การตรวจครรภ์ด้วยตัวเอง
หากสงสัยว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ สามารถตรวจครรภ์ด้วยตัวเองเพื่อหาฮอร์โมนการตั้งครรภ์ (Human chorionic gonadotropin หรือ HCG) จากปัสสาวะ ทั้งนี้ ควรตรวจหลังจาก 21วัน นับจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน และควรตรวจในช่วงเวลาเช้า เนื่องจากอาจมีฮอร์โมน HCG ในระดับเข้มข้น
ชุดทดสอบการตั้งครรภ์สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป โดยแบ่งออกเป็นรูปแบบจุ่มและแบบหยด ดังนี้
- กระดาษไว้จุ่มปัสสาวะและถ้วยเก็บตัวอย่างปัสสาวะ โดยปัสสาวะลงภายในถ้วยและใช้กระดาษหรือแท่งทดสอบจุ่มลงไปทิ้งไว้ประมาณ 7-10 วินาที จากนั้นรอผลลัพธ์ประมาณ 5 นาที
- ชุดทดสอบการตั้งครรภ์แบบหยด เป็นการทดสอบที่คล้ายกับแบบจุ่ม แต่เปลี่ยนเป็นใช้ที่ดูดปัสสาวะเพื่อหยดลงในชุดทดทดสอบที่มีสัญลักษณ์ตัว S ซึ่งหยดลงไปในช่องประมาณ 6 หยด และรอผลลัพธ์ประมาณ 3 นาที
ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ล้วนประกอบด้วยตัวอักษร C และ T เมื่อครบเวลาตามกำหนดหากมีขีดสีแดงขึ้นที่ตัวอักษร C (Control Line) ของชุดทดสอบมีความหมายว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์ หากมีขีดสีแดงขึ้นที่ตัวอักษร C และ T หรือมีเส้นสีแดงขึ้น 2 ขีด อาจเป็นไปได้ว่ากำลังตั้งครรภ์อยู่ แต่หากมีเส้นสีแดงขึ้นตรงตัวอักษรไม่ชัด ควรซื้อชุดตรวจใหม่หรือเข้าตรวจโดยคุณหมอ เพื่อให้ทราบผลลัพธ์ที่แม่นยำมากขึ้น
การตรวจครรภ์ด้วยวิธีทางการแพทย์
เป็นการดูระดับของฮอร์โมนการตั้งครรภ์ คือ serum Beta-hCG จากการส่งเลือดไปตรวจทางห้องปฏิบัติการ ถ้าค่าฮอร์โมนมากกว่า 25 mIU/ml แสดงว่าตั้งครรภ์ ซึ่งจะมีเกณฑ์ในการประเมินระดับของฮอร์โมน hCG ในแต่ละช่วงอายุครรภ์ว่าเหมาะสมกันหรือไม่ แต่การตรวจเลือดเพียงครั้งเดียวไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นการตั้งครรภ์ปกติ อาจจะต้องตรวจเลือดซ้ำ เนื่องจากการตรวจระดับของ Beta-hCG ในการตั้งครรภ์ปกติจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 66 เปอร์เซ็นต์ใน 48 ชั่วโมง
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย