backup og meta

เครียดหนักต้องพักดื่มชาดำ เพราะ ชาดำช่วยลดความเครียด ของคุณได้

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย Khongrit Somchai · แก้ไขล่าสุด 11/06/2020

    เครียดหนักต้องพักดื่มชาดำ เพราะ ชาดำช่วยลดความเครียด ของคุณได้

    ชา หรือ ใบชา ตัวเลือกสำหรับบำรุงสุขภาพที่นำมาดื่มได้ทั้งแบบร้อนและเย็น รวมถึงยังนำไปแปรรูปเป็นอาหารชนิดต่าง ๆ ได้อีกมากมาย ชาที่เป็นที่นิยมและพบเห็นได้บ่อยที่สุดคือชาเขียว เวลาเหนื่อยล้า หรือเครียดจากการทำงาน หลายคนก็เลือกที่จะดื่มชาเพื่อให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น แต่รู้หรือไม่ว่า สุดยอดของชาที่ช่วยลดความเครียดก็คือชาดำ แล้ว ชาดำช่วยลดความเครียด ได้อย่างไรนั้น Hello คุณหมอ มีคำตอบมาให้แล้วกับบทความนี้ค่ะ

    ชาดำคืออะไร

    ชาดำ คือใบชาที่ได้มาจากต้นชา ซึ่งเป็นชาในสายพันธุ์คาเมเลีย ไซเนนซิส (Camellia sinensis) นำมาผ่านกระบวนการออกซิเดชั่น ( Oxidation ) เปลี่ยนสีของใบชาจากสีเขียวเป็สีน้ำตาลเข้ม หรือสีดำ โดยชาดำนั้นมีที่มาที่เหมือนกับชาเขียวทุกประการ ต่างกันตรงที่ชาเขียวนั้นไม่ได้ผ่านกระบวนการออกซิเดชั่นแบบชาดำ

    อีกหนึ่งความโดเด่นของชาดำนั้นก็คือ ในชาดำมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่าง สารโพลิฟีนอล ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นประโยชน์ในการช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยปกป้องเซลล์ไม่ให้ถูกระบบดีเอ็นเอทำร้าย และเนื่องจากชาดำนั้นผ่านกระบวนการออกซิเดชั่นจึงทำให้สารต้านอนุมูลอิสระในชาดำมีความแตกต่างกับสารต้านอนุมูลอิสระในชาเขียว โดยชาเขียวจะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อแคทีชิน (Catechins) ซึ่งเป็นเพียงสารประกอบของโพลิฟีนอล ในขณะที่สารต้านอนุมูลอิสระในชาดำนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงสารโพลิฟีนอล ในระหว่างที่มีการออกซิเดชั่นให้เป็นทีรูบิจิน (Thearubigins) ทีฟลาวิน(Theaflavins) และฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) สารเหล่านี้มีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่อยู่ในร่างกายได้

    ประโยชน์ของการดื่มชาดำ

    การดื่มชานั้นมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน มีหลักฐานของการดื่มชาทั้งในเอเชีย และยุโรป ซึ่งต่างก็พูดถึงประโยชน์ของการดื่มชาเอาไว้อย่างมากมาย และในปัจจุบันชาก็ยังถือว่าเป็นเครื่องดื่มยอดนิยม โดยเฉพาะในยุคที่ผู้คนหันมาดูแลตัวเองกันมากขึ้นอย่างในทุกวันนี้ ชาจึงกลายมาเป็นเครื่องดื่มสำหรับบำรุงสุขภาพที่ได้รับการยอมรับว่า การดื่มชาเป็นประจำนั้นดีต่อสุขภาพมากมาย ดังนี้

    1.มีสารต้านอนุมูลอิสระ

    ชาดำมีสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มโพลีฟีนอลที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน หรือโรคที่เกี่ยวกับสภาวะของระดับน้ำตาลในเลือด

    2.ดีต่อหัวใจ

    สารฟลาโวนอยด์ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในชาดำ เป็นสารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ โดยจะไปช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี รวมถึงช่วยควบคุมระดับของไตรกลีเซอไรด์ ที่เป็นความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ

    3.ดีต่อระบบทางเดินอาหาร

    ระบบทางเดินอาหารของคนเรานั้นมีแบคทีเรียอาศัยอยู่ ซึ่งมีทั้งแบคทีเรียชนิดที่ดี ช่วยในการย่อยอาหาร แต่ในขณะเดียวกันก็มีแบคทีเรียที่ไม่ดีและส่งผลเสียต่อสุขภาพ แต่สารโพลิฟีนอลที่ได้จากการดื่มชาดำ จะเข้าไปช่วยเพิ่มกลุ่มแบคทีเรียที่ดีในระบบทางเดินอาหารและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน

    4.ลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง

    จากการวิจัยเกี่ยวกับชาดำ พบว่า กลุ่มคนที่ดื่มชาดำตั้งแต่ 4 แก้ว หรือมากกว่านั้นในหนึ่งวัน มีความเสี่ยงของการเป็นโรคหลอดเลือดสมองน้อยกว่าคนที่ไม่ดื่มชาดำ หรือดื่มในปริมาณที่น้อยกว่า

    5.ช่วยเสริมสร้างสมาธิ

    ในชาดำนั้นนอกจากจะเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว ก็ยังมีสารคาเฟอีนและกรดอะมิโนที่ชื่อ แอลธีอะนีน (L-theanine) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยในเรื่องของการตื่นตัวและช่วยเสริมสร้างสมาธิ โดยแอลธีอะนีน จะไปกระตุ้นการทำงานของอัลฟาในสมอง ให้มีการผ่อนคลาย และช่วยให้มีสมาธิจดจ่อกับกิจกรรมที่กำลังทำอยู่

    ชาดำช่วยลดความเครียด ได้อย่างไร

    เมื่อไม่นานมานี้ มีการทดลองโดยให้กลุ่มคนที่มีอายุเฉลี่ย 33 ปี จำนวน 75 คน แบ่งกลุ่มออกเป็นกลุ่มที่ดื่มชาธรรมดา กลุ่มที่ดื่มกาแฟ และกลุ่มที่ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน โดยทำการทดลองเป็นเวลา6สัปดาห์ พบว่า กลุ่มที่ดื่มชาดำติดต่อกันในระยะเวลาที่ทำการวิจัยนั้นมีระดับของฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียดของร่างกายลดลง และยังพบอีกว่ากลุ่มคนที่ดื่มชาดำนั้นรู้สึกผ่อนคลายจากการทำงานมากกว่ากลุ่มทดลองอื่นๆ

    แอนดริว สเตปโท (Andrew Steptoe) นักวิจัยแห่ง University College London กล่าวว่า การดื่มชาดำจะช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นตัวจากความเครียดที่สะสมในแต่ละวันได้อย่างรวดเร็ว ถึงแม้จะไม่ได้เข้าไปช่วยลดระดับของฮอร์โมนความเครียดโดยตรง แต่จากวิจัยพบว่าชาดำช่วยทำให้ระดับฮอร์โมนความเครียดในร่างกายกลับเข้าสู่ระดับที่เป็นปกติ และการฟื้นตัวจากความเครียดได้เร็วนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะถ้าหากร่างกายฟื้นตัวจากความเครียดได้ช้า จะมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ 

    Hello Health Group ม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคแต่อย่างใด

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    ทีม Hello คุณหมอ


    เขียนโดย Khongrit Somchai · แก้ไขล่าสุด 11/06/2020

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา