สุขภาพผิว

ผิวหนัง คืออวัยวะภายนอกที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในร่างกาย ผิวหนังนั้นมีหน้าที่สำคัญต่อร่างกาย ทั้งเป็นเกราะป้องกันจากสิ่งสกปรกต่าง ๆ หรือช่วยควบคุมอุณภูมิของร่างกายให้เป็นปกติ เป็นต้น เรียนรู้เกี่ยวกับการมี สุขภาพผิว ที่ดี และเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับโรคผิวหนังที่พบได้บ่อย เพื่อการปกป้องดูแลผิวของคุณให้ดียิ่งขึ้น ได้ที่นี่

สนับสนุนโดย:

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพผิว

ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า ดีต่อผิวหน้าจริงหรือไม่?

หลายคนเชื่อว่าการ ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า เป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับผิวหน้าที่สุด เพราะน้ำเปล่าเป็นสารธรรมชาติ ปราศจากสารเคมีเจือปน มีความอ่อนโยน เหมาะกับผิวบอบบางแพ้ง่าย และผิวผู้ที่เป็นสิว หลายคนจึงเชื่อว่าการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียวเหมาะสมที่สุดสำหรับผิวหน้า แต่ความเชื่อนี้จะจริงหรือเท็จประการใด บทความนี้ Hello คุณหมอ มีคำตอบให้คุณค่ะ ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า ดีต่อผิวหน้าจริงหรือไม่? การล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า อาจไม่ได้เหมาะสมสำหรับผิวหน้าเสมอไป เพราะตลอดทั้งวันเราเจอทั้งมลภาวะต่าง ๆ และฝุ่นละออง ยิ่งคุณผู้หญิงที่แต่งหน้าด้วยล่ะก็ การใช้น้ำเปล่าทำความสะอาดผิวหน้าเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถดูดสิ่งสกปรกหรือเครื่องสำอางค์บนผิวหน้าออกได้อย่างสะอาดหมดจรด และอาจเสี่ยงต่อการเกิดการอุดตันบริเวณรูขุมขนอีกด้วย ดังนั้นอาจต้องใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าควบคู่ด้วย แต่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่มีมาตรฐาน ปลอดภัยต่อผิวหน้า และเหมาะสมกับลักษณะของผิวหน้าคุณ อย่างไรก็ตาม ผิวหน้าของแต่ละคนมีปัญหาแตกต่างกัน การทำความสะอาดผิวหน้าด้วยน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียวอาจเหมาะสำหรับบางคน ทั้งนี้ทั้งนั้นให้คุณลองสังเกตใบหน้าของตนเองว่าหากทำความสะอาดผิวหน้าด้วยน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียว เหมาะกับผิวหน้าของคุณหรือไม่ หากไม่เหมาะสมให้ปรับเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าเพื่อความสมดุลของผิว 5 คุณประโยชน์จากการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า น้ำเปล่า มีประโยชน์ที่ดีต่อผิวหน้ามากกว่าที่คุณคิด โดย 5 คุณประโยชน์จากการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า มีดังต่อไปนี้ สะดวกและง่ายต่อการทำความสะอาดผิวหน้า  ลดการเสียดสีกับผิวหน้า ช่วยลดการระคายเคืองกับบริเวณผิวหนัง ปลอดภัยต่อผิวหน้า เพราะมีน้ำมีความอ่อนโยนปราศจากสารเคมี เกิดการระคายเคืองน้อยกว่าเมื่อเทียบกับใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า  ลดความเสี่ยงในการลอกคราบน้ำมันตามธรรมชาติของผิว ช่วยปกป้องเกราะป้องกันผิว ไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ลดต้นทุนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ขั้นตอนง่าย ๆ ในการล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียว ในตอนเช้าให้ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าสะอาด และซับหน้าด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ซับเบา ๆ ให้แห้งที่ผิวหน้า จะช่วยลดการเสียดสีและลดการระคายเคืองต่อผิวหนัง  ในช่วงตอนกลางคืน […]

หมวดหมู่ สุขภาพผิว เพิ่มเติม

สำรวจ สุขภาพผิว

สิว

ลดสิวผด ป้องกันสิวขึ้นซ้ำควรทำอย่างไร

สิวผด คือ ปัญหาผิวหนังที่อาจเกิดขึ้นเมื่อท่อเหงื่ออุดตันจากเซลล์ผิวเก่า สิ่งสกปรก และเหงื่อ โดยอาจสังเกตได้จากตุ่มเล็ก ๆ คล้ายสิวไม่มีหัวขึ้นบริเวณหน้าผาก แก้ม และกรอบหน้า สิวผดสามารถหายไปได้เองแต่สำหรับผู้ที่ต้องการ ลดสิวผด อย่างเร่งด่วนอาจจำเป็นต้องรักษาด้วยยาที่คุณหมอแนะนำ รวมถึงควรศึกษาวิธีการดูแลผิวอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันไม่ให้สิวผดขึ้นซ้ำ [embed-health-tool-ovulation] สิวผด เกิดจากอะไร สิวผดเกิดจากการอุดตันของท่อเหงื่อ ทำให้เหงื่อไม่สามารถระบายออกและสะสมอยู่ภายในรูขุมขนใต้ผิวหนัง นำไปสู่การอักเสบ หรืออาจเกิดจากการติดเชื้อรากลุ่มมาลาสซีเซีย (Malassezia species) โดยสังเกตได้จาก ตุ่มนูนเล็ก ๆ คล้ายสิวไม่มีหัว พบได้มากบริเวณหน้าผาก แก้ม หน้าอก และหลัง นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยบางอย่างที่กระตุ้นการเจริญเติบโตของเชื้อรา รวมถึงเพิ่มการขับเหงื่อที่นำไปสู่การอุดตันในรูขุมขนจนก่อให้เกิดสิวผด ดังนี้ สภาพอากาศที่ร้อนชื้น การออกกำลังกายหรือการทำกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายขับเหงื่อ การสวมเสื้อผ้าหลายชั้น รัดรูป หรือระบายอากาศไม่ดี ทำให้มีเหงื่อออกมากและเพิ่มความอับชื้นนำไปสู่การอุดตันในรูขุมขนและกระตุ้นการเจริญเติบโตของเชื้อรา จนเกิดเป็นสิวผด การนอนติดเตียงเป็นเวลานาน สิวผดอาจพบบ่อยในเด็กทารก เนื่องจากท่อเหงื่อยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ วิธีลดสิวผด วิธีลดสิวผด อาจทำได้ดังนี้ วิธีลดสิวผดด้วยตัวเอง ประคบเย็น นำผ้าสะอาดชุบกับน้ำเย็นหรืออาบน้ำเย็น เพื่อช่วยลดอุณหภูมิของผิว และช่วยลดสิวผด คาลาไมน์โลชั่น ใช้สำหรับทาผิวบริเวณที่ได้รับผลกระทบ เพื่อช่วยบรรเทาอาการคันที่เกิดจากสิวผด หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เช่น มอยเจอร์ไรเซอร์ เครื่องสำอาง ครีมกันแดด […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ครีมบํารุงผิวหน้า ผิวแพ้ง่าย ควรเลือกอย่างไร

ครีมบํารุงผิวหน้า ผิวแพ้ง่าย ควรเป็นครีมที่ปราศจากสารก่อภูมิแพ้หรือสารที่ทำให้ระคายเคือง เช่น น้ำหอม สีสังเคราะห์ กรดต่าง ๆ นอกจากนี้ ควรมีสารประกอบไม่เกิน 10 ชนิด ทั้งนี้ หากใช้ครีมบำรุงผิวหน้าแล้วเกิดอาการแพ้ ควรหยุดใช้ทันทีและปรึกษาคุณหมอผิวหนังหรือเภสัชกร [embed-health-tool-ovulation] ครีมบํารุงผิวหน้า มีความสำคัญอย่างไร ครีมบำรุงผิวหน้า เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับทาหน้า มักมีคุณสมบัติช่วยรักษาความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของผิว รวมทั้งช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยและจุดด่างดำให้จางลงได้ โดยทั่วไป ครีมบำรุงผิวหน้าแบ่งเป็นครีมกลางวันและครีมกลางคืน โดยครีมกลางวันมักมีเนื้อครีมบางเบา มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรซ์เซอร์เพื่อช่วยบำรุงให้ผิวหน้านุ่มชุ่มชื้น และมักมีส่วนผสมของสารกันแดดเพื่อช่วยปกป้องผิวหนังจากรังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดด สำหรับครีมกลางคืน เนื้อครีมจะหนาหรือหนักกว่า และมีส่วนผสมอย่างเรตินอล (Retinoid) กรดอัลฟาไฮดรอกซี (Alpha Hydroxy Acid) หรือกรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูสุขภาพผิวหนังขณะนอนหลับ ครีมบํารุงผิวหน้า ผิวแพ้ง่าย เลือกอย่างไร ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ควรเลือกซื้อครีมบำรุงผิวหน้าที่มีคุณสมบัติต่อไปนี้ ปราศจากสารที่อาจทำให้แพ้ เช่น น้ำหอม สีสังเคราะห์ สารกันเสียอย่างพาราเบน (Paraben) รวมถึงกรดบางชนิด เช่น กรดอัลฟาไฮดรอกซี กรดไกโคลิค (Glycolic Acid) กรดเรทิโนอิก (Retinoic Acid) กรดซาลิไซลิก (Salicylic […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ครีมลดรอยแตกลาย ควรเลือกอย่างไร และวิธีลดรอยแตกลายที่ควรรู้

การใช้ ครีมลดรอยแตกลาย อาจช่วยให้รอยแตกลายบนผิวหนังแลดูจางลงและกลืนไปกับผิวหนังโดยรอบอย่างเป็นธรรมชาติ หากทาครีมลดรอยแตกลายตั้งแต่เริ่มเกิดรอยแตกหรือในช่วงที่รอยยังเป็นสีออกแดงหรือม่วง อาจช่วยให้รอยจางลงได้ดีกว่าปล่อยไว้นานหรือรอยแตกลายเปลี่ยนเป็นสีขาวแล้ว ทั้งนี้ การเลือกครีมลดรอยแตกลายให้เหมาะสมและทาครีมหลังอาบน้ำติดต่อกันทุกวัน ร่วมกับใช้วิธีลดรอยแตกลายอื่น ๆ เช่น การเลเซอร์ การฉายแสง การทำไมโครนีดดิง (Microneedling) การใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (Radio Frequency หรือ RF) อาจช่วยให้รอยแตกลายดูจางลงได้มากขึ้น [embed-health-tool-bmi] รอยแตกลาย เกิดจากอะไร รอยแตกลายบนผิวหนัง หรือที่เรียกว่า ผิวแตกลาย คือ ผิวหนังที่มีลักษณะเป็นเส้นริ้ว บางครั้งอาจเป็นร่องลึกที่สัมผัสแล้วเป็นคลื่นหรือรู้สึกได้ว่าผิวไม่สม่ำเสมอ เกิดจากเนื้อเยื่อผิวหนังชั้นกลางขยายตัวอย่างรวดเร็ว จนทำให้คอลลาเจนในชั้นผิวแยกออกจากกันและกลายเป็นรอยแตกลาย มักเกิดขึ้นบริเวณหน้าท้อง หน้าอก หน้าอก ต้นแขน ขา ก้น สะโพก หลัง รอยแตกลายในระยะแรกจะมีสีเข้ม มักออกแดง ชมพู หรือม่วง และทำให้รู้สึกคันเล็กน้อย เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่งสีจะจางลงเรื่อย ๆ จนกลายเป็นริ้วสีขาวหรือเทาแบบถาวรคล้ายแผลเป็น รอยแตกลายที่เกิดขึ้นไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และส่วนใหญ่ไม่สามารถลบเลือนให้หายสนิทได้ แต่ก็สามารถทำให้ดูจางจนเนียนไปกับผิวหนังปกติได้ด้วยการทาครีมลดรอยแตกลายหรือรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์ ทั้งนี้ รอยแตกลายจะดูจางลงมากหรือน้อยอาจขึ้นอยู่กับอายุของรอยแตกลายด้วย โดยทั่วไป รอยแตกลายที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ มีโอกาสจางลงได้มากกว่ารอยแตกลายที่เกิดขึ้นนานแล้ว ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดรอยแตกลาย ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดรอยแตกลาย อาจมีดังนี้ อายุ ในช่วงเข้าสู่วัยรุ่น ร่างกายจะเจริญเติบโตและมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ผิวหนังยืดออกเร็วเกินไป […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ผื่นโควิดคันไหม อาการทางผิวหนังของโรคโควิด 19

โควิค 19 เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่ยังคงระบาดอยู่ในปัจจุบัน แม้ว่าจะมีแนวทางการรักษาที่ดีมากขึ้น แต่ก็ยังอาจทำให้เกิดผลกระทบในด้านต่าง ๆ เช่น ผื่นโควิด ที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อโควิด 19 และอาจเกิดขึ้นหลังจากติดเชื้อโควิด 19 อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจเกิดข้อสงสัยว่า ผื่นโควิดคันไหม สาเหตุของการเกิดผื่นคืออะไร ลักษณะของผื่นเป็นอย่างไร ซึ่งการรู้ถึงอาการ สาเหตุ และลักษณะของผื่นโควิด อาจช่วยให้ดูแลผิวได้อย่างเหมาะสมและอาจช่วยบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นได้ [embed-health-tool-bmi] อาการทางผิวหนังของโควิด 19 อาการทางผิวหนังอาจเป็นสัญญาณแรกของโควิด 19 หรืออาจเป็นอาการลองโควิด (Long Covid) ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นหลังการติดเชื้อโควิด 19 ที่อาจทำให้ผู้ป่วยบางคนมีอาการผื่นขึ้นตามผิวหนัง โดยผื่นอาจแสดงลักษณะอาการหลายรูปแบบ ดังนี้ ผดผื่นแดงขนาดเล็ก (Morbilliform Rash) เป็นลักษณะผื่นที่อาจพบได้บ่อยในผู้ป่วยโควิด 19 คล้ายไข้ออกผื่น พบผื่นแบบนี้ได้บ่อยที่สุด ที่มีอาการไม่รุนแรง ส่งผลให้เกิดผดผื่นสีแดงขนาดเล็กคล้ายผดร้อน และอาจเกิดขึ้นได้ทั่วบริเวณผิวหนังบนร่างกายโดยเฉพาะแขนและขา ผื่นนิ้วเท้าจากโควิด (Covid Toes) มักพบในเด็กเล็กที่ติดเชื้อโควิด มีลักษณะเป็นผื่นแดง นูน บวมและคัน ลักษณะคล้ายปฏิกิริยาทางผิวหนังเมื่อสัมผัสกับอุณหภูมิหนาวเย็น แสดงถึงอาการผิดปกติของเส้นเลือด มักเกิดขึ้นบริเวณเท้าและนิ้วเท้า ลมพิษ (Urticaria) มักเกิดขึ้นเมื่อผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 […]


สุขภาพผิว

น้ำกัดเท้า โรคผิวหนังที่พบบ่อยในหน้าฝน มีวิธีการรักษาอย่างไร

น้ำกัดเท้า หรือเรียกอีกอย่างได้ว่า ฮ่องกงฟุต เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่เกิดจากการติดเชื้อรา ซึ่งอาจพบได้มากในฤดูฝนหรือสภาพแวดล้อมที่มีความอับชื้น โดยส่งผลกระทบให้เกิดอาการคันบริเวณฝ่าเท้าและซอกนิ้วเท้า ผิวลอก และแผลพุพอง หากมีอาการดังกล่าวควรเข้าพบคุณหมอเพื่อรับการรักษาอย่างรวดเร็ว เนื่องจากโรคน้ำกัดเท้าสามารถแพร่กระจายไปสู่ผู้อื่นได้ผ่านการสัมผัสโดยตรงหรือใช้ของร่วมกัน เช่น พรมเช็ดเท้า ถุงเท้า [embed-health-tool-bmi] น้ำกัดเท้า คืออะไร น้ำกัดเท้า คือ โรคผิวหนังที่เกิดจากการติดเชื้อรากลุ่มเดอร์มาโตไฟต์ (Dermatophytes) ที่เจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมอับชื้นและอบอ้าว เช่น สระว่ายน้ำ ห้องอาบน้ำสาธารณะ บริเวณที่มีน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะผู้ที่ชอบเดินเท้าเปล่าไม่สวมใส่รองเท้าป้องกันและไม่ทำความสะอาดเท้าหลังจากสัมผัสกับพื้นที่อาจมีเชื้อโรค นอกจากนี้ ยังอาจมีปัจจัยเสี่ยงบางอย่างที่เป็นตัวกระตุ้นให้เชื้อราเจริญเติบโต ได้แก่ สวมถุงเท้าหรือรองเท้าที่คับและรัดจนเกินไป ส่งผลให้เหงื่อออกมาก เท้าอับชื้น และเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อรา ไม่ทำความสะอาดพรมเช็ดเท้าหรือรองเท้าบ่อย ๆ ทำให้มีการสะสมของคราบเหงื่อและสิ่งสกปรก ที่กระตุ้นการเจริญเติบโตของเชื้อรา จนนำไปสู่การติดเชื้อ มีประวัติการติดเชื้อราที่เล็บ เป็นโรคเบาหวาน หรือมีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ที่ส่งผลให้ร่างกายมีประสิทธิภาพในการต้านเชื้อราต่ำ ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น รองเท้า ถุงเท้า ผ้าปูที่นอน น้ำกัดเท้ามีอาการอย่างไร อาการน้ำกัดเท้า อาจมีดังนี้ ผิวลอกเป็นขุยและผิวแตกในบริเวณฝ่าเท้าและซอกนิ้วเท้า อาการคัน ระคายเคือง และรู้สึกแสบที่ฝ่าเท้าหรือซอกนิ้วเท้า แผลพุพอง เล็บเท้าเปราะบาง เล็บเปลี่ยนสี เท้ามีกลิ่นเหม็น ควรพบคุณหมออย่างรวดเร็วเมื่อสังเกตว่ามีแผลพุพอง มีหนองไหลออกจากแผล มีไข้ เท้าบวม อาการลุกลามไปถึงบริเวณขาหนีบ […]


สิว

สิวมีกี่ประเภท และมีวิธีรักษาอย่างไร

สิวมีกี่ประเภท อาจเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย เนื่องจากลักษณะสิวที่เกิดขึ้นมีความแตกต่างกัน เกิดจากสาเหตุที่ต่างกัน อีกทั้งวิธีการรักษาก็อาจแตกต่างกัน ดังนั้น หากเป็นสิวจึงควรขอคำปรึกษาจากคุณหมอเกี่ยวกับวิธีการรักษาสิวอย่างเหมาะสม และไม่ควรเลือกใช้ยารักษาสิวเอง เพราะอาจทำให้สิวอักเสบ และอาการของสิวแย่ลง [embed-health-tool-ovulation] สาเหตุที่ทำให้เกิดสิว สิวอาจเกิดขึ้นจากรูขุมขนอักเสบ เนื่องจากต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากเกินไป อีกทั้งสิ่งสกปรก เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และเชื้อแบคทีเรียที่เข้าไปอุดตันในรูขุมขน จนก่อให้เกิดการอักเสบ ทำให้เกิดเป็นสิวประเภทต่าง ๆ บนผิวหนัง นอกจากนี้ ยังอาจมีปัจจัยเสี่ยงบางอย่างที่เป็นตัวกระตุ้นที่นำไปสู่การเกิดสิวหรือทำให้สิวที่เป็นอยู่แย่ลง ดังนี้ พันธุกรรม หากคนในครอบครัวเป็นสิว ก็อาจส่งผลให้บุตรหลานมีแนวโน้มเป็นสิวได้เช่นกัน การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หากฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อมีปริมาณเพิ่มขึ้น อาจส่งผลให้ต่อมไขมันขยายและผลิตน้ำมันออกมามาก จนอุดตันในรูขุมขนและก่อให้เกิดสิว ซึ่งพบได้มากในช่วงวัยรุ่น ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด เช่น ลิเทียม (Lithium) ยาฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroid) ที่อาจกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น ความเครียด อาจทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ที่ส่งผลให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากเกินไป นำไปสู่การอุดตันในรูขุมขนที่ก่อให้เกิดสิว หรืออาจทำให้สิวที่เป็นอยู่แย่ลง พฤติกรรมการดูแลผิวไม่ดี เช่น การขัดผิวอย่างรุนแรง การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือเครื่องสำอางที่มีส่วนประกอบของสารก่อความระคายเคืองและน้ำมัน การล้างหน้าไม่สะอาดหลังแต่งหน้า หรือการแต่งหน้าทิ้งไว้ข้ามคืน อาจส่งผลให้รูขุมขนอุดตันจากเครื่องสำอาง น้ำมันและสิ่งสกปรก รวมถึงอาจส่งผลให้ผิวระคายเคือง นำไปสู่การเกิดสิวหรือทำให้สิวที่เป็นอยู่อักเสบมากขึ้น การรับประทานอาหารที่มีไขมันและคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น […]


สุขภาพผิว

Folliculitis คือ อะไร มีอาการ และการรักษาอย่างไร

Folliculitis คือ รูขุมขนอักเสบซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพผิวที่อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย การแพ้ครีม หรือรูขุมขนระคายเคืองจากการโกนขน โดยอาจสังเกตได้จากตุ่มเล็ก ๆ บนผิวหนัง บางคนอาจมีอาการคันรุนแรง หากไม่ทำการรักษาอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อน เช่น รอยแผลเป็น การติดเชื้อซ้ำ ๆ บ่อยครั้ง นอกจากนี้ หากสังเกตว่ามีอาการผิดปกติ เช่น ตุ่มขึ้นบนผิวหนังกระจายเป็นวงกว้าง มีไข้ อาการที่เป็นอยู่แย่ลง ควรเข้าพบคุณหมอเพื่อหาสาเหตุและทำการรักษาทันที [embed-health-tool-bmi] Folliculitis คืออะไร Folliculitis คือ ปัญหาผิวที่เรียกว่า รูขุมขนอักเสบ โดยมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส หรือเชื้อราที่ส่งผลกระทบต่อรูขุมขน ทำให้เกิดการระคายเคืองนำไปสู่การอักเสบ นอกจากนี้ ปัญหารูขุมขนอักเสบอาจเกิดจากปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ดังต่อไปนี้ รูขุมขนอักเสบจากแบคทีเรีย เกิดจากเชื้อแบคทีเรียสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus Aureus) ที่อาศัยอยู่บนผิวหนัง รูขุมขนอักเสบที่ก่อให้เกิดผื่นจากอ่างน้ำร้อน (Pseudomonas folliculitis) เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียซูโดโมแนส แอรูจิโนซา (Pseudomonas aeruginosa) พบได้มากในอ่างน้ำร้อน และสระน้ำอุ่นที่มีปริมาณของคลอรีนและค่าความเป็นกรด-ด่างไม่สมดุล รูขุมขนอักเสบจากมีดโกน (Pseudofolliculitis barbae) หรือเรียกอีกอย่างว่าขนคุด ที่เกิดจากพฤติกรรมการโกนขนหรือการแว็กซ์ขนที่ส่งผลให้รูขุมขนระคายเคือง นำไปสู่การอักเสบ โดยสังเกตได้จากตุ่มแดงเล็ก ๆ […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ผิวแห้งคัน สาเหตุ อาการ วิธีรักษาและการดูแลตัวเอง

ผิวแห้งคัน เป็นภาวะทางผิวหนังที่พบได้ทั่วไป เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความร้อน สภาพอากาศ โรคผิวหนังบางชนิด อายุ การสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ โดยทั่วไป การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี เช่น ใช้ครีมบำรุงผิวหรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ทายาบรรเทาอาการคัน อาจช่วยรักษาอาการผิวแห้งคันให้หายเป็นปกติได้ในเวลาไม่นาน แต่หากดูแลตัวเองเบื้องต้นแล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบคุณหมอเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม [embed-health-tool-bmi] ผิวแห้งคัน เกิดจากอะไร ผิวแห้งคันมักเกิดจากปัจจัยภายนอก ดังนี้ ความร้อน การใช้เครื่องทำความร้อนอาจลดความชื้นภายในบ้านและทำให้ผิวแห้งกร้านและคันได้ อายุ ผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี ผิวจะแห้งขึ้น เนื่องจากชั้นผิวเก็บกักน้ำได้น้อยลง อาจส่งผลให้เกิดภาวะผิวหนังอักเสบ ทำให้คัน ระคายเคือง หรือแห้งแตกจนเลือดออกได้ ภาวะสุขภาพผิว เช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคผื่นผิวหนังอักเสบ (Eczema) โรคหิด ลมพิษ อาจทำให้ผิวหนังแห้ง คัน และอักเสบได้ สภาพอากาศ ในช่วงฤดูหนาวที่ความชื้นในอากาศและอุณหภูมิลดลง หรือในฤดูร้อนที่อากาศแห้งมาก ๆ อาจทำให้ผิวแห้งลอกและมีอาการคันได้ การว่ายน้ำในสระ สระว่ายน้ำที่มีคลอรีนซึ่งเป็นสารช่วยรักษาความสะอาดของน้ำในสระ อาจทำให้ความชุ่มชื้นของผิวลดลงได้ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เช่น ผงซักฟอก สบู่ แชมพู ที่ขจัดความมันและลดความชุ่มชื้นของผิว […]


สิว

สิวผดที่แก้ม สาเหตุ วิธีรักษาและการป้องกัน

สิวผดที่แก้ม มักเกิดจากผิวบริเวณแก้มสัมผัสกับแสงแดดและอากาศร้อน ทำให้เหงื่อออกเยอะ รูขุมขนและต่อมเหงื่ออุดตัน จนเกิดเป็นสิวผดที่แก้ม และอาจเกิดจากปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น การติดเชื้อยีสต์ การสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ การเสียดสีบริเวณใบหน้าจากหน้ากากอนามัย เส้นผม และปลอกหมอน ทั้งนี้ การดูแลผิวอย่างถูกวิธี เช่น หลีกเลี่ยงอากาศร้อนและสารก่อภูมิแพ้ที่ทำให้ผิวระคายเคือง ทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดโดยเฉพาะหลังออกแดดหรือเหงื่อออกเยอะ เปลี่ยนหน้ากากอนามัยบ่อย ๆ โดยเฉพาะเมื่อเลอะเหงื่อ อาจช่วยให้สิวผดที่แก้มหายได้ในเวลาไม่นาน และช่วยป้องกันการเกิดสิวชนิดนี้ได้ด้วย [embed-health-tool-bmi] สิวผดที่แก้ม เกิดจาก อะไร สิวผด เป็นสิวที่มีลักษณะเป็นตุ่มขนาดเล็กที่ไม่มีหัวหนองหรือหัวสิวเหมือนสิวทั่วไป มักขึ้นเป็นหย่อม ๆ และทำให้ผิวบริเวณนั้นดูไม่เรียบเนียนเสมอกัน หากผิวอักเสบอาจทำให้มีตุ่มแดงที่ทำให้คันและระคายเคือง หรือเกิดเป็นตุ่มหนอง สิวผดเป็นภาวะทางผิวหนังที่พบได้ในคนทุกวัย โดยเฉพาะในคนที่ผิวบอบบางและแพ้ง่าย สิวผดอาจเกิดจากการสัมผัสปัจจัยภายนอกที่ทำให้เกิดสิว เช่น อากาศร้อนและแสงแดดที่ทำให้เหงื่อออกมาก สารก่อภูมิแพ้อย่างขนสัตว์ สารเคมี สิ่งสกปรก น้ำ หรือมลภาวะ ผิวเสียดสีกับวัตถุอย่างหน้ากากอนามัย ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน นอกจากนี้ ยังอาจเกิดจากการติดเชื้อยีสต์ในกลุ่มมาลาสซีเซีย (Malassezia species) ซึ่งเป็นเชื้อที่พบได้ทั่วไปบนผิวหนัง แต่หากเชื้อเจริญเติบโตมากผิดปกติจะทำให้รูขุมขนอุดตันและเกิดสิวผดที่แก้ม รวมถึงผิวบริเวณอื่น ๆ เช่น หน้าผาก คาง […]


การดูแลและทำความสะอาดผิว

ครีมลดฝ้า กระ ควรมีส่วนผสมอะไรบ้าง

ฝ้า กระ เป็นปัญหาผิวที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีผิวใต้ชั้นผิวหนัง จนทำให้เกิดฝ้าเป็นปื้นสีดำหรือสีน้ำตาลขนาดใหญ่ และกระที่เป็นจุดกลมเล็ก ๆ สีน้ำตาลกระจายบนผิวหนัง ซึ่งอาจรักษาเพื่อบรรเทาอาการได้ด้วยการใช้ ครีมลดฝ้า กระ ที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี ช่วยผลัดเซลล์ผิว และชะลอการสร้างเม็ดสีในชั้นผิวหนัง เพื่อให้ผิวดูสม่ำเสมอและกระจ่างใสขึ้น [embed-health-tool-bmi] ฝ้า และ กระ แตกต่างกันอย่างไร ความแตกต่างระหว่างฝ้าและกระ อาจมีดังนี้ ฝ้า เป็นความผิดปกติของเม็ดสีผิวใต้ชั้นผิวหนังจนทำให้เกิดจุดด่างดำเป็นปื้นขนาดใหญ่สีดำหรือสีน้ำตาล ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการสัมผัสรังสียูวีในแสงแดดมากเกินไป นอกจากนี้ ยังอาจมีสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การกินยาบางชนิด และการแพ้เครื่องสำอาง กระ เป็นปัญหาผิวที่เกิดขึ้นเมื่อมีการรวมตัวของเม็ดสีผิวใต้ผิวหนังมากเกินไป จนเกิดเป็นจุดสีน้ำตาลกระจายบนผิวหนัง พบได้บ่อยในช่วงวัยเด็กและผู้ที่มีผิวขาว โดยกระอาจแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ กระตามกรรมพันธุ์ (Ephelides) จะเกิดขึ้นตั้งแต่อายุยังน้อย และกระแดด (Solar Lentigines) ซึ่งที่พัฒนาเมื่ออายุมากขึ้นประมาณ 50 ปีขึ้นไป หรือเรียกว่า จุดด่างอายุ (Age Spots) ดังนั้น ความแตกต่างของฝ้าและกระ อาจแยกได้จากสาเหตุของการเกิดฝ้าและกระ รวมถึงลักษณะของฝ้าและกระ โดยสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดฝ้า คือ เม็ดสีผิวผิดปกติ สว่นใหญ่เกิดจากการสัมผัสกับรังสียูวีในแสงแดดมากเกินไป และมีลักษณะเป็นปื้นสีดำหรือสีน้ำตาลขนาดใหญ่ ในขณะที่สาเหตุส่วนใหญ่ของการเกิดกระ คือ การสืบทอดทางพันธุกรรม และกระจะมีลักษณะเป็นจุดกลมเล็ก […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน