สุขภาพจิต

เมื่อพูดถึงสุขภาพโดยรวมของคน ๆ หนึ่ง จิตใจ ก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าร่างกาย ปัญหาสุขภาพจิต เป็นปัญหาที่มักจะถูกมองข้าม ดังนั้น การเรียนรู้เกี่ยวกับการรักษา สุขภาพจิต ให้สมบูรณ์แข็งแรง และตระหนักถึงความผิดปกติเกี่ยวกับสภาวะสุขภาพจิต จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ที่จะช่วยให้คุณและคนที่คุณรักมีความสุขมากยิ่งขึ้น

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพจิต

สุขภาพจิต เรื่องใกล้ตัว ที่ไม่ควรมองข้าม

สุขภาพจิต ไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นตัวแปรสำคัญที่ช่วยให้เราสามารถใช้ชีวิตและอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างสมดุลและมีความสุข เมื่อสุขภาพจิตดี ชีวิตด้านอื่น ๆ ก็มักจะดีตามไปด้วย โดยเฉพาะสุขภาพกาย ดังนั้น การเรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาพจิต ทั้งวิธีการดูแลสุขภาพจิตที่เหมาะสม ตลอดไปจนถึงปัญหาสุขภาพจิตที่พบได้บ่อย พร้อมวิธีการรับมือ จะเป็นตัวช่วยสำคัญในการดูแลสุขภาพจิตให้ดียิ่งขึ้น [embed-health-tool-bmi] สุขภาพจิต คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ สุขภาพจิต (Mental Health) คือ ภาวะความเป็นอยู่ทางใจ ที่มีความสัมพันธ์ต่ออารมณ์และความรู้สึก การมีสุขภาพจิตที่ดีจะช่วยให้เราเผชิญต่อความเครียดได้ สามารถเรียนรู้และทำงานได้ดี มีความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพ และมีส่วนร่วมกับสังคมอย่างมีคุณค่า  กรมสุขภาพจิตอธิบายไว้ว่า “สุขภาพจิตหมายถึงภาวะจิตใจที่เป็นสุข ปรับตัวแก้ปัญหาได้ และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ดี” ซึ่งสอดคล้องกับนิยามสากลของ WHO (World Health Organization) สุขภาพจิตเป็นส่วนหนึ่งของสุขภาพโดยรวม การจะมีสุขภาพร่างกายที่ดีและแข็งแรง จำเป็นต้องมีสุขภาพจิตที่ดีควบคู่กัน หากละเลยการดูแลสุขภาพจิตก็อาจส่งผลกระทบต่อปัจจัยด้านอื่น ๆ ทั้งปัจจัยส่วนบุคคลอย่างสุขภาพกาย ตลอดไปจนถึงปัจจัยภายนอกอย่างการทำงานหรือการอยู่ร่วมในสังคมกับผู้อื่น ดังนั้น การดูแลสุขภาพจิตให้ดีและมั่นคงจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อการใช้ชีวิตที่มีความสุข ปัญหาสุขภาพจิตที่พบได้บ่อย ปัญหาสุขภาพจิตนั้นมีหลากหลายชนิดและรูปแบบ โดยปัญหาด้านสุขภาพจิตที่พบได้บ่อยในประเทศไทย มีดังนี้ โรคซึมเศร้า (Depression) โรคซึมเศร้า เป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความผิดปกติของสารเคมีในสมอง เหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจ หรือการใช้ยาบางชนิด  อาการของโรคซึมเศร้าอาจแตกต่างกันออกไปในแต่ละคน โดยอาการที่พบบ่อย ได้แก่ อาการเศร้าซึม ไม่มีความสุข รู้สึกว่างเปล่า […]

หมวดหมู่ สุขภาพจิต เพิ่มเติม

สำรวจ สุขภาพจิต

ความสัมพันธ์ที่ดี

ทนไม่ไหว แต่ยังต้องทน จะมี วิธีอดทนกับเพื่อนร่วมงาน อย่างไรบ้าง

เคยไหมที่รู้สึกไม่โอเคกับเพื่อนร่วมงาน ทำไมเอาเปรียบฉันแบบนี้? โยนงานอีกแล้วหรือ? การพบเจอเพื่อนร่วมงานที่จัดว่าแย่ และก่อปัญหาที่กระทบตัวคุณ อาจส่งผลให้คุณมีอาการเครียดได้ แม้ปลายทางของปัญหาอาจจบลงได้ง่าย ๆ ด้วยการลาออก แต่ปัจจัยในชีวิตของคนเราที่แตกต่างกัน อาจเป็นเหตุผลให้เราไม่สามารถทำเช่นนั้นได้เหมือนกันทุกคน ทั้งเรื่องภาระค่าใช้จ่าย อายุที่มากขึ้น หรือประสบการณ์ทำงานที่ยังน้อย และถ้าหากคุณยังจำเป็นต้องทนกับเพื่อนร่วมงานเจ้าปัญหา เพื่อรอจังหวะดี ๆ ที่จะเข้ามาล่ะก็ วันนี้ Hello คุณหมอ มี วิธีอดทนกับเพื่อนร่วมงาน มาฝากทุกท่านค่ะ ความเครียดจากที่ทำงาน การไปออฟฟิศเพื่อทำงานสำหรับใครหลายคน อาจไม่ใช่สถานที่ที่ต้องไปเพื่อแสดงออกถึงทักษะ ประสบการณ์ ความรู้และความสามารถในการที่จะร่วมพัฒนาให้องค์กรที่ปฏิบัติงานอยู่สามารถเจริญเติบโตและก้าวหน้าต่อไป เพียงอย่างเดียว เพราะบางครั้ง และหลายครั้ง ที่ทำงานอาจเป็นขุมนรกที่ส่งผลเสียต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ ความเครียดจากที่ทำงานเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่ละออฟฟิศก็จะมีสาเหตุที่ต่างกันออกไป เช่น ระบบของงานที่ไม่เป็นสัดส่วน การทำงานที่ไม่เป็นไปตามข้อตกลงที่เคยคุยกันไว้ตั้งแต่วันแรก หรืออาจมาจากสภาพแวดล้อมในที่ทำงาน เมื่อความไม่สบายใจจากปัญหาเหล่านี้ถูกสะสมเข้าทุกวัน ๆ ก็เสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคเครียด หรืออาจนำไปสู่ภาวะของโรคซึมเศร้าเพราะหาทางออกจากปัญหาเหล่านั้นไม่ได้ ความเครียดจากเพื่อนร่วมงาน อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทั้งชาวออฟฟิศ และไม่ออฟฟิศต้องปวดหัวไปตาม ๆ กัน ก็คือ ปัญหาความเครียดที่มาจากเพื่อนร่วมงาน การอยู่ร่วมกับคนหมู่มาก ย่อมหมายถึงการอยู่กับความแตกต่างนับร้อย ยิ่งอยู่กันหลายคน ก็ยิ่งมีความแตกต่างทางความคิดและทัศนคติที่มากตามไปด้วย หลายคนถูกบูลลี่ในที่ทำงาน หลายคนถูกลั่นแกล้งให้รับผิดที่ไม่ได้ก่อ หรือหลายคนต้องรับภาระงานที่เกินหน้าที่ของตนเอง เนื่องจากเพื่อนร่วมงานที่ไม่เอาไหน หรือการถูกโยนงาน […]


โรควิตกกังวล

วิตกกังวลมากไป อาจเป็นเหตุให้คุณเกิด อาการแน่นหน้าอก

บ่อยครั้งที่จู่ ๆ คนเราก็มี อาการแน่นหน้าอก ขึ้นมา อาจเป็นในช่วงหลังรับประทานอาหาร หรือจากการออกกำลังกายมาอย่างหนัก แต่รู้หรือไม่ว่า หลายครั้งความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ที่กดดันต่าง ๆ ของคุณ ก็สามารถทำให้เกิดอาการแน่นหน้าอกได้ด้วยเช่นกัน ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น มาหาคำตอบกันได้กับบทความนี้จาก Hello คุณหมอ [embed-health-tool-heart-rate] อาการแน่นหน้าอก คืออะไร สภาวะของอาการแน่นหน้าอก คือ ความรู้สึกอึดอัด ไม่สบาย มีอาการปวดหรือเจ็บ แสบร้อนกลางอก รู้สึกถึงความดันอัดแน่น บริเวณหน้าท้องส่วนบนและบริเวณคอส่วนล่าง อาการแน่นหน้าอกนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย และอาจเป็นความเสี่ยงที่มาจากโรคร้ายอย่าง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดหัวใจ หรืออาจนำไปสู่ภาวะหัวใจวายได้ นอกจากนี้อาการแน่นหน้าอกยังอาจมาจากอาการกรดไหลย้อน หลอดลมอักเสบเฉียบพลัน หลอดลมฝอยอักเสบ อาการหอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) เส้นเลือดอุดตันที่ปอด โรคปอดบวม เป็นต้น ถือได้ว่าอาการแน่นหน้าอกนั้น เป็นทั้งความเสี่ยงของโรคร้าย  และมีสาเหตุมาจากโรคภัยไข้เจ็บที่อันตรายอีกด้วย ภาวะวิตกกังวลส่งผลต่อ อาการแน่นหน้าอก อย่างไร อีกหนึ่งสาเหตุของอาการแน่นหน้าอกที่หลายคนกำลังเป็นอยู่นั้น อาจมาจากปัญหาในเรื่องของอาการวิตกกังวล เมื่อความเครียด หรือความกลัว ถูกสะสมไว้มากจนแสดงออกว่ามีความรู้สึกวิตกกังวล ประหม่า หวาดกลัว อาจเป็นผลทำให้เกิดอาการ ดังนี้ หายใจเร็ว หายใจลำบาก หัวใจเต้นรัว วิงเวียนศีรษะ […]


ปัญหาสุขภาพจิตแบบอื่น

รำคาญเสียงรอบข้าง เสี่ยงเข้าสู่ ภาวะมีโซโฟเนีย หรือเปล่านะ?

หากคุณกำลังมีอารมณ์หงุดหงิด รำคาญ กับเสียงเล็กเสียงน้อย เช่น เสียงเคี้ยวอาหารจากคนรอบข้าง เสียงพูดคุย เสียงกดปากกา ฟันธงได้เลย คุณกำลังเข้าสู่ ภาวะมีโซโฟเนีย แน่นอน แต่ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะ วันนี้ Hello คุณหมอ จะพาทุกคนได้รู้ถึงวิธีรับมืออย่างปลอดภัย เพื่อให้การทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันนั้นง่ายขึ้น รู้จักกับ ภาวะมีโซโฟเนีย อาการของคนไม่ชอบเสียง มีโซโฟเนีย (Misophonia)  เป็นคำภาษากรีกโบราณแปลว่า “ความเกลียดชังด้านเสียง” หรืออาการผิดปกติต่อการตอบสนองทางด้านอารมณ์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความวิตกกังวล โรคย้ำคิดย้ำทำ (OCD) กลุ่มอาการทูเร็ตต์ (Tourette syndrome) และอาจได้รับการสืบทอดของภาวะนี้จากทางพันธุกรรมที่รับในครอบครัว เมื่อผู้ป่วยได้รับเสียงบางอย่างโดยเฉพาะเสียงเคี้ยวอาหาร ซึ่งสามารถทำให้พวกเขาเกิดความหงุดหงิด และแสดงกิริยาอาการเกรี้ยวโกรธ ตื่นตระหนก จนหนีเตลิดออกไปจากเสียง หรือบริเวณเหล่านั้น มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งได้เริ่มศึกษาภาวะมีโซโฟเนียนี้ โดยทีมวิจัยจากอังกฤษ ได้นำอาสาสมัครในช่วงวัยผู้ใหญ่จำนวน 20 คน รับเสียงที่แตกต่างกันออกไปแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ  กลุ่มแรกเป็นเสียงทั่วไป เช่น เสียงหายใจ เคี้ยวอาหาร  กลุ่มที่สองอยู่ในเสียงรบกวนระดับสากล เช่น ทารกร้อง ผู้คนกรี๊ดกร๊าด กลุ่มที่สามเสียงที่เป็นกลาง เช่น ฝนตก ฟ้าร้อง ผลสรุปเป็นไปตามที่ทีมวิจัยได้คาดการณ์ […]


ปัญหาสุขภาพจิตแบบอื่น

โรคกลัวการถูกสัมผัส รักษาอย่างไร เพื่อให้เข้าสังคมได้ง่ายขึ้น

ส่วนมาก โรคกลัวการถูกสัมผัส เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ในผู้หญิง มากกว่าเพศอื่นๆ เมื่อจำเป็นที่คุณต้องออกไปทำธุระด้านนอก พบเจอผู้คนที่เสี่ยงต่อการถูกเนื้อต้องตัว ทำให้มีความรู้สึกหวาดกลัว จนจำเป็นต้องใช้ชีวิตอยู่เพียง ลำพังเข้าสังคมได้ยาก ไม่สามารถทำกิจกรรมร่วมกับคนหมู่มากได้ เช่น ไปปาร์ตี้ หรือแฮงค์เอ้าท์ รวมทั้งทำงานร่วมกับบุคคลอื่นๆ ได้ค่อนข้างลำบาก  วันนี้ Hello คุณหมอ มีแนวทางการรักษา เพื่อให้ทุกคนใช้ชีวิตประจำวันกันได้อย่างมีความสุขขึ้น โรคกลัวการถูกสัมผัส (Aphenphosmphobia) คืออะไร เป็นโรคเกี่ยวกับความวิตกกังวลที่มีลักษณะกลัวการถูกสัมผัสร่างกาย โดยเฉพาะกับเพศตรงข้าม หรือคนแปลกหน้าที่ตัวผู้ป่วยไม่ได้รับการยินยอม ทำให้เกิดความไม่สบายใจเมื่อต้องอยู่ในที่คนพลุกพล่าน ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากเหตุการณ์สะเทือนจิตใจตั้งแต่เยาว์วัย หรือช่วงวัยกลางคน เช่น ถูกละเมิดทางเพศ การใช้ความรุนแรง (ทำร้ายร่างกาย) อาการที่เกิดขึ้นเมื่อคุณโดนสัมผัสร่างกาย รู้สึกกลัว วิตกกังวล และอารมณ์โกรธทันที เมื่อถูกการสัมผัส เมื่อถูกสัมผัสร่างกาย จะทำให้อัตราการเต้นของหัวใจถี่ขึ้น เหงื่อออก ร่างกายรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ เป็นลม หมดสติกะทันหัน อาการข้างต้นนี้สามารถส่งผลให้คุณก่อเกิดโรคความกลัวอื่นๆ อีกดังนี้ ความกลัวเชื้อโรค (mysophobia) : เป็นโรคความกลัวที่เกี่ยวข้องกับการสัมผัสสิ่งปนเปื้อน หรือการสัมผัสกับสิ่งที่ไม่สะอาด เช่น ฝุ่นละอองบนโต๊ะ ความกลัวฝูงชน (ochlophobia) : คือภาวะที่ผู้ที่ป่วยมีความกลัวสังคม หรือฝูงชนเยอะๆ ในที่สาธารณะ เพราะจะทำให้เกิดความกังวล หวาดกลัวต่อการโดนสัมผัสจากผู้คนแปลกหน้า หากคุณอยู่กับภาวะนี้เป็นระยะเวลานานโดยไม่ได้รับการรักษา ส่งผลให้คุณเป็นโรคซึมเศร้าได้ ในอนาคต ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพทางด้านจิตใจอย่างมากเลยทีเดียว วิธีรักษาให้อาการบรรเทาลง […]


การเสพติด

เล่มเกมมากไป ระวังกลายเป็น "โรคติดเกม"

การเล่นเกมเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมนันทนาการที่ช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลาย หายเครียดได้ หากบางวันคุณรู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำงาน เพียงหยิบเกมขึ้นมาเล่น ก็ทำให้เรารู้สึกอารมณ์ดีขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม หากคุณเล่นเกมมากจนเกินไปจนติดเกมแบบงอมแงมแล้วล่ะก็ คุณอาจกลายเป็น โรคติดเกม โดยไม่รู้ตัว วันนี้ Hello คุณหมอ จะพามาทำความรู้จักกับโรคนี้กันมากขึ้นพร้อมวิธีการป้องกันก่อนที่คุณจะกลายเป็นโรคนี้แบบถอนตัวไม่ขึ้น ทำความรู้จักกับ โรคติดเกม (Gaming disorder) โรคติดเกม (Gaming disorder) เป็นโรคทางจิตเวชที่ผู้ป่วยมีอาการเสพติดการเล่นเกมจนไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ ต้องการเล่นเกมอย่างต่อเนื่องและเล่นเกมในแต่ละครั้งเป็นระยะเวลายาวนานขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่สนใจกิจกรรมอื่น ๆ โรคนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสมองในส่วนการยับยั้งชั่งใจ เช่น เด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้น ไม่สามารถควบคุมการเล่นเกมได้เนื่องจากพวกเขาขาดความยับยั้งชั่งใจ 5 สัญญาณเตือนว่าคุณกำลังเสี่ยงเป็นโรคติดเกม ตัดขาดจากโรคภายนอก หมกมุ่นอยู่แต่กับการเล่นเกม โดยไม่สนใจในการทำกิจกรรมอื่น ๆ มีพฤติกรรมก้าวร้าว ฉุนเฉียว โมโหง่าย ควบคุมอารมณตัวเองไม่ได้หรือหยุดการเล่นเกมไม่ได้ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าไม่ดีต่อสุขภาพ ไม่ยอมรับตัวเองว่ามีพฤติกรรมเสพติดการเล่นเกม นอนหลับยาก นอนไม่ค่อยหลับรู้สึกอยากเล่นเกมตลอดเวลา เสพติดการเล่นเกม ส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร ปวดคอ ปวดไหล่ การเล่นเกมติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้คุณมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และส่งผลเสียต่อระบบภายในร่างกาย สายตาพร่ามัว อ่อนล้า การใช้สายตาเพ่งหน้าจอนาน ๆ เวลาเล่นเกม ทำให้ดวงตาเกิดอาการพร่ามัว อ่อนล้า หรือรุนแรงถึงขั้นตาอักเสบได้ โรคอ้วน เมื่อร่างกายเคลื่อนไหวน้อยลง ขาดการออกกำลังกายเป็นระยะเวลาติดต่อกันนาน ๆ ทำให้เป็นโรคอ้วนโดยไม่รู้ตัว โรคซึมเศร้า เมื่อเสพติดการเล่นเกมมากจนเกินไป มักทำให้แยกตัวจากสังคม ชอบอยู่โดดเดี่ยว […]


ปัญหาสุขภาพจิตแบบอื่น

ชอบดึงผมบ่อย ๆ รู้ไหมว่าเป็นอาการทางจิต ของ โรคดึงผม

ใครมีพฤติกรรม ชอบดึงผม บ้าง รู้หรือไม่ว่า เมื่อทำแบบนี้ไปนานๆจะทำให้หัวล้าน ผมแหว่ง และเกิดอาการอักเสบของหนังศีรษะ จนส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน  หากคุณมีพฤติกรรมชอบดึงผมตัวเองบ่อยๆแล้วนั้น แสดงว่าคุณอาจเสี่ยงเป็น โรคดึงผม โดยไม่รู้ตัว วันนี้ Hello คุณหมอ จะพาทุกคนไปรู้จักโรคนี้กัน โรคดึงผม (Trichotillomania) คืออะไร โรคดึงผม (Trichotillomania) เป็นโรคที่เกิดจากภาวะผิดปกติทางจิตชนิดหนึ่ง จนกลายมาเป็นอาการย้ำคิดย้ำทำที่แสดงออกโดยการดึงขนต่างๆบนร่างกาย หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกวิธี ก็จะมีอาการเป็นๆ หายๆ และเรื้อรัง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นมากในช่วงที่มีความเครียด ความเศร้า วิตกกังวล หรือช่วงมีประจำเดือน ชอบดึงผมตัวเองบ่อยๆ สาเหตุเกิดจากอะไรกันนะ ความผิดปกติเกี่ยวกับการทำงานของสมองที่เชื่อมโยงระหว่างส่วนควบคุมอารมณ์ ได้แก่ การเคลื่อนไหว ความเคยชิน และการยับยั้งชั่งใจ ความผิดปกติทางอารมณ์และจิตใจ เช่น ความเครียด วิตกกังวล โรคซึมเศร้า และโรคย้ำคิดย้ำทำ เป็นต้น ความไม่พึงพอใจในภาพลักษณ์ของตนเอง และไม่มีความมั่นใจ พันธุกรรม หากมีคนในครอบครัวเคยมีพฤติกรรมดังกล่าว อาจส่งผลมาถึงลูกหลานในรุ่นต่อๆ ไป  สัญญาณเตือนว่าคุณเสี่ยงเป็นโรคดึงผม ดึงผมตนเองโดยรู้ตัว เมื่อดึงผมแล้วจะทำให้รู้สึกดีขึ้นและผ่อนคลายขึ้น ดึงผมตนเองโดยไม่รู้ตัว ส่วนใหญ่จะเกิดในตอนทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ดูหนัง อ่านหนังสือ ฟังเพลง เป็นต้น มีความวิตกกังวลประเภทย้ำคิดย้ำทำ หรือเป็นโรคซึมเศร้าก็เสี่ยงต่อการเป็นโรคดึงผม สมาชิกในครอบครัวเคยเป็นโรคดึงผม โรคเครียด หรือโรคที่มีพฤติกรรมการกินผิดปกติ เช่น โรคกลัวอ้วน […]


สุขภาพจิต

เทคนิคการ รับมือ กับ คนรักที่มี วิกฤตวัยกลางคน อย่างมีประสิทธิภาพ

การรับมือกับ วิกฤตวัยกลางคน (Midlife Crisis) อาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ แต่การ รับมือ กับคนรักที่มี วิกฤตวัยกลางคน อาจจะเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่ามาก ปัญหาชีวิตในช่วงวัยทองนี้ ไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อตัวเองเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง โดยเฉพาะคู่ชีวิตของคุณอีกด้วย บทความนี้ของ Hello คุณหมอ จะมาช่วยให้ทุกคนสามารถรับมือกับปัญหาคนรักที่มี วิกฤตวัยกลางคน ให้สามารถผ่านพ้นได้ด้วยดี แต่จะด้วยวิธีไหนบ้างนั้น มาติดตามที่บทความนี้ได้เลย จะรู้ได้อย่างไรว่าคนรักของคุณกำลังมีวิกฤตวัยกลางคน เนื่องจากปัญหาวิกฤตวัยกลางคน นั้นจะส่งผลกระทบแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล การที่เราจะสามารถรับรู้ได้ทันทีว่าคนไหนมีปัญหา วิกฤตวัยกลางคน จึงอาจจะเป็นเรื่องยาก แต่ก็มีสัญญาณบางอย่าง ที่สามารถพบได้ทั่วไปในหมู่คนที่กำลังเผชิญกับปัญหานี้ เช่น นิสัยหรือพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง อารมณ์แปรปรวน เดี๋ยวดี เดี่ยวร้าย รู้สึกโมโห หรืออารมณ์เสียบ่อยครั้ง วิตกกังวล ไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ หมดอาลัยตายอยาก ก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณของ วิกฤตวัยกลางคน ที่พบได้บ่อย คนที่เคยเข้าร่วมกิจกรรม อาจจะไม่ยอมเข้าร่วมกิจกรรมอีกเลย เช่น ไม่ออกไปเที่ยว ไม่สังสรรค์ เปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จทางด้านการงาน การใช้ชีวิต หรือเงินทอง ตั้งคำถามเกี่ยวกับการตัดสินใจในอดีตของตัวเอง นอกจากนี้ยังมีลักษณะพิเศษของ วิกฤตวัยกลางคน ที่อาจจะพบได้ในเพศใดเพศหนึ่งมากกว่าอีกเพศ เช่น ผู้ชาย มักจะชอบประเมินคุณค่าของตัวเองที่ความสำเร็จทางด้านการงานหรือการเงิน ดูว่าตัวเองมีหน้าที่การงานดีหรือเปล่า หรือมีรถมีบ้านเหมือนกับคนอื่นหรือไม่ ในขณะที่ผู้หญิง มักจะให้ความสนใจกับความสัมพันธ์ มีการประเมินคุณค่าของตัวเองผ่านการเป็นภรรยา เป็นแม่ หรือเป็นทั้งสองอย่าง […]


ปัญหาสุขภาพจิตแบบอื่น

รู้ไว้ มลภาวะทางเสียง อาจเพิ่มความเสี่ยง โรคซึมเศร้า ไม่รู้ตัว

เสียงรบกวนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงก่อสร้างที่ดังรบกวนในเช้าวันหยุดขณะที่คุณกำลังนอนหลับ หรือเสียงพูดคุยจอแจในเวลาที่คุณกำลังต้องการสมาธิ มลภาวะทางเสียงเหล่านี้แม้ว่าจะสร้างความรำคาญให้คุณ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ให้เป็นอันตรายอะไรจนต้องระมัดวัง แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า มลภาวะทางเสียง นั้นอาจทำให้เรากลายเป็นโรคซึมเศร้าได้โดยที่เราไม่รู้ตัว อย่างไรจึงจะเรียกว่า มลภาวะทางเสียง มลภาวะทางเสียงโดยทั่วไปแล้ว จะหมายถึงระดับเสียงที่ดังอย่างต่อเนื่อง และทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อมนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ องค์การอนามัยโลก (World Health Organization) ได้ให้ข้อมูลว่า ระดับเสียงที่ต่ำกว่า 70 เดซิเบล นั้นจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ และระดับเสียงที่มากกว่า 85 เดซิเบลขึ้นไป หากฟังอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานกว่า 8 ชั่วโมง อาจจะเป็นอันตรายได้ หากคุณต้องทำงานนานกว่า 8 ชั่วโมง ในบริเวณที่ใกล้เคียงกับสถานที่ที่มีเสียงรบกวน เช่น ติดถนน หรือติดกับไซต์ก่อสร้าง ก็อาจทำให้คุณได้รับอันตรายจากมลภาวะทางเสียงได้ มลภาวะทางเสียงที่คุณอาจจะพบเจอได้มีดังต่อไปนี้ เสียงการจราจรบนท้องถนน เช่น เสียงรถ เสียงแตร เสียงรถฉุกเฉิน เสียงจากการก่อสร้าง เช่น เสียงขุดเจาะ หรือเสียงเครื่องจักรอื่นๆ เสียงจากสนามบิน ในขณะที่เครื่องบินกำลังบินขึ้น หรือลงจอด เสียงจากที่ทำงาน โดยเฉพาะหากทำงานในสถานที่ที่เปิดโล่ง การฟังเสียงเพลงดังเป็นเวลานาน เสียงจากโรงงานอุตสาหกรรม เช่น เสียงพัดลม หรือเครื่องจักร เสียงจากสถานีรถไฟ เสียงจากเครื่องใช้ในบ้าน เช่น เครื่องดูดฝุ่น เครื่องตัดหญ้า หรือการเปิดเพลงดังเป็นเวลานานๆ เสียงจากพลุหรือดอกไม้ไฟ มลภาวะทางเสียงเกี่ยวข้องกับโรคซึมเศร้าอย่างไร เสียงรบกวน หรือมลภาวะทางเสียงนั้นเป็นตัวการในการสร้างความรำคาญและความตึงเครียดทางสภาพแวดล้อม การเปิดรับกับมลภาวะทางเสียงในระดับที่ดังเกินกำหนด หรือเป็นเวลานาน […]


ปัญหาสุขภาพจิตแบบอื่น

จากจอหนัง สู่ชีวิตจริง! โรคอลิซในดินแดนมหัศจรรย์ ที่คุณควรรู้จัก

เชื่อว่าหลายๆ คน อาจเคยดูหนังหรือได้ยินนิทานเรื่องอลิซในดินแดนมหัศจรรย์กันมาบ้าง บางคนถึงกับจินตนาการว่าอยากเป็นสาวสวยวัยใสอย่างอลิซที่นั่งจิบน้ำชาในดินแดนแปลกประหลาด และยังสามารถพูดคุยกับสัตว์ต่างๆ ได้อีกด้วย ความเป็นจริงนั้นอาจไม่ใช่แค่สิ่งที่คุณคิด แต่กลับมีผู้ป่วย โรคอลิซในดินแดนมหัศจรรย์ ซึ่งถือเป็นอาการทางจิต และความผิดปกติอย่างหนึ่ง ไปรู้จักกับโรคนี้ให้มากขึ้นกับ Hello คุณหมอ กันเถอะ มารู้จักกับโรคแปลกใหม่ ที่ชวนให้คุณต้องอึ้ง อลิซในดินแดนมหัศจรรย์ (Alice in Wonderland syndrome) ไม่ใช่แค่ชื่อหนังแต่เป็นชื่อของโรคทางจิตกลุ่มใหม่ที่มีสาเหตุมาจากการเจ็บป่วยทางจิต ระบบประสาท และการทำงานของสมองส่งผลให้เห็นภาพหลอนมองเห็นวัตถุเคลื่อนไหวได้ รวมถึงรู้สึกได้ว่าตัวคุณเองดูเล็กลง หรือใหญ่ขึ้นกว่าความเป็นจริง ทางการแพทย์ได้พบผู้ป่วยรายหนึ่งเป็นเด็กผู้ชายอายุเพียง 6 ขวบมีการรับรู้ทางสายตาที่มองเห็นสิ่งรอบตัวอยู่ไกลขึ้นและมีขนาดที่เล็กลง โดยในเฉพาะช่วงเย็นของวัน ซึ่งอาการนี้เกิดขึ้นเพียง 15- 20 นาทีเท่านั้น สันนิษฐานว่าคลื่นไฟฟ้าในสมองของเด็กมีผลเป็นลบจึงทำให้เกิดอาการมองเห็นที่ผิดเพี้ยนขึ้น ดร.จอห์น ทอดด์ (Dr. John Todd) จิตแพทย์ชาวอังกฤษได้ระบุไว้ในปี 1950 เขาได้ตั้งข้อสังเกตของผู้ป่วยที่มีอาการนี้ และเห็นว่าเป็นอาการคล้ายในนวนิยายของ ลูอิสคาร์โรลล์ (Lewis Carroll’s) ในเรื่องอลิซในดินแดนมหัศจรรย์ เขาเชื่อว่ามีการไหลเวียนของเลือดที่ไม่ทั่วถึงโดยเฉพาะระบบประสาทของสมอง จึงทำให้เกิดการประมวลผลสภาพแวดล้อมรอบข้างต่างไปจากเดิม นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีก ได้แก่ อาการซึมเศร้า โรคจิตเภท ความตึงเครียด ไมเกรน การใช้ยาหลอนประสาทเกินขนาด โรคลมบ้าหมู […]


ปัญหาสุขภาพจิตแบบอื่น

โรคนิมโฟมาเนีย คลั่งไคล้ในเซ็กส์

หากใครมีอาการคลั่งไคล้ในเซ็กส์ หรือที่เรียกกันว่า โรคนิมโฟมาเนีย อยู่นั้นไม่ต้องเป็นกังวล หรือรู้สึกว่าตนเองแปลกประหลาดกว่าผู้อื่น เพราะถึงแม้จะเป็นเรื่องของอารมณ์ทางเพศที่ควบคุมได้ค่อนข้างยาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ารักษาให้หายไม่ได้ ถึงเวลาที่ทุกคนควรเปิดใจทำความรู้จัก และหาวิธีรับมือกับอาการคลั่งไคล้ในเซ็กส์ [embed-health-tool-heart-rate] สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคนิมโฟมาเนียโดยไม่รู้ตัว ในปัจจุบันมีการเปิดให้เพศทางเลือกได้มีสิทธิ อิสระต่างๆ ไม่ว่าจะชาย หญิง สาวประเภทสอง ในการทำกิจกรรมร่วมกันได้มากขึ้น เช่น การเลือกจำแหน่งหน้าที่การทำงาน การคบหาดูใจ การแต่งตัวตามแฟชั่นอย่างไม่มีจำกัด และอีกเรื่องหนึ่งนั่นก็ คือ การมีเซ็กส์ ขณะเดียวกันยังมีผู้คนบางกลุ่มที่คุณอาจคาดไม่ถึง และมีอยู่ในสังคมรอบตัวของเราจริงๆ พวกเขาเหล่านี้มักมีความหลงไหลในการมีเพศสัมพันธ์ที่มากเกินกว่าคนปกติทั่วไป หรือที่เรียกว่า โรคนิมโฟมาเนีย (Nymphomania) ซึ่งเป็นโรคทางจิตที่มีพฤติกรรมความต้องการทางเพศสูง โดยอาจเกิดได้จากการชักชวน หรือการมีเซ็กส์บ่อยจนทำให้เกิดความเคยชินมีอารมณ์เกินกว่าที่จะควบคุม รวมถึงความสมดุลของสารเคมีในสมองผิดปกติ และการถ่ายทอดพันธุกรรมภายในครอบครัวที่สามารถส่งผลให้คุณเป็นนิมโฟมาเนียได้ ในบางครั้งอาจเกิดจากความเครียด ความวิตกกังวล จนทำให้ผู้ป่วยใช้เซ็กส์เป็นทางออกของปัญหาในการระบายอารมณ์ภายในจิตใจได้อีกด้วย อาการแรกเริ่มที่ก่อให้เกิดโรคนิมโฟมาเนีย  ไม่มีสมาธิ วอกแวกง่าย ช่วยตนเองให้สำเร็จความใคร่อยู่บ่อยครั้ง เสพสื่ออนาจาร จากสื่อต่างๆ เช่น เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง ภาพที่มีแบบเปลือยโป๊ มีคู่นอนหลายคน รวมถึงการนอกใจคู่รัก มีเพศสัมพันธ์ด้วยความรู้สึกอับอาย ซึมเศร้าหรือแสดงอาการวิตกกังวล โรคนิมโฟมาเนียอาจเกิดมาจากปัจจัยทางพันธุกรรมที่เคยมีประวัติทางจิต เหตุการณ์ในชีวิตบางอย่างที่เคยเกิดขึ้นให้รู้สึกจดจำฝังใจ ความเจ็บป่วยทางจิต และความเครียดสะสม วิธีรักษาความต้องการทางเพศให้สมดุล  การบำบัดพฤติกรรมทางปัญญาจากนักบำบัด ยาคลายกังวล ยารักษาอาการซึมเศร้า และอาการทางจิต โดยได้รับการอนุญาตจากแพทย์เท่านั้น […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน