คำจำกัดความ
ไวรัสลงกระเพาะและลำไส้ คืออะไร
ไวรัสลงกระเพาะและลำไส้ หรือไวรัสลงกระเพาะ (Viral Gastroenteritis) หรือที่เรียกว่า ไข้หว้ดลงกระเพาะ (stomach flu) เป็นการติดเชื้อในลำไส้ทำให้เกิดอาการถ่ายเหลว ปวดท้องอย่างรุนแรง คลื่นไส้หรืออาเจียน และในบางครั้งอาจมีไข้ร่วมด้วย ซึ่งอาจเป็นปัญหาร้ายแรงสำหรับทารก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง เพราะอาจถึงแก่ชีวิตได้
ไวรัสลงกระเพาะและลำไส้ พบได้บ่อยได้แค่ไหน
โรคไวรัสลงกระเพาะสามารถพบได้บ่อยมาก อย่างไรก็ดี โรคนี้สามารถจัดการได้ด้วยการลดปัจจัยเสี่ยง โปรดปรึกษากับแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
อาการ
อาการ
อาการทั่วไปของโรคไข้หวัดลงกระเพาะ ได้แก่
- ถ่ายเหลว ซึ่งมักไม่มีเลือดปน การถ่ายที่มีเลือดปนมักเกิดจากการติดเชื้อชนิดอื่นที่รุนแรงกว่า
- ปวดท้องรุนแรง
- คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการทั้งสองอย่าง
- ปวดกล้ามเนื้อและปวดศีรษะในบางครั้ง
- มีไข้ต่ำ
สำหรับผู้ป่วยบางราย อาจมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการนอกเหนือจากที่ระบุไว้ข้างต้น หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอาการต่าง ๆ โปรดปรึกษาแพทย์
ควรไปพบคุณหมอเมื่อใด
ควรเข้าพบคุณหมอ หากมีอาการดังต่อไปนี้
- ไม่สามาถหยุดถ่ายเป็นเวลา 24 ชั่วโมง
- อาเจียนติดต่อกันมากกว่า 2 วัน หรืออาเจียนเป็นเลือด
- มีภาวะขาดน้ำ คือเหงื่อออกมากกว่าปกติ ปากแห้ง ปัสสาวะมีสีเหลืองเข้ม ปัสสาวะน้อยหรือปัสสาวะไม่ออก รวมทั้งอ่อนเพลีย เวียนศีรษะ หรือมึนศีรษะอย่างรุนแรง
- มีเลือดปนในอุจจาระ
- มีไข้สูงกว่า 40 องศาเซลเซียส สำหรับผู้ใหญ่ และ 39 องศาเซลเซียส สำหรับทารกและเด็ก
หากคุณมีสัญญาณหรืออาการที่ระบุข้างต้น หรือมีข้อสงสัยใดๆ โปรดปรึกษาแพทย์
ร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดควรปรึกษาแพทย์ เกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ของคุณ
สาเหตุ
สาเหตุของ ไวรัสลงกระเพาะและลำไส้
สาเหตุที่พบได้มากที่สุดของโรคไวรัสลงกระเพาะและลำไส้ คือ การสัมผัสกับผู้ติดเชื้อหรือการบริโภคอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อน โดยมีไวรัสหลายชนิดที่สามารถทำให้เกิดโรคไวรัสลงกระเพาะและลำไส้ได้ เช่น โนโรไวรัส (Norovirus) ไวรัสโรต้า (Rotavirus)
ปัจจัยเสี่ยง
ปัจจัยเสี่ยงของไวรัสลงกระเพาะและลำไส้
กลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสสูงในการเกิดไวรัสลงกระเพาะและลำไส้ ได้แก่
- เด็กเล็ก เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันยังเจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่ การที่เด็กใช้เวลาอยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็กหรือโรงเรียนประถมศึกษาก็ยิ่งทำให้เสี่ยงได้รับเชื้อสูงขึ้น
- ผู้สูงอายุ ระบบภูมิคุ้มกันของผู้ใหญ่มีแนวโน้มลดลงเมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุในสถานพยาบาลจะมีความไวต่อเชื้อ เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรงและอยู่อาศัยใกล้ชิดกับผู้สูงอายุรายอื่นที่อาจแพร่เชื้อโรคได้
- เด็กนักเรียน ผู้อาศัยในหอพัก หรืออยู่ในสถานที่ปิดที่มีคนอยู่กันมากๆ ซึ่งถือเป็นสภาพแวดล้อมที่ทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายได้มากขึ้น
- ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ ผู้ที่มีการต้านเชื้อต่ำจากภาวะต่างๆ เช่น ระบบภูมิคุ้มกันเกิดความบกพร่องจากเชื้อเอชไอวี จากโรคเอดส์ การเข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัด หรือภาวะสุขภาพอื่นๆอาจมีความเสี่ยงสูงกว่าคนอื่น
การวินิจฉัยโรคและการรักษาโรค
ข้อมูลที่นำเสนอไม่สามารถใช้แทนข้อแนะนำทางการแพทย์ได้ โปรดปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
การวินิจฉัยโรคไวรัสลงกระเพาะและลำไส้
การตรวจตามอาการและการตรวจร่างการมักนำมาใช้เพื่อวินิจฉัย
โรคไวรัสลงกระเพาะและลำไส้ นอกจากนี้ การตรวจอุจจาระก็สามารถ ตรวจจับโนโรไวรัส หรือไวรัสโรต้า ตลอดจนการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือพยาธิได้
การรักษาโรคไวรัสลงกระเพาะและลำไส้
ยังไม่มีการรักษาเฉพาะสำหรับโรคไวรัสลงกระเพาะและลำไส้ แม้แต่การใช้ยาปฏิชีวนะก็ไม่สามารถต้านไวรัสได้ อีกทั้งการใช้ยาปฏิชีวนะมากเกินไปอาจทำให้เกิดแบคทีเรียสายพันธุ์ที่ดื้อยาได้ การรักษาในเบื้องต้นที่แนะนำนั้นคือ การดูแลตนเอง
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตนเอง
การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการเยียวยาตัวเองที่ช่วยจัดการกับโรคไวรัสลงกระเพาะและลำไส้
การเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์บางประการอาจช่วยให้คุณรับมือกับโรคไวรัสลงกระเพาะและลำไส้ได้
- ดื่มของเหลวใส เช่น น้ำเปล่า น้ำซุป ซึ่งเป็นของเหลวที่ดีที่สุดที่ควรบริโภค และหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์
- รับประทานอาหารที่ย่อยง่าย เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก กล้วย ไก่ และควรงดรับประทานอาหารใดๆ หากอาการคลื่นไส้กำเริบ
- หลีกเลี่ยงอาหารและสารบางชนิดจนกว่าจะรู้สึกดีขึ้น เช่น ผลิตภัณฑ์จากนม คาเฟอีน แอลกอฮอล์ นิโคติน อาหารไขมันสูง อาหารรสจัด
- พักผ่อนให้มากๆ อาการป่วยและภาวะขาดน้ำอาจทำให้คุณอ่อนเพลีย และเหนื่อยล้าได้
หากคุณมีข้อสงสัยใดๆ โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อให้เข้าใจวิธีการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmr]