วัคซีน

วัคซีน เป็นตัวที่ช่วยป้องกันความเจ็บป่วยต่าง ๆ โดยส่วนใหญ่จะได้รับในช่วงวัยเด็ก วัคซีนทำงานอย่างไร ประโยชน์หลักของวัคซีนคืออะไร นี่คือสิ่งที่เหล่าคุณพ่อคุณแม่ทุกคนต้องรู้

เรื่องเด่นประจำหมวด

วัคซีน

โปลิโอ เป็นแล้วรักษาไม่หาย แต่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน

โปลิโอ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ไข้ไขสันหลังอักเสบ เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากไวรัสโปลิโอ (Poliovirus) ซึ่งเคยส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพของมนุษย์ในอดีต โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็ก แม้ว่าในปัจจุบันโรคนี้จะลดลงอย่างมากเนื่องจากการพัฒนาวัคซีน แต่ความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคและการป้องกันยังคงมีความสำคัญ [embed-health-tool-vaccination-tool] โปลิโอ คืออะไร โรคโปลิโอเกิดจากเชื้อไวรัสในตระกูล Picornavirus โดยไวรัสนี้แบ่งเป็น 3 สายพันธุ์หลัก ได้แก่ PV1, PV2 และ PV3 ซึ่งไวรัสสามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านการบริโภคน้ำหรืออาหารที่ปนเปื้อน รวมถึงการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโดยตรง เมื่อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย มันจะแพร่กระจายในลำไส้และระบบประสาทส่วนกลาง ทำลายเซลล์ประสาทที่ควบคุมการเคลื่อนไหว ส่งผลให้เกิดภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรืออัมพาต การแพร่กระจายของโรค โรคโปลิโอแพร่กระจายได้ง่ายในพื้นที่ที่มีการสุขาภิบาลไม่ดี โดยเชื้อไวรัสจะถูกขับออกจากร่างกายผู้ติดเชื้อผ่านทางอุจจาระ แล้วปนเปื้อนในน้ำหรืออาหาร นอกจากนี้ การสัมผัสใกล้ชิด เช่น การสัมผัสมือหรือของใช้ส่วนตัวที่มีเชื้อไวรัสอยู่ ก็เป็นอีกเส้นทางที่โรคสามารถแพร่กระจายได้ กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงคือเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนครบถ้วน อาการของโรคโปลิโอ โรคโปลิโอมีลักษณะอาการหลากหลาย ตั้งแต่ไม่มีอาการไปจนถึงอัมพาตรุนแรง ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ (70-90%) ไม่มีอาการ แต่สามารถแพร่เชื้อได้ อาการเบื้องต้น รวมถึงไข้ต่ำ อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ และคลื่นไส้ อาการรุนแรง ได้แก่ อัมพาตของแขนขา หรือในบางกรณีเชื้อไวรัสอาจทำลายระบบประสาทที่ควบคุมการหายใจ ส่งผลให้เสียชีวิต สำหรับบางคนที่เคยติดเชื้อ อาจเกิดภาวะ กลุ่มอาการหลังโปลิโอ (Post-Polio Syndrome) ในระยะเวลาหลายปีหลังจากการติดเชื้อ ซึ่งทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและปวดกล้ามเนื้อ การป้องกันด้วยวัคซีน ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรคโปลิโอเฉพาะเจาะจง การป้องกันที่ดีที่สุดคือการรับวัคซีน […]

สำรวจ วัคซีน

วัคซีน

แพ้วัคซีน ในเด็ก คุณพ่อคุณแม่จะสังเกตได้อย่างไร

วัคซีน มีความสำคัญในการส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ต่อสู้กับเชื้อโรค ไวรัส แบคทีเรีย ลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยรวมถึงโรคร้ายแรง ถึงแม้วัคซีนจะเป็นสิ่งจำเป็น แต่สำหรับบางคนอาจก่อให้เกิดอาการ แพ้วัคซีน หลังฉีดได้ โดยเฉพาะกลุ่มบุคคลที่มีอาการแพ้ต่อสิ่งต่าง ๆ ดังนั้น หลังจากที่คุณพ่อคุณแม่พาลูกเข้ารับการฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้ว ควรหมั่นสังเกตอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น และเข้าพบคุณหมอเพื่อทำการรักษาทันที [embed-health-tool-vaccination-tool] อาการแพ้วัคซีน อาการแพ้วัคซีนในระดับไม่รุนแรงอาจส่งผลให้มีอาการบวมแดงบริเวณที่ได้รับการฉีด มีผื่นขึ้นตามตัว และอาจมีไข้ระดับต่ำ แต่หากมีอาการแพ้อย่างรุนแรง อาจก่อให้เกิดอาการหลังฉีดภายในไม่กี่นาที และควรรับการรักษาจากคุณหมอทันที ดังนี้ หายใจหอบ หายใจถี่ วิงเวียนศีรษะ ไอ อาเจียน ระดับความดันโลหิตต่ำ ท้องเสีย หัวใจเต้นแรง เกิดลมพิษ ผิวซีด คอบวม ผู้ที่มีความเสี่ยง แพ้วัคซีน ผู้ป่วยที่มีประวัติการแพ้อาหารอาจมีความเสี่ยงสูงที่จะแพ้วัคซีน เนื่องจากวัคซีนบางชนิดอาจมีส่วนประกอบจากอาหารที่ทำให้แพ้ เช่น โปรตีนชนิดเดียวกับที่อยู่ในไข่ ดังนั้นหากมีประวัติการแพ้อาหาร ต่อไปนี้ ควรแจ้งให้คุณหมอทราบก่อนการฉีด กลุ่มคนที่แพ้ไข่ วัคซีนบางชนิดมีโปรตีนไข่ เช่น วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ วัคซีนป้องกันโรคหัด โรคคางทูม และโรคหัดเยอรมัน รวมถึงวัคซีนที่ไม่ใช่วัคซีนพื้นฐาน อย่างวัคซีนป้องกันโรคไข้เหลือง และวัคซีนป้องกันโรคไข้ไทฟอยด์ กลุ่มคนที่แพ้เจลาติน หากแพ้เจลาติน ควรแจ้งให้คุณหมอทราบก่อนฉีดวัคซีน เพราะมีวัคซีนหลายชนิดที่มีส่วนผสมของเจลาติน เช่น วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ วัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส วัคซีนป้องกันโรคหัด […]


วัคซีน

วัคซีนไข้หวัดใหญ่ สำหรับเด็ก จำเป็นหรือไม่

วัคซีนไข้หวัดใหญ่ เป็นวัคซีนที่เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี ควรเข้ารับการฉีดเนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่มากกว่าผู้ป่วยทั่วไปถึง 6 เท่า อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หากเด็กฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เพื่อจะได้สังเกตอาการและสามารถรับมือได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที [embed-health-tool-vaccination-tool] วัคซีนไข้หวัดใหญ่ เด็กต้องฉีดไหม ข้อมูลสถิติโรคไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม- 8 กันยายน พ.ศ. 2565 จากกรมควบคุมโรค เผยว่า มีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 22,922 ราย เสียชีวิต 1 ราย และผู้ป่วยกลุ่มที่พบมากที่สุดคือ เด็กแรกเกิดถึงอายุ 4 ปี รองลงมาคือ เด็กอายุ 5-14 ปี ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคไข้หวัดใหญ่ในเด็ก กรมควบคุมโรคและนำให้เด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป โดยเฉพาะเด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ปี เข้ารับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ และควรดูแลตัวเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่ชุมชน ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ ไม่เอามือเข้าปาก ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดตัว แก้วน้ำ และหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วย […]


วัคซีน

วัคซีนป้องกันงูสวัด เหมาะสำหรับใคร ฉีดแล้วเกิดผลข้างเคียงอะไรบ้าง

วัคซีนป้องกันงูสวัด เป็น วัคซีนที่ฉีดสำหรับป้องกันโรคงูสวัด ซึ่งเป็นโรคติดต่อที่เกิดจากการติดเชื้อ หากได้สัมผัสกับแผลของผู้ป่วยก็จะทำให้สามารถติดเชื้อได้ โดยปกติแล้วเมื่อเป็นโรคงูสวัดจะเกิดเป็นผื่นแดง มีอาการปวด แสบ แต่ในบางรายอาจมีอาการแทรกซ้อนที่รุนแรง ดังนั้น ผู้สูงอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปหรือผู้ที่ภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันงูสวัด โรคงูสวัดคืออะไร โรคงูสวัด (Shingles) เกิดจากการติดเชื้อไวรัส Aricella-Zoster ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสตัวเดียวกันกับเชื้อที่ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใส แม้ว่าจะหายจากโรคอีสุกอีใสหรือโรคงูสวัด ไม่มีอาการของโรคแล้ว แต่เชื้อไวรัสตัวนี้ก็จะยังอยู่ในระบบประสาทไปอีกหลายปี เมื่อไรที่ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ่ลงหรือในช่วงที่ร่างกายอ่อนแอเชื้อที่ยังอยู่ในร่างกายก็จะออกมาเล่นงานทำให้กลับมาเป็นโรคเหล่านี้ได้อีกครั้ง อาการผู้ป่วยโรคงูสวัดคือจะมีลักษณะเป็นผื่นแดง ปวดและแสบร้อนบริเวณที่เป็น โดยปกติแล้วโรคงูสวัดมักจะไม่มีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง แต่ในบางรายซึ่งพบได้ค่อนข้างน้อย อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ทำให้ตาบอดได้ จึงจำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรค กลุ่มเสี่ยงโรคงูสวัด โรคงูสวัดสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกคน แม้จะเคยเป็นโรคอีสุกอีใสหรือเคยเป็นงูสวัดมาแล้วก็ตาม แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นโรคอีสุกอีใสจะเป็นโรคงูสวัดได้ ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงในการเป็นโรคงูสวัด ได้แก่ มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มีโรคประจำตัว หรือเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับการทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง เช่น โรคเอชไอวี โรคเอดส์ หรือโรคมะเร็ง เคยเข้ารับเคมีบำบัดหรือเคยได้รับการรักษาด้วยรังสี ใช้ยาที่มีส่วนทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง เช่น สเตียรอยด์ หรือยาที่ได้รับหลังจากการปลูกถ่ายอวัยวะ ใครควรได้รับ วัคซีนป้องกันงูสวัด องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ได้มีการอนุมัติว่า วัคซีนที่สามารถป้องกันโรคงูสวัดได้ คือ วัคซีน Zostavax และ วัคซีน Shingrix […]


วัคซีน

วัคซีนสำหรับเด็ก สำคัญอย่างไร และมีอะไรบ้าง

วัคซีนสำหรับเด็ก เป็นสิ่งที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ โดยช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้เตรียมพร้อมต่อสู้กับเชื้อก่อโรคต่าง ๆ เช่น โรคโปลิโอ โรคคอตีบ โรคหัด ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ หากลูกน้อยได้รับวัคซีนไม่ครบตามที่กำหนดอาจทำให้มีภูมิคุ้มกันต่ำ และเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้ง่าย ดังนั้น ผู้ปกครองจึงควรใส่ใจรายละเอียดวัคซีนเด็กแต่ละชนิดและพาลูกน้อยไปรับวัคซีนที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัยอย่างครบถ้วน [embed-health-tool-vaccination-tool] วัคซีนสำหรับเด็ก คืออะไร ในช่วงอายุ 6 เดือนแรก เด็กทารกควรดื่มน้ำนมแม่ เพราะน้ำนมแม่นอกจากจะมีสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุมากกว่า 200 ชนิดแล้ว ยังถือเป็นวัคซีนธรรมชาติที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรคต่าง ๆ ได้ด้วย แต่ถึงอย่างนั้น ภูมิคุ้มกันที่ได้จากน้ำนมแม่ก็จะค่อย ๆ หมดไปภายในเวลา 6 เดือนถึง 1 ปี นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ทารกทั้งที่กินนมแม่และไม่ได้กินนมแม่ต้องได้รับวัคซีนตามช่วงอายุ เพราะวัคซีนเด็กไม่เพียงแค่ป้องกันการเกิดโรค แต่ยังช่วยป้องกันการแพร่เชื้อโรคไปสู่เด็กที่โตกว่าหรือผู้ใหญ่ได้อีกด้วย วัคซีนทำงานโดยเลียนแบบการติดเชื้อโรคบางชนิดในเด็ก วัคซีนเด็กที่เข้าสู่ร่างกายจะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของเด็กพัฒนาอาวุธที่เรียกว่า สารภูมิต้านทาน หรือ แอนติบอดี (Antibody) ขึ้นมา เพื่อต่อสู้กับเชื้อโรคชนิดเดียวกับแต่ละวัคซีนที่เด็กได้รับ ทำให้ร่างกายของเด็กต่อสู้กับการติดเชื้อโรคในอนาคตต่อไปได้ วัคซีนสำหรับเด็ก มีอะไรบ้าง เด็กควรได้รับวัคซีนตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงอายุ 12 ปี โดยการให้วัคซีนเด็กจะต้องเป็นไปตามแบบแผนที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ โดยวัคซีนสำหรับเด็กสามารถแบ่งได้เป็น วัคซีนพื้นฐาน คือ วัคซีนจำเป็นที่เด็กทุกคนต้องได้รับ ได้แก่ วัคซีนวัณโรค (BCG) วัคซีนตับอักเสบ […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

กำลังมองหาเรื่องราวในการเลี้ยงดูบุตรใช่หรือไม่?

เข้าร่วมชุมชนการเลี้ยงดูบุตรและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับคุณแม่และคุณพ่อคนอื่น ๆ เข้าร่วมชุมชนได้เลย!





ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน