ตาเข (Strabismus) เป็นภาวะดวงตาที่พบได้บ่อยที่สุดในเด็กทารก ดวงตาทั้ง 2 ข้างไม่สามารถมองในจุดเดียวกันในเวลาเดียวกันได้ โดยดวงตาข้างหนึ่งจะมองไปด้านข้าง และดวงตาอีกข้างหนึ่งอาจมองไปทางซ้ายหรือขวา
คำจำกัดความ
ตาเข (Strabismus) คืออะไร
ตาเข (Strabismus) เป็นภาวะดวงตาที่พบได้บ่อยที่สุดในเด็กทารก ดวงตาทั้ง 2 ข้างไม่สามารถมองในจุดเดียวกันในเวลาเดียวกันได้ โดยดวงตาข้างหนึ่งจะมองไปด้านข้าง และดวงตาอีกข้างหนึ่งอาจมองไปทางซ้ายหรือขวา
อย่างไรก็ตาม อาการตาเข อาจส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการปวดศีรษะ มองเห็นไม่ชัด หากไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ อาจส่งผลให้สูญเสียการมองเห็นบางส่วนไปได้
พบได้บ่อยเพียงใด
โดยส่วนใหญ่มักพบผู้ป่วยที่มี อาการตาเข ตั้งแต่กำเนิด แต่จะได้รับการการยืนยันการวินิจฉัยโรคเมื่ออายุครบ 3 เดือน
อาการ
อาการของ อาการตาเข
อาการตาเข เกิดขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อรอบดวงตาไม่ทำงานประสานกัน ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการ ดังต่อไปนี้
- ตาเขหรือตาเหล่
- สายตายาว
- รู้สึกเจ็บบริเวณรอบดวงตา
- ปวดศีรษะ
- มีอาการตามัว เห็นภาพไม่ชัด
ควรไปพบหมอเมื่อใด
หากคุณมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการใด ๆ ตามที่ระบุข้างต้น หรือมีคำถาม โปรดปรึกษาแพทย์ ร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ของคุณ
สาเหตุ
สาเหตุของ อาการตาเข
ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของ อาการตาเข โดยส่วนใหญ่มักเป็นโดยกำเนิด รวมถึงสาเหตุและปัจจัยอื่น ๆ ดังต่อไปนี้
- สายตา ในผู้ที่มีสายตาผิดปกติ เช่น สายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง การที่ต้องใช้สายตาในการมองวัตถุที่ค่อนข้างสูงอาจส่งผลต่อการมองเห็นและอาจเสี่ยงต่อ อาการตาเข ได้
- การติดเชื้อ เช่น โรคหัด โรคเรติโนบลาสโตมา
- พันธุกรรม เช่น มีพัฒนาการเจริญเติบโตช้า กลุ่มอาการดาวน์หรือดาวน์ซินโดรม
- อื่น ๆ เช่นปัญหาเกี่ยวกับด้านสมองหรือเส้นประสาท
การวินิจฉัยและการรักษา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
การวินิจฉัย อาการตาเข
เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยที่เหมาะสม คุณหมออาจทำการตรวจดังต่อไปนี้
- ตรวจร่างกาย รวมถึงการตรวจดวงตาอย่างละเอียด
- ตรวจสมองและระบบประสาท
- ทดสอบแสงสะท้อนจากแก้วตา
- ตรวจแบบเปิดตา/ปิดตา
- ตรวจจอตา
- ตรวจดวงตาขั้นพื้นฐาน
- ตรวจวัดสายตา
การรักษา อาการตาเข
วิธีการรักษา อาการตาเข มีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับวิสัยทัศน์การมองเห็นให้ดียิ่งขึ้น ในกรณีกลุ่มผู้ใหญ่ที่มี อาการตาเข เพียงเล็กน้อย ซึ่งอาจจะเป็น ๆ หาย ๆ แพทย์อาจแก้ปัญหาได้ด้วยการสวมใส่แว่นตาและบริหารกล้ามเนื้อดวงตา เพื่อทำให้ดวงตาไม่เข แต่ถ้ามีอาการรุนแรงมากขึ้น อาจต้องเข้ารับผ่าตัดเพื่อปรับสมดุลให้ดวงตาอีกครั้ง หากอาการตาเหล่เกิดขึ้นจากภาวะตามัว ก็จำเป็นต้องแก้ปัญหาเรื่องตามัวก่อน การผ่าตัดรักษาอาการตาเหล่ถึงจะประสบผลสำเร็จ รวมถึงวิธีการรักษาด้านอื่น ๆ ดังต่อไปนี้
- ในกรณีเด็กที่มีสายตายาว แพทย์อาจแนะนำให้ใส่แว่นตาเพื่อปรับสายตาให้มองเห็นได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- บริหารสายตา การออกกำลังกาย จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อบริเวณต่าง ๆ ภายในร่างกายเคลื่อนไหวได้ดี อาจช่วยให้ดวงตาทำงานร่วมกันได้ดียิ่งขึ้น
- การผ่าตัด แพทย์อาจผ่าตัดซ่อมแซมกล้ามเนื้อตา เพื่อให้ดวงตามองเห็นได้อย่างถูกต้อง
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตัวเอง
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตัวเองเพื่อบรรเทาอาการตาเข
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการดูแลรักษาตัวเองดังต่อไปนี้ จะช่วยให้รับมือกับอาการตาเขได้ดียิ่งขึ้น
- บริหารดวงตาตามคำแนะนำจากจักษุแพทย์ เพื่อเสริมความแข็งแรงและเพิ่มสมดุลให้กับดวงตา
- ใช้ที่คาดตาปิดตาข้างที่ใช้งานได้ดีไว้ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับดวงตาข้างที่อ่อนแอ
- สวมใส่แว่นตาที่สั่งตัดเป็นพิเศษ เพื่อปรับการมองเห็นให้ชัดเจน
- จัดการกับความเครียดเรื้อรังในชีวิต
- ออกกำลังกายและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างสม่ำเสมอ