การดูแลและทำความสะอาดผิว

ผิวหนัง คืออวัยวะสำคัญที่ช่วยปกป้องเราจากฝุ่นละอองและสิ่งแปลกปลอมอันตรายต่าง ๆ ภายนอก การดูแลและทำความสะอาดผิว จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรละเลย มาเรียนรู้เทคนิคเกี่ยวกับ การดูแลและทำความสะอาดผิว พร้อมกันกับ Hello คุณหมอ สิคะ

เรื่องเด่นประจำหมวด

การดูแลและทำความสะอาดผิว

ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า ดีต่อผิวหน้าจริงหรือไม่?

หลายคนเชื่อว่าการ ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า เป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับผิวหน้าที่สุด เพราะน้ำเปล่าเป็นสารธรรมชาติ ปราศจากสารเคมีเจือปน มีความอ่อนโยน เหมาะกับผิวบอบบางแพ้ง่าย และผิวผู้ที่เป็นสิว หลายคนจึงเชื่อว่าการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียวเหมาะสมที่สุดสำหรับผิวหน้า แต่ความเชื่อนี้จะจริงหรือเท็จประการใด บทความนี้ Hello คุณหมอ มีคำตอบให้คุณค่ะ ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า ดีต่อผิวหน้าจริงหรือไม่? การล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า อาจไม่ได้เหมาะสมสำหรับผิวหน้าเสมอไป เพราะตลอดทั้งวันเราเจอทั้งมลภาวะต่าง ๆ และฝุ่นละออง ยิ่งคุณผู้หญิงที่แต่งหน้าด้วยล่ะก็ การใช้น้ำเปล่าทำความสะอาดผิวหน้าเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถดูดสิ่งสกปรกหรือเครื่องสำอางค์บนผิวหน้าออกได้อย่างสะอาดหมดจรด และอาจเสี่ยงต่อการเกิดการอุดตันบริเวณรูขุมขนอีกด้วย ดังนั้นอาจต้องใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าควบคู่ด้วย แต่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่มีมาตรฐาน ปลอดภัยต่อผิวหน้า และเหมาะสมกับลักษณะของผิวหน้าคุณ อย่างไรก็ตาม ผิวหน้าของแต่ละคนมีปัญหาแตกต่างกัน การทำความสะอาดผิวหน้าด้วยน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียวอาจเหมาะสำหรับบางคน ทั้งนี้ทั้งนั้นให้คุณลองสังเกตใบหน้าของตนเองว่าหากทำความสะอาดผิวหน้าด้วยน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียว เหมาะกับผิวหน้าของคุณหรือไม่ หากไม่เหมาะสมให้ปรับเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าเพื่อความสมดุลของผิว 5 คุณประโยชน์จากการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า น้ำเปล่า มีประโยชน์ที่ดีต่อผิวหน้ามากกว่าที่คุณคิด โดย 5 คุณประโยชน์จากการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า มีดังต่อไปนี้ สะดวกและง่ายต่อการทำความสะอาดผิวหน้า  ลดการเสียดสีกับผิวหน้า ช่วยลดการระคายเคืองกับบริเวณผิวหนัง ปลอดภัยต่อผิวหน้า เพราะมีน้ำมีความอ่อนโยนปราศจากสารเคมี เกิดการระคายเคืองน้อยกว่าเมื่อเทียบกับใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า  ลดความเสี่ยงในการลอกคราบน้ำมันตามธรรมชาติของผิว ช่วยปกป้องเกราะป้องกันผิว ไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ลดต้นทุนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ขั้นตอนง่าย ๆ ในการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียว ในตอนเช้าให้ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าสะอาด และซับหน้าด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ซับเบา ๆ ให้แห้งที่ผิวหน้า จะช่วยลดการเสียดสีและลดการระคายเคืองต่อผิวหนัง  ในช่วงตอนกลางคืน […]

สำรวจ การดูแลและทำความสะอาดผิว

การดูแลและทำความสะอาดผิว

ทาครีมกันแดดที่รอยสัก วิธีรักษารอยสักให้สวยแม้โดนแดด

วิธีรักษารอยสัก ให้คมชัดและมีสีสวยเหมือนเพิ่งสักมาใหม่อยู่เสมอแม้จะต้องโดนแสงแดด คือ ทาครีมกันแดดที่รอยสัก เพราะแสงแดดอาจทำให้สีของหมึกสักซีดจางลงได้ นอกจากนี้ การโดนแสงแดดเป็นเวลานาน ก็อาจทำให้รอยสักไหม้เพราะแสงแดดได้ด้วย ดังนั้น การทาครีมกันแดดที่รอยสักจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้มีรอยสักไม่ควรละเลย ทาครีมกันแดดที่รอยสัก สำคัญอย่างไร อย่างที่ทราบกันดีว่า ดวงอาทิตย์ปล่อยรังสีอัลตราไวโอเลต หรือรังสียูวี (UV Radiation) 2 ชนิด คือ รังสียูวีเอ  และรังสียูวีบี ซึ่งรังสีเหล่านี้อาจทำลายผิวหนังและรอยสัก แต่การทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะเวลาต้องเผชิญกับแสงแดดอาจช่วยป้องกันรังสีรังสียูวีเอ และรังสียูวีบี ไม่ให้ทำลายผิวและส่งผลเสียต่อรอยสัก รังสียูวีเอ รังสียูวีเอมีแนวโน้มที่จะทะลุผ่านผิวหนังได้ลึกกว่ารังสียูวีบี จึงอาจความเสียหายที่ยาวนานกว่า โดยรังสียูวีเออาจทำให้ผิวแก่กว่าวัย นำไปสู่การเกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยบริเวณรอยสัก นอกจากนี้ รังสียูวีเอยังอาจทำให้หมึกสักหลายประเภทจางลงได้ ซึ่งหมึกสีอ่อนอาจจางเร็วกว่าหมึกสีเข้ม หมึกสีขาวและหมึกสีพาสเทลจะจางเร็วที่สุด หรือแม้แต่หมึกสักสีดำ หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี ก็สามารถจางหายไปได้เมื่อเวลาผ่านไป รังสียูวีบี รังสียูวีบีเป็นตัวการที่สร้างความเสียหายให้กับผิวหนังชั้นบนสุด เพราะอาจทำให้ผิวไหม้ได้ หากผิวบริเวณที่ถูกแดดเผาเป็นผิวบริเวณที่รอยสัก ก็อาจทำให้รอยสักเสียหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหาเป็นรอยสักใหม่ รอยสักใหม่เป็นแผลเปิดที่ไม่ควรโดนแสงแดดโดยตรงจนกว่าจะหายดี เพราะหากรอยสักใหม่ถูกแดดเผาอาจต้องใช้เวลารักษานานขึ้น อีกทั้งยังอาจเกิดอาการคันและพุพองได้อีกด้วย หรือต่อให้เป็นรอยสักเก่า บนร่างกายที่สักมานานแล้ว หากถูกแดดเผาก็อาจทำให้เกิดความเสียหายได้อย่างยาวนานเช่นกัน  เพราะการได้รับรังสียูวีบีอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน และการถูกแดดเผาอาจทำให้รอยสักเสียหายได้เมื่อเวลาผ่านไป วิธีป้องกันรอยสักใหม่จากแสงแดด แน่นอนว่า หากมีรอยสักใหม่จะไม่สามารถทาครีมกันแดดได้จนกว่ารอยสักจะหายสนิท ดังนั้น ควรคลุมรอยสักด้วยเสื้อผ้าหลวม ๆ แทน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้รอยสักใหม่โดนแดดโดยตรง สิ่งสำคัญที่ควรรู้เอาไว้ก็คือ รอยสักใหม่เป็นแผลเปิด ครีมกันแดดที่มีสารเคมีและแร่ธาตุต่าง […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ไฮดราเฟเชียล คืออะไร มีประโยชน์อย่างไรต่อผิวหน้า

ไฮดราเฟเชียล (HydraFacial) เป็นนวัตกรรมฟื้นฟูผิวหน้าด้วยโมเลกุลของน้ำ (H2O) ซึ่งช่วยทำให้ผิวหน้ดูอ่อนเยาว์ ขาว ใส ไร้ริ้วรอย ซึ่งขั้นตอนในการทำไฮดราเฟเชียลนั้นมีอยู่ด้วยกันเพียง 3 ขั้นตอน ใช้เวลาทำไม่นาน ให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างชัดเจน ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำเสร็จ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ และควรดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม ทำความรู้จักกับ ไฮดราเฟเชียล  ไฮดราเฟเชียล คือ การรักษาผิวที่มีสิทธิบัตรเฉพาะในสปาทางการแพทย์และสำนักงานโรคผิวหนัง บางครั้งเรียกว่า “Hydradermabrasion” เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการขัดผิวแบบไมโครเดอมาเบรชั่น (Microdermabrasion) ที่จับคู่กับเซรั่มที่ให้ความชุ่มชื้น ไฮดราเฟเชียล จะช่วยทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึก ผลัดเซลล์ผิว และให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว  ช่วยรักษาสภาพผิวที่หลากหลาย รวมถึงสิว ความแห้งกร้าน และริ้วรอย ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้จะคล้ายคลึงกับการดูแลผิวหน้าจากการทำสปาแต่ผลลัพธ์อาจชัดเจนกว่า ขั้นตอนในการทำไฮดราเฟเชียล  ไฮดราเฟเชียลต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านความงามที่มีใบอนุญาตหรือเป็นแพทย์ผิวหนัง ซึ่งขั้นตอนในการทำไฮดราเฟเชียล  มีอยู่ 3 ขั้นตอนด้วยกัน ดังนี้ ผู้ให้บริการจะล้างสิ่งสกปรก เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว และน้ำมันส่วนเกินออกจากรูขุมขนและผิวหนังด้วยเครื่องมือที่มีหัวดูดและปล่อยน้ำเหมือนกระแสน้ำวน ผู้ให้บริการจะใช้น้ำยาผลัดเซลล์ผิวมาทาบนใบหน้า และใช้เครื่องเพื่อผลัดเซลล์ผิวและฟื้นฟูสภาพผิว จากนั้นจึงใช้หัวดูดสุญญากาศดูดสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขนอีกครั้ง หลังทำความสะอาดและผลัดเซลล์ผิวเสร็จแล้ว ผู้ให้บริการจะทาเซรั่มที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว หลังจากทำไฮดราเฟเชียลแล้ว สามารถดูแลผิวด้วยวิธีการอื่น ๆ ควบคู่ไปได้ด้วย เช่น ฟิลเลอร์ผิวหนัง บำบัดด้วยแสง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นแค่ตัวช่วยเสริมเท่านั้น […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ผิวหน้าแห้งกร้าน สาเหตุ และการป้องกัน

ผิวหน้าแห้งกร้าน เป็นปัญหาสุขภาพผิวที่เกิดจากการที่ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมาปกป้องผิวหน้าในปริมาณที่ไม่เพียงพอ จนส่งผลให้ผิวหน้าแห้ง แตก ขาดความชุ่มชื้น พบได้บ่อยในช่วงหน้าหนาว แต่ก็อาจจะเกิดขึ้นได้จากสาเหตุอื่น อย่างไรก็ตาม การดูแลผิวหน้าอย่างเหมาะสม เช่น การใช้ครีมทาบำรุงผิว การดื่มน้ำให้เพียงพอ การนอนหลับพักผ่อิน อาจช่วยให้สุขภาพผิวฟื้นฟูกลับมาแข็งแรง ฉ่ำน้ำ ไม่แห้งแตกได้ [embed-health-tool-bmr] ผิวหน้าแห้งกร้าน เกิดจากอะไร โดยปกติแล้ว ใต้ชั้นผิวจะมีเซลล์ซีบัม (Sebum) ที่คอยทำหน้าที่ผลิตต่อมน้ำมันออกมา เพื่อรักษาความชุ่มชื้น ให้แก่ใบหน้า และเพื่อช่วยป้องกันการติดเชื้อจากสิ่งสกปรกที่อยู่บนใบหน้า แต่ขณะเดียวกัน หากมีปัจจัยบางอย่างเข้ามาขัดขวางการทำงานของซีบัม ก็สามารถอาจส่งผลให้ ผิวแห้ง คันระคายเคือง หรือมีลักษณะเป็นขุยขึ้นมาได้ในทันทีอีกด้วย ปัจจัยที่อาจขัดขวางการทำงานของซีบัม มีดังต่อไปนี้ สภาพอากาศที่หนาวเย็น หรืออากาศแห้ง ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรุนแรง การทำความสะอาดผิวหน้ามากเกินไป ค่า pH ของผิวไม่สมดุล การสูบบุหรี่ การเผชิญแสงแดดเป็นเวลานาน และเป็นประจำ ประวัติทางสภาพผิวที่เกี่ยวข้องกับโรคผิวหนัง 4 สูตรบำรุงผิวจากธรรมชาติ ฟื้นฟู ผิวหน้าแห้งกร้าน หากผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู๋ ไม่เหมาะสมกับสภาพ ผิวแห้ง ควรปรับเปลี่ยนวิธีการดูแลผิว มาเป็นการดูแลผิวหน้าด้วยวิธีธรรมชาติ ที่อาจมีความอ่อนโยนมากกว่า เพื่อฟื้นฟูผิวหน้าให้กลับมาดูชุ่มชื้น อิ่มน้ำ อีกครั้ง ด้วยการบำรุงผิวทั้ง 4 สูตรดังนี้ […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

4 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ สกินแคร์

สกินแคร์ (Skin care) หมายถึง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่าง ๆ ทั้งครีมทาผิว มอยเจอร์ไรส์เซอร์ โลชั่น เซรั่ม ครีมกันแดด รวมไปถึงครีมลดเลือนริ้วรอยต่าง ๆ ที่ใช้เพื่อบำรุงสุขภาพผิวให้แข็งแรง ลดเลือนริ้วรอยก่อนวัยอันควร ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิว อย่างไรก็ตาม การใช้สกินแคร์อย่างไม่เหมาะสม อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวได้ ดังนั้น จึงควรศึกษาวิธีการใช้สกินแคร์อย่างถูกต้อง และแก้ไขความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับสกินแคร์ 4 ความเชื่อ เกี่ยวกับ สกินแคร์ ความเชื่อที่ 1 สกินแคร์ ยิ่งแพง ก็ยิ่งดี เวลาเลือกซื้อสกินแคร์ใหม่ ๆ หลายคนอาจจะมองหาสกินแคร์ที่มีราคาแพงที่สุด เท่าที่ตัวเองจะซื้อไหว เพราะคิดว่ายิ่งใช้สกินแคร์ราคาแพงเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีต่อผิวเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่จำเป็นต้องเสียเงินเยอะ เพื่อให้ได้สกินแคร์ดี ๆ เพราะผลิตภัณฑ์ดูแลผิวบางอย่างที่มีราคาจับต้องได้ ก็อาจมีส่วนผสมที่ดีต่อผิวไม่แพ้กับ สกินแคร์ ราคาแพง ๆ เลย ถ้าลองอ่านฉลากส่วนผสมของสกินแคร์ จะพบว่าส่วนผสมสำคัญที่พบในสกินแคร์ที่มีราคาแพงกับสกินแคร์ที่มีราคาถูกนั้น มีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก เช่น ในมอยส์เจอไรเซอร์ส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิก (hyaluronic acid) ที่มีคุณสมบัติในการช่วยกักเก็บน้ำไว้ในผิว สิ่งที่แตกต่างในสกินแคร์ที่มีราคาแพงนั้นมักจะเป็นราคาของส่วนประกอบอื่น ๆ […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ดูแลรักษารอยสัก อย่างไรให้ถูกวิธีและสิ่งที่ควรรู้

ดูแลรักษารอยสัก เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญในการดูแลผิว เพราะนอกจากจะช่วยบำรุงสุขภาพผิวให้แข็งแรงแล้ว ยังอาจช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนและการติดเชื้อ ช่วยลดบรรเทาอาการเจ็บปวด ลดรอยแดง รวมถึงอาจช่วยป้องกันการอักเสบบริเวณรอยสัก และอาจทำให้รอยสักดูสวยงามอยู่เสมอ [embed-health-tool-ovulation] ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากรอยสัก รอยสักเกิดจากการใช้เข็มที่มีหมึกวาดลงบนผิวหนัง ส่งผลทำให้ผิวหนังเปิดจนเกิดอาการปวด บวม คัน เจ็บ ทั้งยังเสี่ยงในการเกิดการติดเชื้อ โดยอาจสังเกตได้จากการที่หมึกส่วนเกินไหลออกมาพร้อมกับเลือดและอาจมีของเหลวไหลออกมาร่วมด้วย ซึ่งอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอาจทำให้เกิดแผลเป็นได้ ดังนั้น การดูแลรักษารอยสักจึงอาจช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ดังนี้ 1. การติดเชื้อ รอยสักที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมอาจเกิดการติดเชื้อ ส่งผลทำให้ผิวหนังบริเวณรอยสักมีสีแดง รู้สึกอุ่น ๆ และเจ็บปวด นอกจากนี้ หากอุปกรณ์สักหรือหมึกที่ใช้ในการสักมีการปนเปื้อนยังอาจทำให้มีหนองไหลออกมาจากรอยสัก และยังอาจเกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อในกระแสเลือด เช่น ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี บาดทะยัก เอชไอวี 2. อาการแพ้รุนแรง หากผิวหนังของผู้เข้ารับการสักไวต่อหมึกสัก อาจส่งผลทำให้ผิวหนังบริเวณที่กำลังสักเปลี่ยนเป็นสีแดงและมีอาการคัน โดยหมึกสักสีแดงอาจมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดอาการแพ้มากที่สุด นอกจากนี้ หมึกสักสีแดงพร้อมและหมึกสักสีน้ำเงิน เมื่อสักลงบนผิวหนังอาจเกิดปฏิกิริยาต่อผิวหนังชนิดไม่ที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เช่น ผิวไวต่อแสง (Photosensitivity) 3. แผลเป็น ผิวหนังที่เกิดความเสียหายจากเข็มหรือการจับที่รอยสัก อาจทำให้ร่างกายผลิตเนื้อเยื่อที่ไม่สมบูรณ์เท่ากับเนื้อเยื่อเก่าที่ถูกทำลายไป โดยเนื้อเนื้อเยื่อชนิดนี้เรียกว่า สะคาราบีอิฟอร์ม (Scar Tissue) ซึ่งอาจส่งผลทำให้เกิดรอยแผลเป็นแบบถาวร ดูแลรักษารอยสัก ทำได้อย่างไร การดูแลรักษารอยสักควรปฏิบัติทันทีหลังจากที่สักเสร็จเรียบร้อย โดยวิธีการดูแลรักษารอยสักมีดังนี้ หลังจากสักเรียบร้อยแล้ว ช่างสักอาจใช้ครีมปฏิชีวนะทาบาง ๆ […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

จุดด่างดำ แย่ลงช่วยอากาศแห้ง ควรรับมืออย่างไร

จุดด่างดำ หรือรอยดำ คือ ผื่นผิวหนังหรือจุดบนผิวหนังที่มีสีเข้มกว่าผิวหนังบริเวณอื่น ส่วนใหญ่จะเป็นสีดำหรือสีน้ำตาล เป็นปัญหาผิวที่แม้ไม่ส่งผลอันตรายต่อสุขภาพแต่มักส่งผลทำให้เสียความมั่นใจ ทั้งนี้ จุดด่างดำอาจต้องใช้เวลารักษานาน โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวหรืออากาศแห้ง หรือผู้ที่โดนแสงแดดเป็นประจำอาจเกิดจุดด่างดำใหม่ ๆ ได้ง่ายขึ้น [embed-health-tool-heart-rate] จุดด่างดำ คืออะไร จุดด่างดำ (Hyperpigmentation) หรือที่เรียกอีกอย่างว่า รอยดำ คือ ผื่นผิวหนังหรือจุดบนผิวหนังที่มีสีเข้มกว่าผิวหนังบริเวณอื่น ส่วนใหญ่จะเป็นสีดำหรือสีน้ำตาล จุดด่างดำบนที่อาจพบได้บ่อย ได้แก่ จุดแก่หรือกระผู้สูงอายุ ฝ้า จุดด่างดำหลังผิวหนังอักเสบ (Post Inflammatory Hyperpigmentation หรือ PIH) เช่น จุดด่างดำจากสิว รอยถลอกจากการบาดเจ็บ จุดด่างดำ เป็นปัญหาผิวหนังที่พบได้ทั่วไปในคนทุกเพศทุกวัย ภาวะนี้เกิดจากผิวหนังผลิตเม็ดสีผิว หรือเมลานิน (Melanin) มากผิดปกติ ส่วนใหญ่มักไม่เป็นอันตราย แต่บางครั้งก็อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ช่น มะเร็งผิวหนัง อากาศแห้งส่งผลต่อจุดด่างดำอย่างไร ผิวหนังเปรียบเสมือนกำแพงชั้นนอกสุดที่คอยป้องกัจุลินทรีย์ก่อโรค หรือเชื้อก่อโรคเข้าสู่ร่างกาย  เช่น แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา ปรสิต  โดยปกติแล้ว ผิวหนังจะผลิตน้ำมันหรือไขมันออกมาหล่อเลี้ยงผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้น ไม่แห้งแตก แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว ความชื้นในอากาศจะน้อยลง ทำให้อากาศแห้งขึ้น […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

3 สูตรมาสก์หน้าสำหรับ ผิวหน้าแห้ง

ผิวหน้าแห้ง แตก ลอก ที่เกิดจากผิวขาดความชุ่มชื้น มักจะพบได้บ่อยในช่วงที่มีสภาพอากาศเย็นอย่างหน้าหนาว การดูแลผิวด้วยการมาสก์หน้า อาจช่วยเติมน้ำให้ผิว ฟื้นฟูสภาพผิว ช่วยผิวมีสุขภาพที่ดี อิ่มน้ำ และอาจช่วยแก้ไขปัญหาผิวแห้งได้ [embed-health-tool-bmi] ผิวหน้าแห้ง  เกิดจากอะไร ผิวหน้าแห้ง เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุที่แตกต่างกัน ดังนี้ สภาพอากาศ โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศแห้งอย่างหน้าหนาว หรือสภาพอากาศในห้องที่มีความแห้ง เช่น ในห้องแอร์ ผิวของเราจะขาดความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ ทำให้เกิดอาการแห้ง แตก หรือลอกเป็นขุย  ความร้อน ไม่ว่าจะเป็นความร้อนจากแสงแดด จากหน้าเตาในครัว หรือเครื่องทำความร้อนในบ้าน ต่างก็มีส่วนทำให้ผิวแห้งได้ เนื่องจากความชื้นระเหยไปกับไอความร้อน การอาบหรือแช่น้ำอุ่น หากแช่หรืออาบน้ำอุ่นนานเกินไปอาจทำให้ผิวแห้งได้ ผลิตภัณฑ์สำหรับผิว บางชนิดอาจดึงความชื้นออกจากผิวจนทำให้ ผิวแห้ง จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว ปัญหาสุขภาพผิวหนัง เช่น สะเก็ดเงิน กลาก หรือโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง อายุที่มากขึ้น ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป มีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาผิวแห้งมากกว่าคนที่อายุน้อยกว่า สูงถึง 50 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว การว่ายน้ำ โดยเฉพาะการว่ายน้ำในสระที่มีคลอรีนเป็นประจำ พบว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดผิวแห้งได้ง่าย 3 สูตรมาสก์หน้าสำหรับคน ผิวหน้าแห้ง มีอะไรบ้าง สำหรับวิธีเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้า เพื่อป้องกันปัญหา ผิวแห้ง นั้น […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

อยู่บ้าน จำเป็นต้องทาครีมกันแดด ด้วยหรือไม่

ครีมกันแดด สามารถช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและ รังสียูวี เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพผิวไม่ว่าจะเป็น ผิวไหม้แดด ผิวลอก ผื่นผิวหนัง รวมถึงอาจช่วยป้องกันความเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย ดังนั้น จึงควรทาครีมกันแดดเป็นประจำ แม้กระทั่งเวลาที่อยู่บ้าน เนื่องจากรังสียูวียังสามารถพบได้แม้จะอยู่ภายในอาคารก็ตาม [embed-health-tool-bmr] แสงแดดทำร้ายผิวได้อย่างไร แม้ว่าแสงแดดจะมีประโยชน์ช่วยกระตุ้นวิตามินดีในผิวหนัง ซึ่งวิตามินดีนี้ยังมีส่วนสำคัญในการช่วยดูดซึมแคลเซียมในร่างกายอีกด้วย มากไปกว่านั้นการออกไปรับแสงแดดบ้างก็ยังช่วยผ่อนคลายความเครียดและอาการซึมเศร้าให้ดีขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม แสงแดดยังถือว่ามีความเสี่ยงต่อสุขภาพผิวด้วยเช่นกัน เพราะแสงแดดในบางช่วงเวลาอาจแรงจัดจนทำร้ายผิว อีกทั้ง รังสียูวี หรือรังสีอัลตราไวโอเล็ตจากแสงแดด ก็เป็นตัวการทำลายผิวอย่างล้ำลึก ซึ่งการตากแดดบ่อย ๆ อาจเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพผิวหนัง ดังนี้ ผิวแห้ง  การตากแดดเป็นเวลานาน ๆ เสี่ยงทำให้ผิวแห้ง เนื่องจากแสงแดดจะทำให้ความชุ่มชื้นของน้ำและต่อมน้ำมันที่ผิวหนังระเหยออก จนผิวขาดความชุ่มชื้น เสี่ยงที่จะทำให้เกิดปัญหาผิวแห้ง ลอกเป็นขุยตามมา ผิวไหม้แดด  แดดที่แรงจัดนอกจากจะทวีความร้อนจนทำให้คุณรู้สึกร้อนจัดแล้ว ก็ยังเผาไหม้ผิวหนังจนเป็นรอยแดง ซึ่งปัญหาผิวไหม้แดด ถือเป็นหนึ่งในปัญหาผิวหนังจากแสงแดดยอดนิยมที่เกิดขึ้นได้บ่อย ๆ และการถูกแดดเผาเป็นประจำก็ยังเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังอีกด้วย ริ้วรอย  แค่ออกไปตากแดด ก็เสี่ยงต่อการเกิดริ้วรอยได้โดยที่คุณไม่รู้ตัว เนื่องจาก รังสียูวี ในแสงแดด จะเข้าไปทำลายคอลลาเจน (Collagen) และอีลาสติน (Elastin)ในผิวหนัง ซึ่งโปรตีนทั้งสองชนิดนี้ทำหน้าที่สำคัญในการทำให้ผิวเต่งตึง เมื่อถูกยูวีทำร้ายบ่อย ๆ เข้า โปรตีนเหล่านี้ก็จะค่อย ๆ สลายไป ทำให้เกิดริ้วรอยหรือความเหี่ยวย่นได้ง่าย ฝ้า กระ จุดด่างดำ  การตากแดดเป็นประจำเสี่ยงต่อการเกิด ฝ้า […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ผื่นแดงหลังการโกนขน คืออะไร และวิธีบรรเทาอาการ

การกำจัดขนอาจเป็นวิธีที่หลายคนเคยใช้ อย่างไรก็ตาม การกำจัดขนด้วยมีโกนอาจต้องใช้ความระวัง เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุจากใบมีดบาด รวมไปถึง อาการผื่นแดงหลังการโกน ร่วมด้วย ซึ่งวันนี้ Hello คุณหมอ ก็ได้นำถึงวิธีบรรเทาอาการเบื้องต้นที่อาจทำให้คุณพ้นจาก ผื่นแดงหลังการโกนขน ได้ มาฝากทุกคนกันค่ะ [embed-health-tool-bmi] ผื่นแดงหลังการโกนขน คืออะไร ผื่นแดงหลังการโกนขน (Razor Burn) คือ ผื่นที่อาจเกิดขึ้นจากการที่ผิวหนังมีอาการระคายเคือง คัน แสบร้อนหรือเจ็บจากใบมีดที่ถูไปมา หรือผิวอาจมีตุ่มหนองจากการที่ขนเริ่มงอกขึ้นมาใหม่ นอกจากนี้ พฤติกรรมจากการใช้มีดโกนที่ไม่ถูกต้องเหล่านี้ก็อาจก่อให้เกิดผื่นแดงขึ้นหลังจากโกนขนได้ โกนขนโดยไม่มีการใช้ผลิตภัณฑ์เพิ่มความอ่อนโยนแก่เส้นขนและผิวหนังก่อนโกน โกนซ้ำกันไปมาอยู่บริเวณเดียว การใช้มีดโกนที่มีอายุการใช้งานนานเกินควร โกนเร็ว และแรงเกินไป โกนขนสวนกับทิศทางที่ขนขึ้น โดยส่วนใหญ่แล้ว อาการผื่นแดงหลังการโกนขนอาจเกิดขึ้นได้กับผิวหนังทั่วทั้งร่างกายที่สัมผัสกับใบมีดโกน เช่น ใบหน้า ใต้วงแขน หน้าขา หรือแม้แต่ขนบริเวณอวัยวะเพศของคุณ เป็นต้น   วิธีบรรเทาอาการผื่นแดงหลังการโกน ผื่นแดงที่เกิดขึ้นบางครั้งอาจทำให้เกิดอาการแสบร้อน บวมแดง และคันระคายเคืองร่วมด้วย ดังนั้นจึงอาจส่งผลให้รู้สึกไม่สบายตัว และทรมานกับอาการเหล่านี้ได้ ซึ่งวิธีการบรรเทาอาการผื่นแดงหลังการโกนด้วยตัวเองอาจทำได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้ หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ระคายเคืองให้ได้มากที่สุด เพื่อป้องกันการอักเสบ ระคายเคือง และการติดเชื้อ หาผ้าสะอาดแช่ในน้ำเย็นหรือแช่ตู้เย็นเอาไว้ แล้วนำมาประคบบริเวณที่ได้รับผลกระทบประมาณ 20 นาที สามารถทำซ้ำได้บ่อยตามที่ต้องการ ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด หรือบำรุงผิวที่มีความอ่อนโยนและรักษาความชุ่มชื้นของผิว เพื่อลดการอักเสบ อาการไหม้ […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

เบบี้ออยล์ กับข้อแนะนำในการใช้เพื่อบำรุงผิวและผม

เบบี้ออยล์ (Baby Oil) เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กที่คิดค้นขึ้นมาเพื่อบำรุงสุขภาพผิวของเด็กทารก และเด็กเล็ก เนื่องจากผิวของเด็กนั้นมีความอ่อนโยน เสี่ยงต่อการแพ้ง่าย และเสี่ยงต่อปัญหาผิวแห้ง ซึ่งเป็นปัญหาผิวหนังที่พบได้บ่อยในเด็กเล็ก อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่เด็ก ๆ เท่านั้นที่ใช้ประโยชน์จากเบบี้ออยล์ วัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่หลายคนก็เลือกใช้เบบี้ออยล์ในการดูแลผิวเช่นกัน ทั้งยังใช้เพื่อบำรุงสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะอีกด้วย แต่เบบี้ออยล์สามารถใช้บำรุงทั้งผิวและเส้นผมได้จริงหรือ ถ้าคุณอยากรู้ล่ะก็ เราไปหาคำตอบพร้อมกันในบทความนี้จาก Hello คุณหมอ กันค่ะ เบบี้ออยล์ บำรุงผิว เบบี้ออยล์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีที่เสี่ยงต่อการระคายเคือง หรือเกิดอาการแพ้ เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นขึ้นมาใช้สำหรับเด็กจึงจำเป็นต้องมีความปลอดภัยสูง คุณพ่อคุณแม่มักจะใช้เบบี้ออยล์ทาหรือนวดตัวให้กับเจ้าตัวน้อย เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวของเด็ก และเพื่อป้องกันปัญหาผิวแห้งในเด็ก เรียกได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์น้ำมันบำรุงผิวที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัยอย่างแท้จริง เพราะไม่เพียงแต่สามารถใช้ได้กับเด็กเล็กเท่านั้น วัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ก็สามารถใช้ประโยชน์จากเบบี้ออยล์ได้เช่นเดียวกัน โดยจะใช้ทาตัวเพื่อบำรุงสุขภาพผิวให้ชุ่มชื้น ป้องกันไม่ให้ผิวแห้ง หยาบกร้าน ตกสะเก็ด หรือใช้เพื่อป้องกันอาการระคายเคืองที่ผิวหนัง ข้อแนะนำในการใช้เบบี้ออยล์บำรุงผิว อาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย แล้วเช็ดตัวพอหมาด ๆ ให้เหลือความชุ่มชื้นกับผิวบ้าง ชโลมเบบี้ออยล์ลงบนฝ่ามือบาง ๆ แล้วลูบไล้ไปตามบริเวณผิวหนังที่ต้องการ ระวังอย่าบีบเบบี้ออยล์ออกมามากเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวหนังมันเยิ้ม และเหนียวเหนอะหนะจนรู้สึกไม่สบายตัว  เบบี้ออยล์ บำรุงผิวหน้า เรามักคุ้นเคยการใช้งานเบบี้ออยล์กับผิวกายมากกว่าจะใช้กับผิวหน้า เพราะผิวหน้ามีความบอบบางเป็นพิเศษ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่จะเพิ่มความมัน จึงอาจเสี่ยงต่อการอุดตันที่ใบหน้าได้ง่าย โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องสิวหรือสิวอุดตันบนใบหน้าเป็นประจำ อย่างไรก็ตาม มีหลายคนที่เลือกใช้เบบี้ออยล์ในการบำรุงผิวหน้าและมีผลตอบรับที่ดี หรือบางครั้งอาจใช้เพื่อทำความสะอาดเครื่องสำอางบนใบหน้าด้วย แต่เนื่องจากยังไม่มีผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่มากเพียงพอจะการันตีว่าเบบี้ออยล์ดีต่อการบำรุงผิวหน้าจริง ๆ  […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน