การบริโภคอาหารทะเลอย่างปลาแซลมอน ปลาทูน่า หรือหอยนางรม รวมถึงอาหารชนิดอื่น ๆ ที่มีกรดไขมันโอเมกา 3 เช่น เมล็ดแฟลกซ์ (Flax Seed) เมล็ดเจีย ถั่วเหลือง วอลนัท อาจช่วยป้องกันหรือบรรเทาอาการของภาวะอ่อนเพลียเรื้อรังได้ เพราะโอเมกา 3 มีคุณสมบัติในการช่วยลดภาวะเครียดออกซิเดชัน (Oxidative Stress) ซึ่งเป็นสาเหตุของการอักเสบและความผิดปกติต่าง ๆ ภายในร่างกาย
งานวิจัยชิ้นหนึ่ง ศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างโอเมกา 3 และภาวะอ่อนเพลียเรื้อรัง ตีพิมพ์ในวารสาร Neuro Enocrinology Letters ปี พ.ศ. 2548 นักวิจัยได้ศึกษาสุขภาพร่างกายของผู้ที่มีภาวะอ่อนเพลียเรื้อรังจำนวน 22 ราย และสุขภาพร่างกายของผู้ที่มีสุขภาพปกติจำนวน 12 ราย และพบข้อสรุปว่า หากปริมาณโอเมกา 3 ในร่างกายลดลงอาจเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะอ่อนเพลียเรื้อรัง และส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานแย่ลง
นอกจากนี้ นักวิจัยยังแนะนำว่า ผู้ที่มีภาวะอ่อนเพลียเรื้อรังควรรักษาด้วยการรับประทานอาหารที่มีกรดไขมันในกลุ่มโอเมกา 3 เช่น กรดอิโคซะเพนตะอีโนอิก (Eicosapentaenoic Acid หรือ EPA) กรดโดโคซะเฮกซะอีโนอิก (Docosahexaenoic Acid หรือ DHA)
อัลมอนด์
การบริโภคอัลมอนด์ อาจช่วยบรรเทาอาการเหนื่อยล้าได้ เพราะอัลมอนด์มีแมกนีเซียมสูง หรือในปริมาณ 268 มิลลิกรัม/100 กรัม โดยแมกนีเซียมมีคุณสมบัติช่วยให้การทำงานของระบบประสาทเป็นปกติ หากร่างกายขาดแมกนีเซียมมักส่งผลให้การสูบฉีดเลือดและชีพจรผิดปกติได้ ซึ่งมีผลให้เกิดอาการ ไม่มีแรง เป็นกังวล หรือปวดหัว
งานวิจัยชิ้นหนึ่ง เรื่องความสำคัญของแมกนีเซียม เผยแพร่ในวารสาร Scientifica ปี พ.ศ. 2560 ระบุว่า แมกนีเซียมมีความสำคัญต่อระบบโมเลกุลของเซลล์และระบบการทำงานต่าง ๆ ของร่างกาย การขาดแคลนแมกนีเซียมย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพ และยังส่งผลให้ผู้ป่วยโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็งรู้สึกเหนื่อยล้าเพิ่มขึ้น
ดังนั้น การบริโภคอาหารที่มีแมกนีเซียมสูง จึงอาจช่วยป้องกันหรือบรรเทาอาการร่างกายอ่อนเพลีย ไม่มีแรงได้
นอกจากอาหารข้างต้น หาก ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่มีแรง กินอะไรดี สามารถบริโภคอาหารต่าง ๆ ได้ดังนี้
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย