ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป เป็นเรื่องที่ทุกคนควจะต้องรู้เอาไว้ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสุขภาพของตัวเองและคนในครอบครัว ซึ่งเรื่องราวที่คุณจะอ่านเรารวบรวมเอาไว้ให้แล้ว

เรื่องเด่นประจำหมวด

ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

โรคไวรัสตับอักเสบบี คือโรคอะไร ใครควรได้รับวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี

โรคไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B) เป็นหนึ่งในไวรัสตับอักเสบ ซึ่งมีทั้งหมด 5 ชนิด ได้แก่ ไวรัสตับอักเสบ เอ บี ซี ดี และอี โดยไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี เป็นชนิดที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก และในปัจจุบันยังไม่มียารักษาโดยตรง มีเพียงยาที่ช่วยไม่ให้ตับถูกทำลาย โรคไวรัสตับอักเสบบี จึงเป็นโรคที่ควรตรวจคัดกรองเพื่อเข้ารับการรักษาโดยเร็ว และป้องกันด้วยการฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี  [embed-health-tool-vaccination-tool] โรคไวรัสตับอักเสบบี คืออะไร ไวรัสตับอักเสบบี เป็นโรคตับอักเสบชนิดหนึ่ง หรือเกิดจากการอักเสบของเซลล์ตับ สาเหตุจากการ ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBV) อาจทำให้เซลล์ตับตาย ความรุนแรงของโรคไวรัสตับอักเสบ บี เมื่อเป็นเรื้อรังจะเกิดพังผืด อาจกลายเป็นตับแข็ง นำสู่โรคมะเร็งตับได้  การติดต่อของเชื้อไวรัสตับอักเสบบี  ส่วนใหญ่การติดต่อของโรคเกิดจากการถ่ายทอดจากแม่ที่ติดเชื้อสู่ทารก ไม่ติดต่อผ่านทางการสัมผัสภายนอก ไม่ติดต่อหลักทางน้ำลาย แต่ติดต่อได้ ดังนี้ สามารถเกิดได้จากการเจาะหรือสักผิวหนัง ด้วยเครื่องมือที่ไม่สะอาด ไม่ได้มาตรฐาน เชื้อเข้าทางบาดแผล หรือการใช้ยาเสพติด การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยป้องกัน  สัมผัสกับเลือดหรือสารคัดหลั่งของผู้ที่ติดเชื้อ อาการของผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี เชื้อไวรัสตับอักเสบบีจะไม่แสดงอาการในทันที แต่จะใช้เวลาฟักตัว 2-3 เดือน จึงเริ่มมีอาการ เช่น เกิดการอ่อนเพลียคล้ายกับโรคหวัด คลื่นไส้ อาเจียน จุกแน่นใต้ชายโครงขวาจากตับโต  สีปัสสาวะเข้มขึ้น […]

สำรวจ ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ภาวะปวดหลอน (Phantom Pain)

ภาวะปวดหลอน (Phantom Pain) เป็นอาการที่ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บปวดหลังจากถูกตัดอวัยวะบางส่วนออกจากร่างกายเพราะคิดว่าอวัยวะที่ถูกตัดออกยังคงอยู่และสร้างความเจ็บปวดให้กับร่างกาย ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเริ่มมีอาการปวดหลอนหลังจากถูกตัดอวัยวะได้ประมาณ  1 สัปดาห์ คำจำกัดความภาวะปวดหลอน (Phantom Pain) คืออะไร ภาวะปวดหลอน (Phantom Pain) เป็นอาการที่ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บปวดหลังจากถูกตัดอวัยวะบางส่วนออกจากร่างกายเพราะคิดว่าอวัยวะที่ถูกตัดออกยังคงอยู่และสร้างความเจ็บปวดให้กับร่างกาย ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเริ่มมีอาการปวดหลอนหลังจากถูกตัดอวัยวะได้ประมาณ  1 สัปดาห์ พบได้บ่อยเพียงใด ภาวะปวดหลอนมักขึ้นกับผู้ป่วยที่ถูกตัดอวัยวะ อาการอาการของภาวะปวดหลอน ผู้ป่วยอาการปวดหลอนจะมีอาการที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะมีอาการปวดหลอนหลังจากการสูญเสียอวัยวะประมาณ 1 สัปดาห์  มีอาการแสดงออก เช่น คัน ชา ตะคริว รู้สึกปวดบิด ปวดแสบ ควรไปพบหมอเมื่อใด หากคุณมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการใด ๆ ตามที่ระบุข้างต้น หรือมีคำถาม โปรดปรึกษาแพทย์ ร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ของคุณ สาเหตุสาเหตุของภาวะปวดหลอน ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของภาวะปวดหลอน แต่มีข้อสันนิษฐานว่าอาจเกิดจาก ความผิดปกติของเส้นประสาทส่วนปลายของอวัยวะที่ถูกตัดขา ทำให้ให้บริเวณที่สูญเสียอวัยวะไวต่อความรู้สึกมากกว่าปกติ ปัจจัยเสี่ยงภาวะปวดหลอน ปัจจัยดังต่อไปนี้อาจเพิ่มความเสี่ยงของภาวะปวดหลอน ความเจ็บปวดก่อนการผ่าตัดอวัยวะ ก่อนที่จะทำการผ่าตัดอวัยวะ เรายังมีความทรงจำของความเจ็บปวด เมื่อผ่าตัดแล้วอาจทำให้ความทรงจำเจ็บปวดตรงนั้นยังคงอยู่ อาการปวดหลังการผ่าตัดอวัยวะ อาจเกิดจากความผิดปกติของเส้นประสาทส่วนปลาย การวินิจฉัยและการรักษาข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม การวินิจฉัยภาวะปวดหลอน ในเบื้องต้นแพทย์จะสอบถามประวัติและอาการของผู้ป่วยอย่างละเอียด เพื่อจะได้วินิจฉัยและรักษาอาการได้อย่างถูกต้อง การรักษาภาวะปวดหลอน การรักษาภาวะปวดหลอนขึ้นอยู่กับสาเหตุและอาการของแต่ละบุคคล โดยมีรายละเอียดวิธีการรักษาดังต่อไปนี้ การรักษาด้วยยา ในปัจจุบันไม่มียาที่ใช้สำหรับรักษาภาวะปวดหลอนเฉพาะ แพทย์จะจ่ายยาเพื่อบรรเทาอาการปวดหลอน ดังนี้ กลุ่มยาโอทีซี (Over-the-counter drugs : OTC) เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) นาพรอกเซน (Naproxen) ยาพาราเซตามอล (Paracetamol) หรืออะเซตามีโนเฟน […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ต่อมน้ำลายติดเชื้อ (Salivary Gland Infection)

หากคุณลองสังเกตตนเองว่าเริ่มมีอาการเจ็บปวดบริเวณภายในช่องปาก และลำคอ หรือมีอาการต่อมรับรสเกิดการบกพร่องขณะรับประทานอาหาร ควรสำรวจอาการตนเองและรีบเร่งรักษา หรืออาจเข้ารับคำปรึกษาจากคุณหมอโดยด่วน เพราะคุณอาจมีความเสี่ยงเป็นโรค ต่อมน้ำลายติดเชื้อ (Salivary Gland Infection) ได้ คำจำกัดความต่อมน้ำลายติดเชื้อ (Salivary Gland Infection) คืออะไร ต่อมน้ำลายติดเชื้อ (Salivary Gland Infection) สามารถเกิดได้จากแบคทีเรีย หรือไวรัสที่เข้าไปรบกวนการทำงานภายในต่อมน้ำลายของคุณ จนส่งผลให้มีการอุดตัน หรือติดเชื้อขึ้น โดยต่อมน้ำลายที่ได้รับการติดเชื้อส่วนใหญ่มีอยู่ทั้งหมด 3 คู่ด้วยกัน ดังนี้ ต่อมน้ำลายบริเวณกกหู (Parotid gland) ซึ่งเป็นต่อมน้ำลายที่ใหญ่ที่สุด ต่อมน้ำลายบริเวณขากรรไกรล่าง (Submaxillary gland) ที่อาจอยู่ด้านหลังกรามล่าง และคาง นับว่าเป็นต่อมน้ำลายที่ผลิตน้ำลายได้มากที่สุด ต่อมน้ำลายใต้ลิ้น (Sublingual gland) เป็นต่อมน้ำลายที่ค่อนข้างเล็กที่สุดอยู่บริเวณใต้ลิ้น ผลิตได้ทั้งน้ำลายชนิดใส เหนียว ข้น ต่อมน้ำลายติดเชื้อ สามารถพบบ่อยได้เพียงใด ต่อมน้ำลายติดเชื้ออาจเกิดขึ้นได้ทุกเพศ และทุกช่วงวัยตั้งแต่ในวัยทารก วัยผู้ใหญ่ จนถึงวัยผู้สูงอายุ รวมทั้งผู้ที่กำลังประสบกับภาวะโรคเรื้อรัง อาการอาการของต่อมน้ำลายติดเชื้อ สำหรับผู้ป่วยบางรายหากมีอาการบวมเล็กน้อย อาจทำให้โรคนี้สามารถหายไปได้เองภายในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์ แต่สำหรับผู้ที่มีอาการติดเชื้ออย่างรุนแรงนั้น อาจทำให้อาการเจ็บปวดดังต่อไปนี้ อยู่ได้นานถึง 1 สัปดาห์ หรืออาจมากกว่านั้น ตามสภาวะทางสุขภาพของแต่ละบุคคล พร้อมทั้งยังขึ้นอยู่กับตำแหน่งของต่อมน้ำลายที่เกิดการติดเชื้อร่วมด้วย มีก้อนบวมบริเวณใกล้เคียงกับขากรรไกร ลำคอ […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

หุ่นทรงแอปเปิ้ล ออกกำลังกายและกินอาหารแบบไหนถึงจะดี

หุ่นของคนเรานั้นสามารถที่จะจำแนกออกมาได้หลายประเภท ซึ่งหุ่นโดยทั่วไปที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี ได้แก่ หุ่นทรงลูกแพร์ หุ่นทรงแอปเปิ้ล หุ่นทรงสามเหลี่ยมคว่ำ (Inverted Triangle) หุ่นทรงนาฬิกาทราย (Hourglass) และหุ่นทรงกระบอก โดยหุ่นที่แตกต่างกันนี้ ก็อาจจะต้องมีวิธีดูแลตัวเองด้วยการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายที่แตกต่างกันเพื่อให้เหมาะสมกับรูปร่างแต่ละแบบที่แตกต่างกันออกไป วันนี้ Hello คุณหมอ จะพาคุณผู้อ่านทุกท่านมารู้จักกับวิธีดูแลตัวเอง หากคุณเป็นคนที่มีหุ่นทรงแอปเปิ้ล หุ่นทรงแอปเปิ้ล เป็นอย่างไร หุ่นทรงแอปเปิ้ลนั้น คือ ลักษณะร่างกายที่มีโครงร่างขนาดใหญ่ กล่าวคือ มีช่วงแขน บ่า ไหล่ ที่กว้างและใหญ่ มีเอวและสะโพกที่หนา แต่บริเวณบั้นท้ายและส่วนช่วงขากลับมีขนาดเล็กและบาง  ความเสี่ยงต่อสุขภาพของคนที่มี หุ่นทรงแอปเปิ้ล ผู้ที่มีหุ่นในลักษณะนี้จะดูเป็นคนรูปร่างท้วม ค่อนไปทางอวบหรืออ้วน โดยเฉพาะช่วงกลางลำตัวที่มีขนาดใหญ่ ได้แก่ ช่วงหน้าท้อง ที่มักจะมีไขมันสะสมอยู่มาก และเนื่องจากหุ่นลักษณะนี้มีแนวโน้มของการเพิ่มน้ำหนักที่ง่าย จึงมีความเสี่ยงต่ออาการทางสุขภาพแบบเรื้อรัง เช่น โรคอ้วน โรคหัวใจ โรคเบาหวาน เป็นต้น อาจกล่าวได้ว่าผู้ที่มีรูปร่างแบบหุ่นทรงแอปเปิ้ล จำเป็นจะต้องใส่ใจดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ หุ่นทรงแอปเปิ้ลควรกินอาหารแบบไหน เนื่องจากหุ่นทรงแอปเปิ้ลนั้นมีอัตราสูงที่จะมีน้ำหนักเพิ่ม ซึ่งจะเสี่ยงเป็นโรคเรื้อรังอย่าง โรคอ้วน โรคหัวใจ โรคเบาหวาน ดังนั้นการรับประทานอาหารสำหรับคนที่มีหุ่นทรงแอปเปิ้ล จึงควรลดการรับประทานคาร์โบไฮเดรตและไขมันที่ไม่ดี เพื่อจะได้ช่วยลดไขมันที่หน้าท้องและความเสี่ยงต่อสุขภาพอื่นๆ หรืออาจใช้ไอเดียในการรับประทานอาหารดังนี้ เช่น มื้อเช้าอาจรับประทานเป็น ข้าวไข่เจียว ผักสลัด มื้อเที่ยงอาจรับประทานเป็น ไก่ย่าง […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

หุ่นทรงลูกแพร์ ออกกำลังกายและกินอาหารแบบไหนถึงจะดี

หุ่นของคนเรานั้นสามารถที่จะจำแนกออกมาได้หลายประเภท ซึ่งหุ่นโดยทั่วไปที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี ได้แก่ หุ่นทรงลูกแพร์ หุ่นทรงแอปเปิ้ล หุ่นทรงสามเหลี่ยมคว่ำ (Inverted Triangle) หุ่นทรงนาฬิกาทราย (Hourglass) และหุ่นทรงกระบอก โดยหุ่นที่แตกต่างกันนี้ ก็อาจจะต้องมีวิธีดูแลตัวเองด้วยการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายที่ต่างกันเพื่อให้เหมาะสมกับรูปร่างแต่ละแบบที่แตกต่างกันออกไป วันนี้ Hello คุณหมอ จะพาคุณผู้อ่านทุกท่านมารู้จักกับวิธีดูแลตัวเอง หากคุณเป็นคนที่มีหุ่นทรงลูกแพร์ [embed-health-tool-bmi] หุ่นทรงลูกแพร์ เป็นอย่างไร หุ่นแบบลูกแพร์ คือ ลักษณะของหุ่นที่หากพูดตามภาษาปากก็คือช่วงบนเล็ก ช่วงล่างใหญ่ กล่าวคือบริเวณอก ไหล่ ต้นแขน จะมีขนาดเล็ก มีเอวที่บางหรือเล็กกว่าสะโพก แต่ส่วนของสะโพกไปจนถึงขา จะมีลักษณะผายและใหญ่ หุ่นแบบนี้จะไม่ถึงกับเรียกว่าอ้วน คนดังระดับโลกหลายคนก็มีหุ่นลักษณะแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็น เจนนิเฟอร์ โลเปซ รีฮานน่า คิม คาร์ดาเชียน ก็ล้วนแล้วแต่มีโครงสร้างทางร่างกายแบบช่วงบนเล็ก ช่วงล่างใหญ่ มีสะโพกใหญ่ บั้นท้ายผาย ทำให้ดูเซ็กซี่ มีเสน่ห์ และชวนมอง ความเสี่ยงต่อสุขภาพของคนที่มี หุ่นทรงลูกแพร์ เนื่องจากรูปร่างทรงลูกแพร์นั้นจะมีการสะสมไขมันเอาไว้ที่บริเวณส่วนหน้าท้อง สะโพก และต้นขา ซึ่งหากไม่ดูแลหรือมีการควบคุมน้ำหนัก ก็อาจจะเสี่ยงจะเป็นโรคอ้วน ซึ่งจะนำความเสี่ยงของอาการทางสุขภาพเรื้อรังอื่นๆ ตามมา เช่น คอเลสเตอรอลสูง เบาหวาน โรคหัวใจ […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

เทคนิคการ กำจัดแมลงสาบ ตัวร้าย ให้หายไปจากบ้าน

เมื่อพูดถึงแมลงสาบ ไม่ว่าใครที่ได้ยินต่างก็คงต้องร้องยี๊ เจ้าแมลงหลายขาที่น่ารังเกียจเหล่านี้ ไม่เพียงแต่จะมีรูปร่างหน้าตาที่น่ากลัว น่าขยะแขยงแล้ว ยังสามารถนำพาเชื้อโรคร้ายมาสู่คนในบ้านได้อีกด้วย วันนี้ Hello คุณหมอ จะมานำเสนอเกี่ยวกับอันตรายของ แมลงสาบ และเทคนิคการป้องกันบ้าน ให้ปลอดภัยจากแมลงสาบ แมลงสาบ คืออะไร แมลงสาบ (Cockroaches) คือแมลงชนิดหนึ่งที่มีลักษณะมีหกขา มีหนวดยาว และมีปีกแมลงขนาดใหญ่ 2 ข้าง มีสีและขนาดแตกต่างกันออกไปตามแต่ละสายพันธุ์ แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว จะมีสีน้ำตาลแก่ ไปจนถึงสีดำ และมีขนาดประมาณ 1 นิ้ว วงจรชีวิตของแมลงสาบจะประกอบไปด้วย 3 ระยะ คือ ระยะไข่ ตัวอ่อน และตัวเต็มวัย เนื่องจากความทนทานต่อสภาพภูมิอากาศ และความไวในการแพร่พันธุ์ จึงทำให้เราสามารถพบแมลงสาบได้ตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคเขตร้อน ในปัจจุบันสายพันธุ์ของแมลงสาบนั้นมีมากกว่า 30 สกุล และมากกว่า 4,500 ชนิดทั่วโลก แมลงสาบ อันตรายอย่างไรต่อสุขภาพ จากข้อมูลของสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อม (Environmental Protection Agency ; EPA) พบว่า แมลงสาบนั้นเป็นพานะนำเชื้อแบคทีเรียที่สามารถก่อให้เกิดโรคในคนได้ และเมื่อแมลงสาบเหล่านี้ไปกินอาหารหรือวัตถุดิบประกอบอาหาร ก็อาจทำให้คนที่รับประทานอาหารต่อจากนั้นติดเชื้อแบคทีเรียเหล่านี้ได้ เชื้อแบคทีเรียก่อโรคในคนที่อาจพบได้ในแมลงสาบ […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

รู้หรือไม่ อากาศร้อน อันตรายต่อร่างกายมากกว่าที่เราคิด

อากาศร้อนกับประเทศไทยนั้นดูเหมือนจะเป็นของคู่กันไปเสียแล้ว เนื่องจากประเทศไทยนั้นเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในเขตร้อนใกล้เส้นศูนย์สูตร จึงทำให้มีอากาศร้อนอยู่เกือบตลอดทั้งปี จนทำให้หลายคนเกิดความเคยชิน และมองว่าเป็นเรื่องปกติที่ไม่มีอันตรายอะไร แต่ในความจริงแล้ว อากาศร้อน อาจมาพร้อมกับปัญหาสุขภาพต่าง ๆ มากมายอย่างที่หลายคนคาดไม่ถึง แต่ปัญหาเหล่านี้มีอะไรบ้าง และสามารถป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร Hello คุณหมอ จะพาคุณไปหาคำตอบได้จากบทความนี้ [embed-health-tool-heart-rate] อากาศร้อน ภัยอันตรายที่หลายคนมองข้าม ตามปกติแล้ว ร่างกายของเราจะสามารถรักษาอุณหภูมิให้อยู่ที่ประมาณ 36 – 37.5 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นระดับปกติที่ร่างกายสามารถทนได้ แต่หากอยู่กลางแจ้งที่มีแดดร้อนเป็นเวลานาน อาจทำให้อุณหภูมิของร่างกายสูงมากเกินไป ทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ยากลำบากขึ้น และเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ จากข้อมูลของกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค พบว่า ในช่วงฤดูร้อนระหว่างเดือน มีนาคมถึงพฤษภาคม ตั้งแต่ปีพ.ศ 2558-2562 จะมีรายงานผู้เสียชีวิตเนื่องจากอากาศร้อนเป็นจำนวนมาก เฉลี่ยที่ประมาณ 38 ราย โดยเฉพาะในเดือนเมษายนที่มักจะมีอากาศร้อนมากที่สุด โดยอันตรายจากอากาศร้อนที่พบได้บ่อย มีดังนี้ โรคลมแดด หรือฮีทสโตรก (Heat Stroke) โรคลมแดดเป็นภาวะที่อันตรายที่สุดที่เกิดขึ้นจากอากาศร้อน โรคลมแดดนี้จะเกิดขึ้นเมื่อระบบควบคุมอุณหภูมิของร่างกายหยุดทำงาน ทำให้ร่างกายไม่สามารถลดอุณหภูมิลงได้ จนระบบและอวัยวะภายในร่างกายเกิดความผิดปกติ โรคลมแดดนี้สามารถสร้างความเสียหายต่อสมองและอวัยวะภายใน หรือทำให้เสียชีวิตได้หากไม่สามารถลดอุณหภูมิของร่างกายได้อย่างทันท่วงที อาการของโรคลมแดดอาจมีดังต่อไปนี้ ปวดหัว คลื่นไส้ กระหายน้ำอย่างรุนแรง ง่วงนอน ผิวแห้ง แตก […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ภาวะน้ำเกิน (Hypervolemia)

ภาวะน้ำเกิน หรือที่เรียกว่า “ภาวะบวมน้ำ” เป็นอาการของภาวะที่น้ำในร่างกายของคุณมากเกินไป แม้ในร่างกายปกติจะมีของเหลวอยู่จำนวนหนึ่ง แต่ปริมาณของเหลวที่มากเกินไป ก็อาจทำลายสุขภาพของคุณได้เช่นกัน [embed-health-tool-bmi] คำจำกัดความ ภาวะน้ำเกิน (Hypervolemia) คืออะไร ภาวะสารน้ำมากเกินไป หรือที่เรียกว่าของเหลวเกินพิกัด เป็นเงื่อนไขของการที่น้ำในร่างกายของคุณมากเกินไป ในขณะที่ร่างกายปกติจะมีของเหลวจำนวนหนึ่งอยู่ในนั้น แต่ของเหลวที่มากเกินไปอาจทำลายสุขภาพของคุณได้ ภาวะน้ำเกินไปเป็นภาวะอย่างหนึ่งของร่างกาย จะเกิดขึ้นเมื่อคุณมีของเหลวในร่างกายมากเกินไป ซึ่งสามารถอธิบายได้ว่า ร่างกายมีการกักเก็บน้ำมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น ตัวบวม ความดันโลหิตสูง ปัญหาหัวใจ และอื่น ๆ ภาวะน้ำเกิน พบบ่อยเพียงใด ภาวะน้ำเกินพบได้ทั่วไปในคนที่เป็นโรคไตเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease หรือ CKD) และไตวาย เนื่องจากไตไม่สามารถกำจัดของเหลวส่วนเกินออกจากร่างกายได้ ซึ่งไม่เหมือนกับคนที่มีสุขภาพดี ทำให้มีของเหลวต่าง ๆ สะสมอยู่ในร่างกายมากเกินไปจากที่ร่างกายต้องการ อาการ อาการของ ภาวะน้ำเกิน อาการที่เกิดขึ้นจากภาวะน้ำเกิน อาจทำให้รู้สึกไม่สบาย เกิดความเครียดในร่างกาย ทั้งยังเป็นปัญหาต่ออวัยวะต่าง ๆ  ซึ่งอาการของภาวะน้ำเกิน มีดังนี้ น้ำหนักเพิ่มอย่างรวดเร็ว อาการบวมที่เห็นได้ชัดเจนในแขน ขา เท้า ข้อเท้า ข้อมือ และใบหน้า อาการบวมในช่องท้อง ตะคริว ปวดศีรษะ ท้องอืด หายใจถี่ เกิดจากของเหลวส่วนเกินเข้าสู่ปอด […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

เคล็ดลับ ดับร้อน ในช่วงอากาศที่แสนจะร้อนอบอ้าว

แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงความร้อน ประเทศไทยถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีอากาศที่ร้อนและอบอ้าวเสียเหลือเกิน อากาศร้อนนอกจากจะทำให้ร่างกายเสียเหงื่อมากแล้ว บางครั้งยังอาจทำให้คนเกิดอารมณ์หงุดหงิดได้อีกด้วย ดังนั้นทาง Hello คุณหมอ จึงได้นำ เคล็ดลับ ดับร้อน ในช่วงอากาศที่แสนอบอ้าวมาฝากกัน เคล็ดลับ ดับร้อน สามารถทำอะไรได้บ้าง ในช่วงอากาศร้อน หลายบ้านอาจจะไม่มีเครื่องปรับอากาศ ดังนั้น การที่จะต้องอยู่ในอากาศที่ร้อนอบอ้าวจึงถือเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับทุกคน ดังนั้น ลองมาดูวิธี ดับร้อน กันดีกว่า ว่าคุณสามารถทำอะไรเพื่อดับร้อนได้บ้าง ใช้พัดลมหรือพัดลมเพดาน เพื่อทำให้อากาศในบ้านไหลเวียนได้ดีขึ้น การเปิดประตูในบ้านและเปิดพัดลมเพื่อดับลมร้อนภายนอก ทั้งยังดึงอากาศที่เย็นเข้ามาในบ้าน ในช่วงเย็น เมื่ออากาศเย็นลงการเปิดหน้าต่างภายในบ้านทั้งหมด จะเป็นการช่วยให้อากาศในบ้านไหลเวียนได้มากที่สุด หลังจากนั้นเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น ก็ให้ปิดประตูและหน้าตาทุกบ้าน อย่าลืมปิดม่านและมู่ลี่ด้วย เพื่อรักษาความเย็นภายในบ้านให้นานที่สุด เมื่ออากาศภายนอกเย็นลงถึงอุณภูมิที่ต่ำกว่าภายใน ซึ่งโดยปกติจะเป็นช่วงเย็นหรือกลางคืน ให้เปิดหน้าต่างแล้วเปิดพัดลมอีกครั้ง ใช้ประโยชน์จากพลังงานความเย็นของน้ำ คุณอาจจะนำถังใส่น้ำแล้วแช่เท้าของคุณ หรือไม่เช่นนั้นอาจจะนำผ้าขนหนูชุดน้ำให้เปียกมาวางลงบนไหล่หรือศีรษะ ไม่อย่างนั้นก็พยายามอาบน้ำเย็น และลองใช้ขวดสเปรย์ที่เต็มไปด้วยน้ำเย็นฉีดใส่ตัวเองเพื่อเพิ่มความรู้สึกสดชื่นตลอดทั้งวัน ดื่มน้ำในปริมาณมาก หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นจากความร้อน ก็คือ การดื่มน้ำปริมาณมาก ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากร่างกายคุณจำเป็นต้องเก็บน้ำเอาไว้ แม้ว่าจะไม่รู้สึกกระหาย และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะขาดน้ำ พยายามหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ น้ำร้อน หรือน้ำหวาน รวมถึงชาและกาแฟ เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถทำให้การกักเก็บน้ำของร่างกายแย่ลง ลงมาอยู่ชั้นล่างของบ้าน เนื่องจากอากาศร้อนมักจะขึ้นไปยังชั้นบนของบ้าน จึงทำให้บ้านชั้นบนรู้สึกอบอ้าวกว่าชั้นล่าง ดังนั้น การลงมาอยู่ชั้นล่างของบ้าน หรือถ้าบ้านมีชั้นใต้ดิน ก็สามารถลงไปอยู่ได้ เพื่อหลบความร้อนจากตอนเที่ยง กำจัดแหล่งความร้อนพิเศษ ในความเป็นจริงแล้ว หลอดไฟ ก็สามารถสร้างความร้อนที่ไม่จำเป็นได้ เช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์ […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

แอลกอฮอลิซึม (Alcoholism) ภาวะติดสุราเรื้อรัง บำบัดได้ เริ่มง่ายๆ ที่ตัวคุณ

แอลกอฮอลิซึม (Alcoholism) หรือโรคพิษสุราเรื้อรัง เป็นภาวะติดสุราเรื้อรัง โดยผู้ที่มีอาการนี้มักจะมีความอยากดื่มสุราเป็นอยากมาก และไม่สามารถลดหรืองดการดื่มได้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการรักษาอาการติดสุราเรื้อรังที่ได้ผลดีที่สุดคือการบำบัดและการรักษาที่โรงพยาบาล การบำบัดการเลิกสุราด้วยวิธีทางธรรมชาตินั้นเป็นเพียงรูปแบบเสริมที่ช่วยให้การรักษาดีขึ้น วันนี้ Hello คุณหมอ จะชวนทุกคนไปรู้จักกับภาวะติดสุราเรื้อรังและวิธีการบำบัดอาการแบบธรรมชาติกันค่ะ [embed-health-tool-bmr] แอลกอฮอลิซึม (Alcoholism) คืออะไร แอลกอฮอล์ลิซึม (Alcoholism) หรือโรคพิษสุราเรื้อรัง เป็นภาวะติดสุราเรื้อรัง ผู้ที่มีอาการติดสุราเรื้อรังจะรู้สึกอยากดื่มสุรา จนมีปัญหาในการจำกัดปริมาณในการดื่มสุราได้ และไม่สามารถงดการดื่มสุราได้ จนส่งผลต่อการใช้ชีวิตและความสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ โรคพิษสุราเรื้อรังเป็นโรคร้ายแรง ที่อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่นๆ ได้มากมาย ทั้งอุบัติเหตุ ความรุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง วิธีที่ได้ผลที่สุดในการรักษาอาการติดสุราเรื้อรังคือการบำบัดและการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล แต่การบำบัดทางธรรมชาติและการบำบัดร่างกายและจิตใจก็สามารถเอาชนะอาการติดสุราเรื้อรังได้เช่นกัน สัญญาณที่บ่งบอกว่า ติดแอลกอฮอล์ สำหรับหลาย ๆ คนที่ดื่มแอลกอฮอล์มานาน และมีการดื่มเป็นประจำทุกวัน ไม่ได้หมายความว่าจะมีภาวะติดสุราเรื้อรัง แต่เพียงดื่มมากก็เท่านั้น สำหรับผู้ที่มีภาวะติดสุราเรื้อรังมักจะมีสัญญาณที่บ่งบอก ดังนี้ ไม่สามารถควบคุมปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ได้ เกิดอาการดื้อสุรา (Alcohol tolerance) เป็นอาการที่ร่างกายทนต่อระดับแอลกอฮอล์ที่มากขึ้น เมื่อดื่มแอลกอฮอล์เป็นระยะเวลานาน ผู้ดื่มก็จะมีความต้องการแอลกอฮอล์ในปริมาณที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้มีผลของแอลกอฮอล์เท่าที่ต้องการตามเดิม มีการถอนสุรา คือรู้สึกคลื่นไส้อาเจียน เหงื่อออกเมื่อหยุดดื่มแอลกอฮอล์อย่างฉับพลันเมื่อดื่มมาเป็นระยะเวลานาน ดื่มแอลกอฮอล์มากจนไม่ทำกิจกรรมอื่น ๆ จนส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน มีอาการหน้ามืด […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

นั่งพื้น เหมือนจะเมื่อย แต่กลับส่งผลดีต่อร่างกายในแบบที่คุณอาจไม่เคยรู้

ความชอบในการนั่งของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันไป บางคนอาจจะชอบนั่งเก้าอี้ โซฟา หรือ นั่งพื้น ซึ่งการนั่งพื้นนั้นถือว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายของเราอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการปรับความยืดหยุ่น ทั้งยังช่วยส่งเสริมการรักษาความมั่นคงตามธรรมชาติของกล้ามเนื้อหลักอีกด้วย นอกจากนี้ การนั่งพื้น จะมีประโยชน์อะไรอีกบ้าง ลองมาติดตามในบทความนี้ที่ Hello คุณหมอ นำมาฝากกัน ประโยชน์ของ การนั่งพื้น สำหรับประโยชน์ของ การนั่งพื้น ที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพ มีดังนี้ ส่งเสริมความมั่นคงตามธรรมชาติ การนั่งพื้นจะเป็นการบังคับให้แกนกลางของลำตัวเกิดความมั่นคง โดยปราศจากการสนับสนุนจากเก้าอี้ แรงตึงสะโพกน้อยลง การนั่งเก้าอี้เป็นเวลานานจะทำให้สะโพกของคุณแน่นและแข็ง แต่เมื่อคุณนั่งบนพื้นคุณจะสามารถยืด หรืองอสะโพกได้ง่ายขึ้น เพิ่มความยืดหยุ่น ตำแหน่งที่นั่งนั้นจะช่วยให้คุณยืดกล้ามเนื้อส่วนล่างของร่างกายได้มากขึ้น ความคล่องตัวเพิ่มขึ้น ในขณะที่คุณยืดกล้ามเนื้อบางส่วนได้ ซึ่งส่งผลให้การเคลื่อนไหวของคุณดีขึ้น เพิ่มกิจกรรมของกล้ามเนื้อให้มากขึ้น ท่าบางอย่าง เช่น การนั่งคุกเข่า และการนั่งยองๆ เป็นท่าพักให้เพลิน (Active rest) ซึ่งเป็นท่านั่งที่จะต้องใช้กล้ามเนื้อมากกว่าการนั่งเก้าอีก นั่งพื้น พร้อมกินอาหารไปด้วย ดีต่อร่างกายอย่างไร นอกจากนั้นแล้วการนั่งพื้นพร้อมกินอาหารไปด้วย ก็มีประโยชน์ต่อร่างกายเช่นกัน ซึ่งประโยชน์ของการนั่งพื้นแล้วกินอาหารไปด้วยนั้น มีดังนี้ กระตุ้นระบบย่อยอาหารให้ทำงานดีขึ้น เมื่อคุณนั่งพื้นแล้วกินอาหารในท่าสุขะสนะ (Sukhasana) หรือท่าแห่งความสุข หรือนั่งกินในท่าไขว้ขา ก็เหมือนกับการนั่งกินแล้วทำท่าโยคะไปในเวลาเดียวกัน ซึ่งตำแหน่งโยคีนี้เป็นที่รู้จักกันดีว่าช่วยกระตุ้นการย่อยอาหารให้ดีขึ้น ท่าสุขะสนะ (Sukhasana) หรือ ท่าแห่งความสุข นอกจากนั้นยังเชื่อกันว่าเมื่อคนที่นั่งกินในตำแหน่งนี้ มันจะส่งสัญญาณไปยังสมองของคุณ เพื่อบอกให้ร่างกายเตรียมย่อยอาหาร เมื่อคุณนั่งในตำแหน่งนี้แล้วก้มตัวลงไปกินอาหาร แล้วยกตัวกลับมาที่ตำแหน่งเดิม เพื่อกลืนอาหาร การเคลื่อนไหวไปมาอย่างต่อเนื่องเช่นนี้จะเปิดใช้งานกล้ามเนื้อหน้าท้อง และการย่อยอาหารที่ดีขึ้น ปรับปรุงความยืดหยุ่น การนั่งพื้น […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน