อาการผิวหนังผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นอาการผื่น กลาก สิว ตกสะเก็ด ผิวแห้ง อาการคัน อาจเป็นสาเหตุของการเกิดโรคผิวหนังต่าง ๆ เช่น ต่อมเหงื่ออักเสบ สะเก็ดเงิน เด็กดักแด้ ซึ่งต่างก็อาจมีอาการและวิธีการรักษาที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น หากสังเกตพบอาการผิวหนังผิดปกติ ควรเข้าพบคุณหมอเพื่อทำการรักษาในทันที เพื่อป้องกันไม่ให้อาการลุกลามและเป็นอันตรายในภายหลัง
[embed-health-tool-bmi]
อาการผิวหนังผิดปกติ เป็นอย่างไร
ปัญหาผิวหนังผิดปกติที่อาจพบได้บ่อย อาจเป็นได้ทั้ง สิว กลาก และโรซาเซีย (Rosacea) นอกจากนี้ยังมีสภาพผิวผิดปกติที่หายากอีกมากมายที่อาจไม่เคยรู้มาก่อน ซึ่งอาการผิวหนังผิดปกตินั้นอาจมีตั้งแต่อาการเล็กน้อยไปจนถึงขั้นอันตรายต่อชีวิต โดยอาการผิวหนังผิดปกติต่าง ๆ ที่อาจพบได้ มีดังนี้
ต่อมเหงื่ออักเสบ
ต่อมเหงื่ออักเสบ (Hidradenitis Suppurativa หรือ HS) เป็นภาวะอักเสบเรื้อรัง ที่ทำให้เกิดแผลในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่ผิวหนังสัมผัสกับผิวหนัง ซึ่งบริเวณที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่
แม้ว่าจะยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่แน่ชัดของการอักเสบของต่อมเหงื่อ แต่ก็เป็นไปได้ว่าฮอร์โมนนั้นมีบทบาทสำคัญของการทำให้เกิดการอักเสบของต่อมเหงื่อ โดยทั่วไปจะเริ่มในช่วงวัยแรกรุ่น ซึ่งอาการอักเสบของต่อมเหงื่อนั้นมักจะพบบ่อยในผู้ที่มีน้ำหนักเกิน หรือสูบบุหรี่ นอกจากนั้น ผู้หญิงจะมีแนวโน้มการอักเสบของต่อมเหงื่อมากกว่าผู้ชายถึง 3 เท่า ทั้งยังเชื่อกันว่าพันธุกรรมและระบบภูมิคุ้มกันเป็นปัจจัยที่สำคัญในการพัฒนาโรคอีกด้วย
สำหรับอาการเริ่มต้นของการอักเสบของต่อมเหงื่อ คือ มีตุ่มขึ้นบนผิวหนัง ตุ่มที่เกิดขึ้นลักษณะจะคล้ายกับสิวหรือฝี หากปล่อยทิ้งเอาไว้โดยไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้อาการรุนแรงขึ้นได้ เช่น ทำให้เกิดรอยแผลเป็น การติดเชื้อ เมื่อตุ่มแตกมันจะปล่อยของเหลวที่มีกลิ่นออกมา
ขณะนี้ยังไม่มีวิธีการรักษาการอักเสบของต่อมเหงื่อ แต่มีตัวเลือกในการรักษาหลายอย่างที่จะช่วยจัดการกับอาการ ได้ เช่น
- ยาทา
- ยาต้านการอักเสบ รวมถึงยาชีวภาพแบบฉีด
- การบำบัดด้วยฮอร์โมน
- การผ่าตัด ซึ่งอาจจะได้รับการพิจารณาสำหรับกรณีที่รุนแรง
สะเก็ดเงินบริเวณซอกพับ
สะเก็ดเงินบริเวณซอกพับ (Inverse psoriasis) จะมีลักษณะคล้าย ๆ กับการอักเสบของต่อมเหงื่อ ซึ่งอาจทำให้เกิดรอยสีแดงบนส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย บริเวณที่ผิวหนังสัมผัสกับผิวหนัง รอยที่เกิดขึ้นจะไม่เหมือนกับแผลพุพอง แต่จะมีลักษณะเรียบและเป็นมันวาว หลายคนที่เป็นสะเก็ดเงินบริเวณซอกพับ มักจะมีโรคสะเก็ดเงินชนิดอื่นอย่างน้อย 1 ชนิดอยู่ในร่างกาย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญยังไม่แน่ใจว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคสะเก็ดเงิน แต่พันธุกรรมและระบบภูมิคุ้มกันเป็นปัจจัยสำคัญในการเกิดโรค
เนื่องจากผิวหนังในบริเวณที่มีการเสียดสีสูง มักจะมีแนวโน้มที่จะบอบบาง การรักษาจึงอาจเป็นเรื่องที่ยาก การใช้ครีมสเตียรอยด์และขี้ผึ้งเฉพาะที่อาจได้ผล แต่หากใช้มากเกินไปอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและเจ็บปวดได้ ผู้ที่เป็นสะเก็ดเงินบริเวณซอกพับในกรณีที่รุนแรงมาก อาจจะต้องได้รับการบำบัดด้วยแสงอัลตราไวโอเลต บี (UVB) หรือการฉีดสารชีวภาพ เพื่อจัดการกับสภาพผิว
เด็กดักแด้ (Harlequin ichthyosis)
เด็กดักแด้ เป็นความผิดปกติทางพันธุกรรมที่หายาก โดยส่วนใหญ่เด็กจะเกิดมาพร้อมกับผิวหนังที่แข็งและหนา ซึ่งมีลักษณะเป็นเกล็ดอยู่ทั่วร่างกาย เกล็ดเหล่านี้อาจจะส่งผลต่อรูปร่างของเปลือกตา ปาก จมูก และหู นอกจากนี้มันยังสามารถจำกัดการเคลื่อนไหวของแขน ขา และหน้าอก ได้อีกด้วย
มีรายงานว่า ผู้ป่วยประมาณ 200 รายทั่วโลกต้องพบกับภาวะนี้ ซึ่งมันเกิดจากการกลายพันธุ์ของยีน ABCA12 ซึ่งทำให้ร่างกายสร้างโปรตีนที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาเซลล์ผิวหนังตามปกติ การกลายพันธุ์จะไปป้องกันการขนส่งไขมันไปยังชั้นบนสุดของผิวหนัง ส่งผลทำให้เกิดเกล็ดขึ้น นอกจากนั้นยังทำให้การทำงานหรือจัดการระบบบางอย่างในร่างกายทำงานได้ยากขึ้น ดังนี้
- จัดการกับการสูญเสียน้ำในร่างกาย
- ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
- ต่อสู้กับการติดเชื้อ
เด็กดักแด้นั้นเป็นความผิดปกติของยีนด้อยออโตโซม (Autosomal Recessive Inheritance) ซึ่งเป็นการส่งต่อยีนกลายพันธุ์ที่มาจากพ่อแม่นั่นเอง
โรคฝังใจว่ามีเส้นใยไฟเบอร์ผุดออกมาจากผิวหนัง
โรคฝังใจว่ามีเส้นใยไฟเบอร์ผุดออกมาจากผิวหนัง (Morgellons disease) เป็นภาวะที่พบได้ยาก ซึ่งลักษณะของโรคชนิดนี้คือจะมีเส้นใยและอนุภาคขนาดเล็กโผล่ออกมาจากแผลที่ผิวหนัง ทำให้เกิดความรู้สึกว่ามีบางอย่างคลานอยู่บนผิวหนัง โดยโรคนี้มักจะพบมากที่สุดในผู้หญิงผิวขาววัยกลางคน
แพทย์บางคนเชื่อว่าเป็นปัญหาทางจิตใจ เนื่องจากอาการของโรคนี้คล้ายคลึงกับความผิดปกติทางสุขภาพจิตที่เรียกว่า “ภาวะหลงผิด” อาการโดยทั่วไปของโรคนี้ได้แก่
- ผื่นคันหรือแผลที่ผิวหนัง
- วัสดุเส้นใยสีดำในผิวและบนผิวหนัง
- ความเหนื่อยล้า
- ความวิตกกังวล
- ภาวะซึมเศร้า
สำหรับผู้ที่เป็นโรคนี้ควรติดต่อกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิดและรับการรักษาตามอาการ เช่น ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า
โรคฝีบริเวณร่องก้น
โรคฝีบริเวณร่องก้น (Pilonidal Sinus Disease) ส่งผลทำให้เกิดรูหรืออุโมงค์เล็ก ๆ ที่ฐานหรือรอยพับของก้น อาการมักไม่ค่อยชัดเจนสักเท่าไหร่ คนส่วนใหญ่จึงไม่ได้เข้ารับการรักษาหรือแม้แต่สังเกตเห็นอาการ จนกว่าปัญหาจะเกิดขึ้น โรคนี้เกิดขึ้นเนื่องจากเส้นขนบริเวณก้นถูกัน แรงเสียดทานและแรงกดที่เกิดขึ้น จะดันขนเข้าไปยังด้านใน ทำให้เกิดเป็นขนคุด
คนส่วนใหญ่ที่เป็นโรคนี้จะมีอายุ 15-30 ปี และจะเกิดในผู้ชายเป็น 2 เท่าของผู้หญิง โรคนี้มักส่งผลกระทบต่อผู้ที่ต้องนั่งทำงานเป็นเวลานาน นอกจากนี้ยังอาจมีอาการของการอักเสบของต่อมเหงื่อร่วมด้วย
สุดท้ายนี้
หากกำลังเผชิญกับอาการผิวหนังผิดปกติ ให้สังเกตร่างกายและอาการที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง จากนั้นควรจะไปพบคุณหมอที่เชี่ยวชาญเรื่องเกี่ยวกับผิวหนัง เนื่องจากแพทย์ผิวหนังสามารถช่วยการวินิจฉัยและกำหนดทางเลือกในการรักษาที่ดีที่สุดได้