โรคไข้เลือดออก: ทำไม ชุดตรวจไข้เลือดออกแบบทราบผลอย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็น
โรคไข้เลือดออกคืออะไร?
โรคไข้เลือดออกคือการติดเชื้อไวรัส ซึ่งสาเหตุหลักของการรับเชื้อไข้เลือดออก คือ การถูกยุงที่ติดเชื้อกัด โดยพาหะของโรคไข้เลือดออก คือ ยุงลายบ้าน (Aedes aegypti)
โรคไข้เลือดออกสามารถติดต่อได้อย่างไร?
โรคไข้เลือดออกมีสาเหตุมาจากไวรัสไข้เลือดออก (Dengue Virus: DENV) สามารถติดต่อสู่มนุษย์ได้หากถูกยุงลายที่ติดเชื้อกัด แต่ไม่สามารถติดจากคนสู่คนได้ โดยยุงจะได้รับเชื้อมาจากการดูดเลือดมนุษย์ที่ติดเชื้ออยู่ก่อนแล้วเป็นอาหาร หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ ยุงลายที่ติดเชื้อจะสามารถแพร่กระจายไวรัสไปยังคนอื่น ๆ ได้ผ่านการกัด ยุงที่ติดเชื้อแล้วจะติดเชื้อไปตลอดชีวิตจนกว่าจะตาย
ผู้ที่ถูกยุงลายที่ติดเชื้อกัดจะแสดงอาการหลังผ่านระยะเชื้อฟักตัว 3-14 วัน โดย 75% ของผู้ที่ติดเชื้อไข้เลือดออกจะไม่แสดงอาการ
โรคไข้เลือดออกพบได้ที่ใดบ้าง?
การแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกนั้นเป็นไปตามฤดูกาล ผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกส่วนใหญ่ในซีกโลกใต้จะพบโรคนี้ได้ในช่วงครึ่งแรกของปี และผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกส่วนใหญ่ในซีกโลกเหนือจะพบโรคนี้ได้ในช่วงครึ่งหลังของปี
พื้นที่ที่พบโรคไข้เลือดออกส่วนใหญ่จะเป็นประเทศที่อยู่ในสภาพอากาศแบบเขตร้อนหรือกึ่งเขตร้อน ในเขตเมืองหรือกึ่งเมืองกึ่งชนบท ซึ่งประกอบไปด้วย
- เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- แคริบเบียน
- ประเทศในอนุทวีปอินเดีย
- อเมริกาตอนใต้และตอนกลาง
- แอฟริกา
- หมู่เกาะแปซิฟิก
- ออสเตรเลีย
ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 มักเกิดความสับสนในการวินิจฉัยโรคระหว่างโรคโควิด-19 กับโรคไข้เลือดออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในเขตร้อนชื้น ซึ่งระยะของโรคทั้ง 2 นี้มีความคล้ายกัน
ภาพรวมของโควิด-19
โควิด-19 คืออะไร?
โควิด-19 เป็นโรคระบบทางเดินหายใจที่มีสาเหตุจากไวรัส SARS-CoV-2
โควิด-19 แพร่ระบาดอย่างไร?
โรคโควิด-19 จะติดต่อจากคนสู่คนเป็นหลักผ่านทางสารคัดหลั่งของระบบทางเดินหายใจซึ่งแพร่กระจายเมื่อผู้ติดเชื้อไอ จาม หรือพูดคุย ต่างจากโรคไข้เลือดออกที่ติดต่อจากการถูกยุงที่ติดเชื้อกัด
ร่างกายจะเป็นอย่างไรหากได้รับเชื้อไข้เลือดออก?
