บาดแผลและการติดเชื้อ
น้ำกุหลาบนั้นมีสรรพคุณในการต้านแบคทีเรียและฆ่าเชื้อโรค ทั้งยังช่วยกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันสร้างสารฮิสตามีน (Histamines) ดังนั้นจึงทำให้แผลสะอาด แผลหายไวขึ้น ทั้งยังช่วยป้องกันและรักษาการติดเชื้อได้ การบำบัดทางธรรมชาติหลายประเภทจึงมักจะเลือกใช้น้ำกุหลาบในการรักษาบาดแผล
ปวดหัว
การสูดดมกลิ่นของน้ำกุหลาบนั้นนอกจากจะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น ช่วยลดความเครียดแล้ว ยังสามารถนำมาใช้ในกระบวนการบำบัดด้วยกลิ่นเพื่อบรรเทาอาการปวดหัวและไมเกรนได้อีกด้วย
ระบบย่อยอาหาร
มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าการบริโภคน้ำกุหลาบ มีประสิทธิภาพในการเพิ่มการทำงานของระบบย่อยอาหาร ทำให้น้ำดีไหลเวียนได้ดีขึ้น ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และอาการท้องไส้ปั่นป่วน นอกจากนี้ น้ำกุหลาบยังสามารถใช้เป็นยาระบายอ่อนๆ เพื่อป้องกันอาการท้องผูกได้อีกด้วย
วิธีการนำน้ำกุหลาบมาใช้
ฉีดพ่นเป็นสเปรย์ ใช้น้ำกุหลาบแทนเซ็ตติ้ง สเปรย์ ฉีดพ่นลงบนใบหน้าโดยตรงหลังจากการแต่งหน้า เพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้นของใบหน้า และทำให้หน้าดูสดใสมากยิ่งขึ้น
ใช้ทำความสะอาดหน้า ใช้สำลีจุ่มในน้ำกุหลาบแล้วนำมาเช็ดหน้าทำความสะอาด เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกที่ค้างอยู่บนใบหน้า ทำให้ผิวสะอาดหมดจด ช่วยกระชับรูขุมขน และป้องกันการเกิดสิว
หมักผม ผสมน้ำกุหลาบลงใสนครีมนวดผมหรือทรีทเมนต์ แล้วนำมาหมักผม เพื่อบำรุงผมให้สวย ไม่ฟูยุ่งเหยิง
เช็ดแผล ใช้น้ำกุหลาบเช็ดทำความสะอาดบริเวณรอบแผล เพื่อฆ่าเชื้อโรค และป้องกันแบคทีเรีย
ผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการใช้น้ำกุหลาบ
ตามปกติแล้ว การใช้น้ำกุหลาบนั้นค่อนข้างจะมีความปลอดภัยสูง และแทบจะไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงใดๆ แต่ในบางกรณี การใช้น้ำกุหลาบอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น
- อาการแสบร้อน
- ผิวไหม้
- เกิดรอยแดง
- ระคายเคือง
ผู้ที่มีอาการเหล่านี้ ควรหยุดใช้น้ำกุหลาบ และติดต่อแพทย์ในทันที นอกจากนี้ ก่อนการใช้น้ำกุหลาบเป็นครั้งแรก ก็ควรทำการทดสอบอาการแพ้ก่อน โดยทาน้ำกุหลาบลงบนผิวในปริมาณเล็กน้อย แล้วทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง เพื่อดูว่าร่างกายเกิดปฏิกิริยาอะไรหรือไม่
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคแต่อย่างใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย