โดยทั่วไป ผู้หญิงในระยะก่อนหมดประจำเดือน (Perimenopause ) จะมีประจำเดือนมาไม่ปกติเป็นเวลาหลายเดือนหรือเป็นปี อาการที่พบบ่อย คือ ประจำเดือนมาน้อยและดูคล้ายกับตกขาวปนเลือด นอกจากนี้ การบำบัดอาการของผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนด้วยฮอร์โมนทดแทน (Hormone replacement therapy หรือ HRT) ก็อาจทำให้มีตกขาวปนเลือดได้เช่นกัน
วิธีรักษา ไปพบคุณหมอเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในวัยหมดประจำเดือน เนื่องจากอาการเลือดออกหรือตกขาวปนเลือด อาจเป็นสัญญาณของภาวะสุขภาพอื่น ๆ เช่น ภาวะเลือดออกหลังวัยหมดระดู (Postmenopausal bleeding) โรคมะเร็งมดลูก (Uterine Cancer)
-
โรคทางต่อมไทรอยด์ (Thyroid disease)
อาการประจำเดือนผิดปกติที่ทำให้มีตกขาวปนเลือดออกมาจากช่องคลอดในช่วงที่ไม่เป็นประจำเดือน อาจเกิดจากโรคต่อมไทรอยด์ เนื่องจากต่อมไทรอยด์ที่มีหน้าที่ควบคุมการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นอัตราการเต้นของหัวใจไปจนถึงรอบเดือน หากต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไปหรือน้อยเกินไป ก็อาจส่งผลให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้
วิธีรักษา การรักษาโรคต่อมไทรอยด์อาจทำได้ด้วยการใช้ยาและการผ่าตัด ขึ้นอยู่กับอายุ ความรุนแรงของอาการ และปัจจัยอื่น ๆ จึงควรปรึกษาคุณหมอเพื่อหาวิธีรักษาที่เหมาะสมกับภาวะสุขภาพของตัวเอง
เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมน ส่งผลให้เกิดก้อนซีสต์หรือถุงน้ำขนาดเล็กจำนวนมากในรังไข่ จนกระทบต่อการทำงานของรังไข่ ทำให้ประจำเดือนมาผิดปกติ และอาจมีตกขาวปนเลือด ร่วมกับมีอาการอื่น ๆ เช่น มีขนขึ้นดกตามร่างกาย
วิธีรักษา คุณหมออาจแนะนำให้ใช้ยาคุมกำเนิด การบำบัดด้วยฮอร์โมนโปรเจสติน (Progestin Therapy) เพื่อให้ประจำเดือนกลับมาเป็นปกติ นอกจากนี้ยังอาจสั่งจ่ายยาที่ช่วยปรับปรุงรอบการตกไข่และยาที่ช่วยลดขนตามร่างกาย
อาการตกขาวปนเลือด อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อโรคอื่น ๆ บริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ รวมไปถึงการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ เช่น
- ภาวะช่องคลอดอักเสบ (Vaginitis) เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา หรือเชื้อโปรโตซัวภายในช่องคลอด ทำให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อน คันระคายเคืองภายในช่องคลอด มีตกขาวปนเลือด
- ภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ (Pelvic Inflammatory Disease: PID) เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น เชื้อคลาไมเดีย ภายในอวัยวะสืบพันธุ์ของผู้หญิง อาจทำให้มีเลือดออกผิดปกติในช่วงที่ไม่ได้เป็นประจำเดือนและหลังมีเพศสัมพันธ์
- โรคหนองในแท้ (Gonorrhea) เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียไนซีเรียโกโนเรีย (Neisseria gonorrhoeae) อาจทำให้มีตกขาวปนเลือดในช่วงไม่มีประจำเดือน ประจำเดือนมาไม่ปกติ ตกขาวเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือสีเขียว
- โรคหนองในเทียม (Chlamydia) เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียคลามัยเดีย (Chlamydia Trachomatis) อาจทำให้มีเลือดออกจากช่องคลอดในช่วงที่ไม่เป็นประจำเดือนและหลังมีเพศสัมพันธ์ ร่วมกับอาการปวดท้องส่วนล่างและเจ็บขณะถ่ายปัสสาวะ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย