เจ็บใต้ราวอกซ้าย เป็นหนึ่งในสัญญาณทางสุขภาพเบื้องต้นที่ช่วยเตือนให้รู้ถึงความปกติของร่างกายตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นจุดที่มีอวัยวะสำคัญ ๆ ซึ่งต้องหมั่นสังเกตและตรวจสอบไว้เป็นระยะ ๆ ว่าอาการเจ็บน้อย ปาน กลาง และมากนั้น สะท้อนปัญหาสุขภาพด้านใดได้บ้าง
[embed-health-tool-bmi]
เจ็บใต้ราวอกซ้าย เสี่ยงต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง
บริเวณหน้าอกข้างซ้าย หรือใต้ราวนมซ้าย เป็นจุดที่มีอวัยวะสำคัญ ๆ หลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นหัวใจ ปอด กระเพาะอาหาร หรือไตดังนั้น หากเกิดอาการเจ็บหรือปวดบริเวณใต้ราวอกข้างซ้ายขึ้น อาจสะท้อนปัญหาสุขภาพได้หลายรูปแบบ ทั้งยังต้องดูอาการอื่น ๆ ประกอบด้วย เพื่อให้สามารถจำแนกปัญหาสุขภาพที่เฉพาะเจาะจงได้มากขึ้น โดยทั่วไปแล้วหากเจ็บใต้ราวอกซ้าย อาจหมายถึงสัญญาณเตือนปัญหาสุขภาพ ดังนี้
1. หัวใจขาดเลือด
เนื่องจากบริเวณใต้ราวอกซ้ายเป็นจุดที่อยู่ใกล้กับหัวใจ หากเกิด อาการเจ็บใต้ราวอกซ้าย จึงอาจเป็นสัญญาณความเสี่ยงของภาวะหัวใจวายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการดังต่อไปนี้ร่วมด้วย
- เหงื่อออกมาก
- ใจสั่น เจ็บแน่น
- คลื่นไส้หรืออาเจียน
- หายใจถี่และสั้น
- ปวดที่แขนหรือไหล่
- อาการเจ็บลามไปยังแขน คอ ขากรรไกร หลัง และอวัยวะอื่น ๆ
- วิงเวียนศีรษะ
2. เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ
โดยปกติหัวใจมีเยื่อบาง ๆ ล้อมรอบ เรียกว่าเยื่อหุ้มหัวใจ เมื่อเยื่อนี้เกิดอาการระคายเคืองหรืออักเสบเนื่องจากการติดเชื้อ หรือความผิดปกติทางระบบภูมิคุ้มกัน ปัจจัยเหล่านี้จะก่อให้เกิด อาการเจ็บใต้ราวอกซ้าย หรือกลางหน้าอก โดยจะมีอาการปวดที่เจ็บแปลบขึ้นมาเวลาไอ เวลานอน หรือเวลารับประทานอาหาร อีกทั้งอาการปวดยังอาจจะร้าวไปยังไหล่ คอ และหลังด้วย
3. เยื้อหุ้มปอดอักเสบ
โดยปกติแล้วปอดจะมีเยื่อหุ้ม ล้อมรอบอยู่ หากมีอาการระคายเคืองหรืออักเสบขึ้นที่เยื่อหุ้มปอดก็จะส่งผลให้เกิด อาการเจ็บใต้ราวอกซ้าย หรือบริเวณกลางหน้าอก ประกอบกับมีอาการดังต่อไปนี้ร่วมด้วย
- เจ็บหน้าอกเวลาหายใจ
- หายใจตื้น เนื่องจากจะรู้สึกเจ็บหน้าอกเวลาหายใจเข้ามากเป็นพิเศษ จึงมีการหายใจตื้น ๆ เพื่อลดอาการเจ็บปวด
4. โรคกระเพาะอาหารอักเสบ
เมื่อเยื่อบุในกระเพาะอาหารเกิดการระคายเคืองและอักเสบ จะส่งผลให้มีอาการเจ็บแปลบขึ้นที่กลางหน้าอกหรือบริเวณใต้ราวนมซ้าย พร้อมกับมีอาการจุกเสียด แน่นท้อง ท้องอืด หรืออาเจียนร่วมด้วย
5. กระดูกอ่อนซี่โครงอักเสบ
ภาวะกระดูกอ่อนของซี่โครงอักเสบนี้ เกิดได้จากหลายสาเหตุเช่นการบาดเจ็บเวลาที่ยกของหนัก การไอหรือจามอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน หรือมีการติดเชื้อบริเวณกระดูกอ่อนที่ยึดกับซี่โครง ส่งผลให้เกิด อาการเจ็บใต้ราวอกซ้าย มากไปกว่านั้น อาการของกระดูกอ่อนซี่โครงอักเสบจะมีอาการอื่น ๆ ที่คล้ายกับหัวใจวาย แต่อาการของกระดูกอ่อนซี่โครงอักเสบจะมีข้อแตกต่าง ดังนี้
- ไม่มีอาการเหงื่อออก
- อาการเจ็บปวดจะอยู่เฉพาะบริเวณใต้ราวนมซ้ายและซี่โครง ไม่ลุกลามไปยังอวัยวะอื่น ๆ
- สามารถหายใจได้เป็นปกติ แต่จะรู้สึกเจ็บซี่โครงเวลาหายใจเข้าออกลึก ๆ
6. ตับอ่อนอักเสบ
เมื่อเอนไซม์ที่ใช้ในการย่อยอาหารทำงานผิดปกติ จะสร้างความระคายเคือนให้ตับอ่อนหรือเกิดการอักเสบ ทำให้เกิดอาการปวดขึ้นมาอย่างเฉียบพลันที่บริเวณใต้ราวอกข้างซ้ายและบริเวณลิ่นปี่ อาการปวดมักจะร้าวทะลุหลัง ในบางครั้งผู้ป่วยให้ประวัติว่าสามารถพบร่วมกับอาการดังต่อไปนี้
- คลื่นไส้และอาเจียน
- ชีพจรเต้นเร็ว
- มีไข้
หากมีอาการปวดเนื่องจากตับอ่อนอักเสบเป็นประจำ จะสามารถกลายเป็นโรคตับอ่อนอักเสบเรื้อรังได้ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งตับอ่อนได้ในอนาคต 7. การบาดเจ็บที่ม้าม และม้ามโต
ม้าม เป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่ในการกรองเม็ดเลือดที่หมดอายุเพื่อทำลาย อุบัติเหตุใด ๆ ก็ตามที่ส่งผลให้ม้ามเกิดการบาดเจ็บ ไม่ว่าจะอุบัติเหตุทางรถยนต์ การพลักตก หกล้ม การกระแทก หรือการที่ม้ามโตกว่าปกติ ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ที่เกิดขึ้นบริเวณม้าม จะทำให้ม้ามอ่อนแอ เสี่ยงที่จะทำให้เกิดภาวะเลือดรั่วเข้าสู่ช่องท้อง และก่อให้เกิด อาการปวดเจ็บใต้ราวอกซ้าย
8. ไส้เลื่อนกระบังลม
ไส้เลื่อนกระบังลมเกิดจากการที่กระเพาะอาหารส่วนบนมีการเคลื่อนตัวไปยังบริเวณช่องอก ทำให้กรดที่ใช้ในการย่อยอาหารไหลย้อนกลับไปยังหลอดอาหาร ส่งผลให้มีอาการแน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก และ อาการเจ็บใต้ราวอกซ้าย ประกอบกับมีอาการดังต่อไปนี้ร่วมด้วย
- เรอ
- กลืนอาหารลำบาก
- ร่างกายไม่สามารถลำเลียงก๊าซหรืออุจจาระได้
เมื่อใดควรไปพบคุณหมอ
เจ็บใต้ราวอกซ้าย มีหลายอาการและหลายระดับ ตั้งแต่เจ็บเพียงเล็กน้อยและไม่รุนแรง ไปจนถึงระดับที่รุนแรงมากและเป็นอันตราย แต่ถ้าหากมี อาการเจ็บใต้ราวอกซ้าย พร้อมกับอาการดังต่อไปนี้ ควรไปพบคุณหมอ
- มีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับหัวใจ ปอดอยู่แล้ว
- หายใจถี่และสั้น
- หายใจไม่ออก หรือหายใจลำบาก
- มีการบาดเจ็บที่หน้าอก
- มี อาการเจ็บใต้ราวอกซ้าย หรือเจ็บหน้าอกอย่างเฉียบพลัน
- อุจจาระเปลี่ยนสี เช่น มีเลือดปน หรือมีสีดำคล้ายน้ำมันดิบ
- อาการปวดเริ่มส่งต่อไปยังอวัยวะอื่น ๆ
- มีเหงื่อออกมาก