เพื่อเป็นการประหยัดเวลา ก็ควรเลือกผักที่ผ่านการล้างทำความสะอาดมาเรียบร้อยแล้ว หรือถ้าล้างเองก็ควรปล่อยให้สะเด็ดน้ำและมีความแห้งสนิทจริงๆ โดยจัดเรียงผักสีเขียวเป็นฐานให้เกินเนื้อที่ประมาณหนึ่งในสามของกล่อง (หรือประมาณ 3 ถ้วยตวง)
2 เติมผักชนิดอื่นลงไป
จากนั้นก็เติมผักสลัดชนิดอื่นๆลงไป ไม่ว่าจะเป็นแครอท แตงกวา มะเขือเทศ (ใช้มะเขือเทศเชอร์รี่จะดีที่สุด) พร้อมทั้งถั่วและผลไม้ชนิดต่างๆ นอกจากนี้ก็อาจจะมีพริกหวาน บร็อคโคลี่ ถั่วลูกไก่ (ชิกพี) ถั่วแดง ข้าวโพด ถั่วลันเตา หรือแม้แต่ผลไม้อย่างองุ่นหรือเบอร์รี่ชนิดต่างๆ ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นก็ควรใช้ความชื่นชอบของคุณเป็นหลัก และควรใช้กระดาษทิชชูซับให้แห้งจริงๆ อย่าให้มีหยดน้ำติดอยู่ซักนิดเดียว ผักจะได้สดกรอบอยู่ได้นานๆ
3 เติมเนื้อสัตว์
หรืออาจจะเติมโปรตีนชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเต้าหู้นึ่ง ไก่อบ ไข่ต้ม รวมทั้งชีสชนิดต่างๆ ธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี อย่างควินัวหรือข้าวกล้อง โดยเติมส่วนผสมพวกนี้เฉพาะในกล่องสลัดสามวันแรกของสัปดาห์เท่านั้น (คือของวันจันทร์ วันอังคาร และวันพุธ) พอถึงเย็นวันพุธค่อยใส่เนื้อสัตว์ต่างๆในกล่องสลัดของวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ ซึ่งควรทำแบบนี้กับอะโวคาโด ถั่วเปลือกแข็ง เมล็ดพืชต่างๆ และผลไม้ที่มีน้ำเยอะ อย่างเช่นสัปปะรดหรือสตรอว์เบอร์รี่
4 แยกน้ำสลัดไว้ต่างหาก
อย่าเติมน้ำสลัดลงไปบนผักสลัดจนกว่าจะถึงเวลากิน ฉะนั้น จึงควรซื้อกล่องเล็กๆ ไว้สำหรับใส่น้ำสลัดโดยเฉพาะ หรือถ้าออฟฟิศมีตู้เย็น ก็ควรเก็บขวดน้ำสลัดไว้ในนั้น เพื่อเป็นการประหยัดเวลา และช่วยให้คุณไม่ต้องวุ่นวายกับการพกพาน้ำสลัดไปในที่ต่างๆ
5 อุปกรณ์และวัตถุดิบ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย