โรคตาแดงหรือเยื่อยุตาอักเสบ คือ อาการของเยื่อบุตาอักเสบ ซึ่งเยื่อบุลูกตาเป็นเยื่อเมือกใสๆ ที่อยู่ด้านในของเปลือกตา และครอบคลุมด้วยส่วนสีขาวของเปลือกตา เยื่อบุตาอักเสบมักเกิดจากการแพ้แบคทีเรียหรือไวรัส โดยอาจจะเป็นเพียงตาข้างใดข้างหนึ่ง หรืออาจจะเป็นทั้ง 2 ข้างก็ได้เช่นกัน เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้าเปลือกตาอาจจะบวมและดวงตาอาจจะกลายเป็นสีแดง มีอาการคัน และระคายเคือง
- เซลล์เนื้อเยื่ออักเสบ (Cellulitis)
เซลล์เนื้อเยื่ออักเสบ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของอาการเปลือกตาบวม อาการบวมของเปลือกตาที่เกิดจากเซลล์เนื้อเยื่ออักเสบมี 2 ประเภทด้วยกัน คือ เนื้อเยื่ออักเสบบริเวณหน้าเยื่อกั้นเบ้าตา (Preseptal cellulitis) และ เนื้อเยื่อเบ้าตาอักเสบ (Orbital cellulitis)
เนื้อเยื่ออักเสบบริเวณหน้าเยื่อกั้นเบ้าตา (Preseptal cellulitis) มักจะเกิดจาการติดเชื้อแบคทีเรีย โดยผู้ป่วยมักมีรอยแดง บวม ปวดที่ดวงตาข้างใดข้างหนึ่ง ส่วน เนื้อเยื่อเบ้าตาอักเสบ (Orbital cellulitis) อาจเกิดจากแบคทีเรียในรูปแบบติดเชื้อไซนัสบุกรุกพื้นที่รอบๆ กระดูกที่อยู่บริเวณเบ้าตา สำหรับอาการที่เกิดขึ้นก็คือ อาการตาบวมและปวดเมื่อขยับตาไปมา
- โรคคอพอกตาโปน หรือ โรคเกรฟส์ (Graves’ disease)
คนที่เป็นโรคคอพอกตาโปน หรือปัญหาต่อมไทรอยด์อื่นๆ มักจะมีอาการบวมที่เปลือกตา โรคนี้อาจจะทำให้เกิดอาการตาโปน แม้ว่าโรคนี้จะส่งผลกระทบต่อดวงตาข้างใดข้างหนึ่งมากกว่ากัน แต่ก็อาจก่อความรำคาญให้ตาทั้ง 2 ข้าง บางครั้งโรคคอพอกตาโปนอาจทำให้การเคลื่อนไหวของดวงตาลดลง หรือมองเห็นภาพซ้อน ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ (Hypothyroidism) อาจทำให้ตาทั้ง 2 ข้างปูดหรือบวมตุ่ยได้
โรคเริมที่ตาคืออาการอักเสบของกระจกตา ซึ่งเป็นส่วนที่คลุมอยู่ด้านหน้าสุดของดวงตา เริมที่ดวงตา หรือที่เรียกว่า เริมตา สามารถสร้างแผลเจ็บปวดที่เปลือกตาหรือผิวตา และทำให้เกิดอาการอักเสบที่กระจกตา รวมทั้งเกิดอาการบวมของเปลือกตา
วิธีรักษาอาการเปลือกตาบวม (Swollen Eyelid)
การไปหาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญถือว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด เนื่องจากจะได้รับการรักษาได้อย่างตรงจุด และถ้าหากมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นแนะนำว่ารีบไปปรึษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นการดีที่สุด
- เกิดความเจ็บปวดในดวงตา
- การมองเห็นไม่ชัด
- วิสัยทัศน์แย่ลง
- มองเห็นเส้นใยใสๆ ลอยอยู่ในลูกตา
- รู้สึกว่ามีบางสิ่งติดอยู่ในดงตา
- ไม่สามารถขยับกล้ามเนื้อตา
ยังมีเงื่อนไขบางอย่างที่อาจทำให้ตาบวมจนต้องไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นั่นก็คือ โรคมะเร็งตา ซึ่งถือเป็นโรคที่หายาก บางครั้งมันอาจเหมือนเปลือกตาบวมแต่ความจริงแล้วเป็นความดันจากมะเร็ง
นอกจากการวินิจฉัยของแพทย์แล้วตัวเราเองก็สามารถสังเกตอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้เช่นกัน ด้วยการสังเกตความแตกต่างที่เกิดขึ้น ดังนี้
- อาการที่มาก่อนหรือหลัง
- มีหรือไม่มีอาการปวด
- ก้อนที่ระบุได้หรืออาการบวมทั่วไป
- ไม่สามารถย้ายกล้ามเนื้อตาหรือการมองเห็นเปลี่ยนแปลง
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย