้าวสาร ยังได้ประโยชน์จากเครื่องเคียงอื่นๆ ที่อยู่ในยำ เช่น มะม่วงเปรี้ยว จะช่วยในดูแลระบบย่อยอาหาร สัญญาณบ่งบอกว่ากำลังมีอาการอาหารไม่ย่อย แก้อาหารท้องผูก และช่วยบรรเทาความผิดปกติของตับได้ รสชาติเผ็ดร้อนของพริกก็ช่วยให้เจริญอาหาร อุดมไปด้วยวิตามินซีและแร่ธาตุ ช่วยบรรเทาอาหารปวด ทั้งยังช่วยเร่งการเผาผลาญและลดน้ำหนักอีกด้วย