โรคไข้เลือดออกมักเกิดการติดเชื้อทันทีหลังจากได้รับเชื้อ 5-10 วัน
ระยะมีอาการของโรคไข้เลือดออก
โรคไข้เลือดออกแบ่งระยะของอาการได้เป็นหลายช่วง ซึ่งอาการหลักของโรคมีดังนี้
- อาการไข้สูง โรคไข้เลือดออกมักจะเริ่มแสดงอาการด้วยการมีไข้สูง ซึ่งอาจสูงได้ถึง 40-41 องศาเซลเซียส และมักจะมีไข้เช่นนั้นไปอีก 2-7 วัน
- อาการปวดตามร่างกาย ในบางคนอาจพบอาการปวดด้านหลังของลูกตา กล้ามเนื้อ และข้อต่อ
- ผื่นแดง อาจเกิดผื่นขึ้น ซึ่งมักจะเกิดหลังจากมีไข้ไปแล้ว 3-4 วัน
- รู้สึกไม่สบาย อาการอาเจียนและเบื่ออาหารเป็นอาการที่พบได้ทั่วไปของโรคไข้เลือดออก ส่วนมากจะตามมาด้วยอาการปวดท้อง
โรคไข้เลือดออกขั้นรุนแรง
ในบางครั้งผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกอาจมีโอกาสพัฒนาอาการจากโรคไข้เลือดออกแบบธรรมดาไปสู่โรคไข้เลือดออกขั้นรุนแรง (Dengue Haemorrhagic Fever: DHF) ซึ่งอาจทำให้เสี่ยงเสียชีวิตได้ แต่โอกาสที่จะเกิดขึ้นได้นั้นมีน้อยมาก
ผู้ที่เสี่ยงพัฒนาจากโรคไข้เลือดออกแบบธรรมดาไปสู่โรคไข้เลือดออกขั้นรุนแรง คือ ผู้ที่เคยติดเชื้อโรคไข้เลือดออกมาก่อน (การติดเชื้อซ้ำ) และโอกาสที่โรคไข้เลือดออกธรรมดาจะพัฒนาไปสู่โรคไข้เลือดออกขั้นรุนแรงจะยิ่งมากขึ้นหากการติดเชื้อครั้งหลังนั้นเป็นเชื้อคนละซีโรไทป์ (serotype) กับการติดเชื้อครั้งก่อนหน้า ซีโรไทป์ของโรคไข้เลือดออกนั้นมีทั้งหมด 4 แบบ คือ DENV1, DENV2, DENV3 และ DENV4 และการติดเชื้อในแต่ละครั้งอาจนำไปสู่การติดเชื้อในซีโรไทป์อื่น ๆ ด้วย
ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวหลายโรคก็มีโอกาสที่จะพัฒนาจากโรคไข้เลือดออกแบบธรรมดาไปสู่โรคไข้เลือดออกขั้นรุนแรงได้เช่นกัน
อาการของโรคไข้เลือดออกขั้นรุนแรง
ผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกขั้นรุนแรงอาจมีอาการ คือ พบจุดเลือดออกบนผิวหนังและส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย รวมไปถึงการรั่วของพลาสมาในเลือด อวัยวะต่าง ๆ เช่น ปอด ตับ และหัวใจของผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกขั้นรุนแรงอาจได้รับความเสียหาย แต่อาการนี้อาจเกิดขึ้นได้น้อยมาก
การวินิจฉัยและการรักษาโรคไข้เลือดออก
โรคไข้เลือดออกยังไม่มียารักษาโดยเฉพาะ โดยทั่วไปแล้วผู้ป่วยจะหายได้เองจากการดูแลแบบประคับประคองอาการด้วยการรับประทานยาประเภทพาราเซตามอล หรือยาแก้ปวดสามารถช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อและช่วยลดไข้ ซึ่งสามารถรักษาตัวที่บ้านได้จนกว่าการติดเชื้อจะหายไป
เพื่อการรักษาอย่างทันท่วงที ชุดตรวจไข้เลือดออกแบบทราบผลอย่างรวดเร็วจะถูกนำมาใช้เพื่อตรวจสอบและยืนยันว่าการติดเชื้อนั้นเป็นเชื้อที่ทำให้เกิดโรคไข้เลือดออก การตรวจสอบเชื้อไวรัสในห้องปฏิบัติการก็มีประโยชน์ในการวินิจฉัยโรคไข้เลือดออกเช่นกัน ทั้งยังมีส่วนช่วยในการติดตามอาการของผู้ป่วยที่ติดเชื้อโรคไข้เลือดออกอีกด้วย
ชุดตรวจไข้เลือดออกแบบทราบผลอย่างรวดเร็ว: การวินิจฉัยโรคที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
ชุดตรวจไข้เลือดออกแบบทราบผลอย่างรวดเร็วใช้การตรวจสอบหาเชื้อจากเลือดเป็นหลัก ชุดตรวจนี้ถูกออกแบบมาให้ตรวจหาแอนติเจน NS1 ที่มีอยู่ในเชื้อไวรัสโรคไข้เลือดออกซึ่งสามารถตรวจพบได้ในเลือดระหว่างติดเชื้อไข้เลือดออก
แอนติเจน NS1 จะทำปฏิกิริยากับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายและกระตุ้นให้เกิดการตอบสนองโดยการสร้างแอนติบอดีอิมมูโนโกลบูลิน จี (IgG) และแอนติบอดีอิมมูโนโกลบูลิน เอ็ม (IgM) ขึ้นมา
ชุดตรวจไข้เลือดออกแบบทราบผลอย่างรวดเร็วได้รับการยอมรับว่าเป็นเครื่องมือวินิจฉัยการติดเชื้อโรคไข้เลือดออกที่เชื่อถือได้ การใช้ชุดตรวจนี้สามารถช่วยตรวจหาตัวบ่งชี้การติดเชื้อได้ตั้งแต่ 1-2 วันแรกของการติดเชื้อ ก่อนที่จะตรวจพบแอนติบอดีซึ่งจำเป็นต้องทำการตรวจสอบในห้องปฏิบัติการและอาจใช้เวลานาน
ประโยชน์ของ ชุดตรวจไข้เลือดออกแบบทราบผลอย่างรวดเร็ว
องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้ใช้ชุดตรวจไข้เลือดออกแบบทราบผลอย่างรวดเร็วเพื่อตรวจหาแอนติเจน NS1 ของเชื้อโรคไข้เลือดออก เนื่องจากชุดตรวจไข้เลือดออกแบบทราบผลอย่างรวดเร็วมีประโยชน์ ดังนี้
- ทราบผลภายใน 15-20 นาที
- ชุดตรวจไข้เลือดออกแบบทราบผลอย่างรวดเร็วมีความแม่นยำของการตรวจหาแอนติเจน NS1 สูง โดยมีค่าความไว (Sensitivity) อยู่ที่ 55%-82% และค่าความจำเพาะ (Specificity) อยู่ที่ 97%-100%
- ลดระยะเวลารอผลการทดสอบจากห้องปฏิบัติการและระยะเวลารอรับบริการที่โรงพยาบาล
- ช่วยให้สามารถเริ่มการรักษาที่เหมาะสมได้เร็วขึ้น
การป้องกันโรคไข้เลือดออก
การใช้ยากำจัดยุง รวมทั้งการลดจำนวนบริเวณหรือภาชนะที่มีน้ำขังอันเป็นแหล่งกำเนิดของยุง ถือเป็นการป้องกันและจัดการกับโรคไข้เลือดออกที่มีประสิทธิภาพ แต่ถึงอย่างนั้น การระบาดของโรคไข้เลือดออกก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้ และการลดจำนวนประชากรยุงลงอย่างยั่งยืนก็ถือเป็นเรื่องยาก ทั้งนี้ การใส่เสื้อผ้าหรืออุปกรณ์ป้องกันยุง รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์กันยุงสามารถช่วยป้องกันการโดนยุงกัดได้