ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป เป็นเรื่องที่ทุกคนควจะต้องรู้เอาไว้ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสุขภาพของตัวเองและคนในครอบครัว ซึ่งเรื่องราวที่คุณจะอ่านเรารวบรวมเอาไว้ให้แล้ว

เรื่องเด่นประจำหมวด

ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ทำความรู้จัก "ปลูกฝี" สำคัญยังไง ยังจำเป็นอยู่ไหม

การปลูกฝีเคยเป็นหนึ่งในนวัตกรรมทางการแพทย์ที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่โรคฝีดาษ (Smallpox) เป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อชีวิตมนุษย์ วัคซีนป้องกันฝีดาษซึ่งเริ่มต้นจากการปลูกฝี ไม่เพียงช่วยลดการเสียชีวิตนับล้านคนทั่วโลก แต่ยังนำไปสู่การประกาศกำจัดโรคฝีดาษอย่างสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2523  อย่างไรก็ตาม ความทรงจำเกี่ยวกับการปลูกฝีเริ่มจางหายไปเมื่อวัคซีนนี้ไม่ได้เป็นที่จำเป็นในยุคปัจจุบัน บทความนี้จะพาผู้อ่านย้อนรอยความสำคัญของการปลูกฝีในอดีต และพิจารณาว่าการปลูกฝียังมีความจำเป็นในยุคสมัยใหม่หรือไม่ [embed-health-tool-vaccination-tool] ปลูกฝี ในอดีตเป็นอย่างไร? การปลูกฝีเริ่มต้นในปี ค.ศ. 1796 โดย ดร.เอ็ดเวิร์ด เจนเนอร์ ผู้ค้นพบว่าวัคซีนจาก Cowpox สามารถป้องกันโรคฝีดาษได้ ทำให้เกิดการพัฒนาวัคซีนที่ใช้ทั่วโลกเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคร้ายแรงนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้รณรงค์ฉีดวัคซีนอย่างกว้างขวางในช่วงศตวรรษที่ 20 จนนำไปสู่การประกาศว่าฝีดาษถูกกำจัดอย่างสมบูรณ์ในปี 1980 สำหรับประเทศไทย การปลูกฝีเริ่มต้นในสมัยรัชกาลที่ 4 โดยมักทิ้งรอยแผลเป็นเล็ก ๆ บริเวณหัวไหล่ หลังจากการกำจัดโรคฝีดาษอย่างสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2523 การปลูกฝีก็หยุดลง แต่กลับมาเป็นประเด็นที่น่าสนใจอีกครั้งในยุคที่โรคฝีดาษลิงระบาด โดยวัคซีนที่พัฒนาจากวัคซีน Smallpox เช่น JYNNEOS กำลังถูกศึกษาเพื่อรับมือกับความท้าทายใหม่นี้ โรคฝีดาษลิงคืออะไร โรคฝีดาษลิง (Monkeypox) เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่เกิดจากไวรัสในตระกูล Orthopoxvirus ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคฝีดาษ (Smallpox) แม้ว่าจะมีลักษณะคล้ายกัน แต่โรคฝีดาษลิงมีอาการรุนแรงน้อยกว่าและมีอัตราการเสียชีวิตต่ำกว่า โรคฝีดาษลิงเกิดจากเชื้อ ไวรัส Monkeypox ซึ่งถูกค้นพบครั้งแรกในลิงในปี ค.ศ. 1958 และตรวจพบในมนุษย์ครั้งแรกในปี […]

สำรวจ ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ภาวะน้ำเกิน (Hypervolemia)

ภาวะน้ำเกิน หรือที่เรียกว่า “ภาวะบวมน้ำ” เป็นอาการของภาวะที่น้ำในร่างกายของคุณมากเกินไป แม้ในร่างกายปกติจะมีของเหลวอยู่จำนวนหนึ่ง แต่ปริมาณของเหลวที่มากเกินไป ก็อาจทำลายสุขภาพของคุณได้เช่นกัน [embed-health-tool-bmi] คำจำกัดความ ภาวะน้ำเกิน (Hypervolemia) คืออะไร ภาวะสารน้ำมากเกินไป หรือที่เรียกว่าของเหลวเกินพิกัด เป็นเงื่อนไขของการที่น้ำในร่างกายของคุณมากเกินไป ในขณะที่ร่างกายปกติจะมีของเหลวจำนวนหนึ่งอยู่ในนั้น แต่ของเหลวที่มากเกินไปอาจทำลายสุขภาพของคุณได้ ภาวะน้ำเกินไปเป็นภาวะอย่างหนึ่งของร่างกาย จะเกิดขึ้นเมื่อคุณมีของเหลวในร่างกายมากเกินไป ซึ่งสามารถอธิบายได้ว่า ร่างกายมีการกักเก็บน้ำมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น ตัวบวม ความดันโลหิตสูง ปัญหาหัวใจ และอื่น ๆ ภาวะน้ำเกิน พบบ่อยเพียงใด ภาวะน้ำเกินพบได้ทั่วไปในคนที่เป็นโรคไตเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease หรือ CKD) และไตวาย เนื่องจากไตไม่สามารถกำจัดของเหลวส่วนเกินออกจากร่างกายได้ ซึ่งไม่เหมือนกับคนที่มีสุขภาพดี ทำให้มีของเหลวต่าง ๆ สะสมอยู่ในร่างกายมากเกินไปจากที่ร่างกายต้องการ อาการ อาการของ ภาวะน้ำเกิน อาการที่เกิดขึ้นจากภาวะน้ำเกิน อาจทำให้รู้สึกไม่สบาย เกิดความเครียดในร่างกาย ทั้งยังเป็นปัญหาต่ออวัยวะต่าง ๆ  ซึ่งอาการของภาวะน้ำเกิน มีดังนี้ น้ำหนักเพิ่มอย่างรวดเร็ว อาการบวมที่เห็นได้ชัดเจนในแขน ขา เท้า ข้อเท้า ข้อมือ และใบหน้า อาการบวมในช่องท้อง ตะคริว ปวดศีรษะ ท้องอืด หายใจถี่ เกิดจากของเหลวส่วนเกินเข้าสู่ปอด […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

เคล็ดลับ ดับร้อน ในช่วงอากาศที่แสนจะร้อนอบอ้าว

แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงความร้อน ประเทศไทยถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีอากาศที่ร้อนและอบอ้าวเสียเหลือเกิน อากาศร้อนนอกจากจะทำให้ร่างกายเสียเหงื่อมากแล้ว บางครั้งยังอาจทำให้คนเกิดอารมณ์หงุดหงิดได้อีกด้วย ดังนั้นทาง Hello คุณหมอ จึงได้นำ เคล็ดลับ ดับร้อน ในช่วงอากาศที่แสนอบอ้าวมาฝากกัน เคล็ดลับ ดับร้อน สามารถทำอะไรได้บ้าง ในช่วงอากาศร้อน หลายบ้านอาจจะไม่มีเครื่องปรับอากาศ ดังนั้น การที่จะต้องอยู่ในอากาศที่ร้อนอบอ้าวจึงถือเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับทุกคน ดังนั้น ลองมาดูวิธี ดับร้อน กันดีกว่า ว่าคุณสามารถทำอะไรเพื่อดับร้อนได้บ้าง ใช้พัดลมหรือพัดลมเพดาน เพื่อทำให้อากาศในบ้านไหลเวียนได้ดีขึ้น การเปิดประตูในบ้านและเปิดพัดลมเพื่อดับลมร้อนภายนอก ทั้งยังดึงอากาศที่เย็นเข้ามาในบ้าน ในช่วงเย็น เมื่ออากาศเย็นลงการเปิดหน้าต่างภายในบ้านทั้งหมด จะเป็นการช่วยให้อากาศในบ้านไหลเวียนได้มากที่สุด หลังจากนั้นเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น ก็ให้ปิดประตูและหน้าตาทุกบ้าน อย่าลืมปิดม่านและมู่ลี่ด้วย เพื่อรักษาความเย็นภายในบ้านให้นานที่สุด เมื่ออากาศภายนอกเย็นลงถึงอุณภูมิที่ต่ำกว่าภายใน ซึ่งโดยปกติจะเป็นช่วงเย็นหรือกลางคืน ให้เปิดหน้าต่างแล้วเปิดพัดลมอีกครั้ง ใช้ประโยชน์จากพลังงานความเย็นของน้ำ คุณอาจจะนำถังใส่น้ำแล้วแช่เท้าของคุณ หรือไม่เช่นนั้นอาจจะนำผ้าขนหนูชุดน้ำให้เปียกมาวางลงบนไหล่หรือศีรษะ ไม่อย่างนั้นก็พยายามอาบน้ำเย็น และลองใช้ขวดสเปรย์ที่เต็มไปด้วยน้ำเย็นฉีดใส่ตัวเองเพื่อเพิ่มความรู้สึกสดชื่นตลอดทั้งวัน ดื่มน้ำในปริมาณมาก หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นจากความร้อน ก็คือ การดื่มน้ำปริมาณมาก ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากร่างกายคุณจำเป็นต้องเก็บน้ำเอาไว้ แม้ว่าจะไม่รู้สึกกระหาย และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะขาดน้ำ พยายามหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ น้ำร้อน หรือน้ำหวาน รวมถึงชาและกาแฟ เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถทำให้การกักเก็บน้ำของร่างกายแย่ลง ลงมาอยู่ชั้นล่างของบ้าน เนื่องจากอากาศร้อนมักจะขึ้นไปยังชั้นบนของบ้าน จึงทำให้บ้านชั้นบนรู้สึกอบอ้าวกว่าชั้นล่าง ดังนั้น การลงมาอยู่ชั้นล่างของบ้าน หรือถ้าบ้านมีชั้นใต้ดิน ก็สามารถลงไปอยู่ได้ เพื่อหลบความร้อนจากตอนเที่ยง กำจัดแหล่งความร้อนพิเศษ ในความเป็นจริงแล้ว หลอดไฟ ก็สามารถสร้างความร้อนที่ไม่จำเป็นได้ เช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์ […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

แอลกอฮอลิซึม (Alcoholism) ภาวะติดสุราเรื้อรัง บำบัดได้ เริ่มง่ายๆ ที่ตัวคุณ

แอลกอฮอลิซึม (Alcoholism) หรือโรคพิษสุราเรื้อรัง เป็นภาวะติดสุราเรื้อรัง โดยผู้ที่มีอาการนี้มักจะมีความอยากดื่มสุราเป็นอยากมาก และไม่สามารถลดหรืองดการดื่มได้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการรักษาอาการติดสุราเรื้อรังที่ได้ผลดีที่สุดคือการบำบัดและการรักษาที่โรงพยาบาล การบำบัดการเลิกสุราด้วยวิธีทางธรรมชาตินั้นเป็นเพียงรูปแบบเสริมที่ช่วยให้การรักษาดีขึ้น วันนี้ Hello คุณหมอ จะชวนทุกคนไปรู้จักกับภาวะติดสุราเรื้อรังและวิธีการบำบัดอาการแบบธรรมชาติกันค่ะ [embed-health-tool-bmr] แอลกอฮอลิซึม (Alcoholism) คืออะไร แอลกอฮอล์ลิซึม (Alcoholism) หรือโรคพิษสุราเรื้อรัง เป็นภาวะติดสุราเรื้อรัง ผู้ที่มีอาการติดสุราเรื้อรังจะรู้สึกอยากดื่มสุรา จนมีปัญหาในการจำกัดปริมาณในการดื่มสุราได้ และไม่สามารถงดการดื่มสุราได้ จนส่งผลต่อการใช้ชีวิตและความสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ โรคพิษสุราเรื้อรังเป็นโรคร้ายแรง ที่อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่นๆ ได้มากมาย ทั้งอุบัติเหตุ ความรุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง วิธีที่ได้ผลที่สุดในการรักษาอาการติดสุราเรื้อรังคือการบำบัดและการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล แต่การบำบัดทางธรรมชาติและการบำบัดร่างกายและจิตใจก็สามารถเอาชนะอาการติดสุราเรื้อรังได้เช่นกัน สัญญาณที่บ่งบอกว่า ติดแอลกอฮอล์ สำหรับหลาย ๆ คนที่ดื่มแอลกอฮอล์มานาน และมีการดื่มเป็นประจำทุกวัน ไม่ได้หมายความว่าจะมีภาวะติดสุราเรื้อรัง แต่เพียงดื่มมากก็เท่านั้น สำหรับผู้ที่มีภาวะติดสุราเรื้อรังมักจะมีสัญญาณที่บ่งบอก ดังนี้ ไม่สามารถควบคุมปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ได้ เกิดอาการดื้อสุรา (Alcohol tolerance) เป็นอาการที่ร่างกายทนต่อระดับแอลกอฮอล์ที่มากขึ้น เมื่อดื่มแอลกอฮอล์เป็นระยะเวลานาน ผู้ดื่มก็จะมีความต้องการแอลกอฮอล์ในปริมาณที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้มีผลของแอลกอฮอล์เท่าที่ต้องการตามเดิม มีการถอนสุรา คือรู้สึกคลื่นไส้อาเจียน เหงื่อออกเมื่อหยุดดื่มแอลกอฮอล์อย่างฉับพลันเมื่อดื่มมาเป็นระยะเวลานาน ดื่มแอลกอฮอล์มากจนไม่ทำกิจกรรมอื่น ๆ จนส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน มีอาการหน้ามืด […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

นั่งพื้น เหมือนจะเมื่อย แต่กลับส่งผลดีต่อร่างกายในแบบที่คุณอาจไม่เคยรู้

ความชอบในการนั่งของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันไป บางคนอาจจะชอบนั่งเก้าอี้ โซฟา หรือ นั่งพื้น ซึ่งการนั่งพื้นนั้นถือว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายของเราอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการปรับความยืดหยุ่น ทั้งยังช่วยส่งเสริมการรักษาความมั่นคงตามธรรมชาติของกล้ามเนื้อหลักอีกด้วย นอกจากนี้ การนั่งพื้น จะมีประโยชน์อะไรอีกบ้าง ลองมาติดตามในบทความนี้ที่ Hello คุณหมอ นำมาฝากกัน ประโยชน์ของ การนั่งพื้น สำหรับประโยชน์ของ การนั่งพื้น ที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพ มีดังนี้ ส่งเสริมความมั่นคงตามธรรมชาติ การนั่งพื้นจะเป็นการบังคับให้แกนกลางของลำตัวเกิดความมั่นคง โดยปราศจากการสนับสนุนจากเก้าอี้ แรงตึงสะโพกน้อยลง การนั่งเก้าอี้เป็นเวลานานจะทำให้สะโพกของคุณแน่นและแข็ง แต่เมื่อคุณนั่งบนพื้นคุณจะสามารถยืด หรืองอสะโพกได้ง่ายขึ้น เพิ่มความยืดหยุ่น ตำแหน่งที่นั่งนั้นจะช่วยให้คุณยืดกล้ามเนื้อส่วนล่างของร่างกายได้มากขึ้น ความคล่องตัวเพิ่มขึ้น ในขณะที่คุณยืดกล้ามเนื้อบางส่วนได้ ซึ่งส่งผลให้การเคลื่อนไหวของคุณดีขึ้น เพิ่มกิจกรรมของกล้ามเนื้อให้มากขึ้น ท่าบางอย่าง เช่น การนั่งคุกเข่า และการนั่งยองๆ เป็นท่าพักให้เพลิน (Active rest) ซึ่งเป็นท่านั่งที่จะต้องใช้กล้ามเนื้อมากกว่าการนั่งเก้าอีก นั่งพื้น พร้อมกินอาหารไปด้วย ดีต่อร่างกายอย่างไร นอกจากนั้นแล้วการนั่งพื้นพร้อมกินอาหารไปด้วย ก็มีประโยชน์ต่อร่างกายเช่นกัน ซึ่งประโยชน์ของการนั่งพื้นแล้วกินอาหารไปด้วยนั้น มีดังนี้ กระตุ้นระบบย่อยอาหารให้ทำงานดีขึ้น เมื่อคุณนั่งพื้นแล้วกินอาหารในท่าสุขะสนะ (Sukhasana) หรือท่าแห่งความสุข หรือนั่งกินในท่าไขว้ขา ก็เหมือนกับการนั่งกินแล้วทำท่าโยคะไปในเวลาเดียวกัน ซึ่งตำแหน่งโยคีนี้เป็นที่รู้จักกันดีว่าช่วยกระตุ้นการย่อยอาหารให้ดีขึ้น ท่าสุขะสนะ (Sukhasana) หรือ ท่าแห่งความสุข นอกจากนั้นยังเชื่อกันว่าเมื่อคนที่นั่งกินในตำแหน่งนี้ มันจะส่งสัญญาณไปยังสมองของคุณ เพื่อบอกให้ร่างกายเตรียมย่อยอาหาร เมื่อคุณนั่งในตำแหน่งนี้แล้วก้มตัวลงไปกินอาหาร แล้วยกตัวกลับมาที่ตำแหน่งเดิม เพื่อกลืนอาหาร การเคลื่อนไหวไปมาอย่างต่อเนื่องเช่นนี้จะเปิดใช้งานกล้ามเนื้อหน้าท้อง และการย่อยอาหารที่ดีขึ้น ปรับปรุงความยืดหยุ่น การนั่งพื้น […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ภาวะรูม่านตาต่างขนาด (Anisocoria)

ภาวะรูม่านตาต่างขนาด (Anisocoria) คือ รูม่านตามีขนาดไม่เท่ากัน (วงกลมสีดำกลางดวงตา) ส่งผลให้ผู้ป่วยมองเห็นภาพซ้อน สูญเสียการมองเห็น มีไข้ ปวดศีรษะ เป็นต้น คำจำกัดความภาวะรูม่านตาต่างขนาด (Anisocoria) คืออะไร ภาวะรูม่านตาต่างขนาด (Anisocoria) คือ รูม่านตามีขนาดไม่เท่ากัน (วงกลมสีดำกลางดวงตา) ส่งผลให้ผู้ป่วยมองเห็นภาพซ้อน สูญเสียการมองเห็น มีไข้ ปวดศีรษะ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยบางรายอาจเป็นภาวะรูม่านตาต่างขนาดมาตั้งแต่กำเนิด หรือในผู้ป่วยบางคนอาจเป็นภาวะรูม่านตาต่างขนาดเพียงชั่วคราวเท่านั้นก็สามารถหายกลับมาเป็นปกติได้เอง พบได้บ่อยเพียงใด ภาวะรูม่านต่างขนาดอาจเกิดขึ้นกับผู้ป่วยโดยกำเนิด หรือในบางรายอาจเกิดจากการได้รับบาดเจ็บซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อดวงตา อาการอาการของภาวะรูม่านตาต่างขนาด ภาวะรูม่านตาต่างขนาดขึ้นอยู่กับสาเหตุและปัจจัยหลายๆอย่าง โดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะมีอาการ ดังต่อไปนี้ มองเห็นภาพซ้อน สูญเสียการมองเห็น ปวดศีรษะ ปวดตา ปวดคอ ไข้ ควรไปพบหมอเมื่อใด หากคุณมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการใด ๆ ตามที่ระบุข้างต้น หรือมีคำถาม โปรดปรึกษาแพทย์ ร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ของคุณ สาเหตุสาเหตุของภาวะรูม่านตาต่างขนาด สาเหตุของภาวะรูม่านตาต่างขนาดเกิดจากปัจจัยหลายๆ อย่างด้วยกัน ดังนี้ การได้รับบาดเจ็บโดยตรงกับดวงตา การถูกกระทบกระแทก มีเลือดออกในกะโหลกศีรษะ การอักเสบของเส้นประสาทตา เนื้องอกในสมอง อาการไขสันหลังอักเสบ การวินิจฉัยและการรักษาข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม การวินิจฉัยภาวะรูม่านตาต่างขนาด  ในเบื้องต้นแพทย์จะซักประวัติและสอบถามอาการผู้ป่วยเพื่อดูความผิดปกติของรูม่านตา รวมถึงวิธีการอื่นๆ ดังต่อไปนี้ ตรวจตา การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดแดง (complete blood count: CBC) การตรวจเลือด เจาะน้ำไขสันหลัง การตรวจเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (Computerized Tomography Scan : CT SCAN) การตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Magnetic Resonance Imaging : MRI) การเอกซเรย์ (X-Ray) การรักษาภาวะรูม่านตาต่างขนาด วิธีการรักษาภาวะรูม่านตาต่างขนาดขึ้นอยู่กับสาเหตุของแต่ละบุคคล เช่น หากเกิดจากการติดเชื้อแพทย์อาจสั่งยาหยอดตาหรือยาปฏิชีวนะให้ผู้ป่วย หากเกิดจากสาเหตุเนื้องอกในสมอง […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ลิ้นแตกเป็นร่อง สาเหตุ อาการ และวิธีการรักษา

ลิ้นแตกเป็นร่อง (Fissured Tongue)  คือ ภาวะที่เป็นพิษต่อลิ้นส่งผลให้ลิ้นมีลักษณะเป็นร่องแตกยาว โดยปกติลิ้นรอยแยกหลักจะเกิดขึ้นที่กลางลิ้น อย่างไรก็ตามอาการลิ้นแตกเป็นร่องไม่ใช่โรคติดต่อหรือส่งผลอันตรายต่อสุขภาพแต่อย่างใด [embed-health-tool-bmi] คำจำกัดความ ลิ้นแตกเป็นร่อง คืออะไร   ลิ้นแตก เป็นร่อง (Fissured Tongue)  คือ ภาวะที่เป็นพิษต่อลิ้นส่งผลให้ลิ้นมีลักษณะเป็นร่องแตกยาว โดยปกติลิ้นรอยแยกหลักจะเกิดขึ้นที่กลางลิ้น ผู้ป่วยส่วนใหญ่อาจมีอาการลิ้นลายแผนที่ (Geographic Tongue) เกิดร่วมด้วย อย่างไรก็ตามอาการลิ้นแตกเป็นร่องไม่ใช่โรคติดต่อหรือส่งผลอันตรายต่อสุขภาพแต่อย่างใด พบได้บ่อยเพียงใด ผู้ป่วยลิ้นแตกเป็นร่องสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัยโดยส่วนใหญ่มักพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง โดยเฉพาะกลุ่มอาการดาวน์ (Down syndrome) และกลุ่มอาการเมลเคอร์สสัน-โรเซ็นทาล (Melkersson-Rosenthal) อาการ อาการของลิ้นแตกเป็นร่อง ผู้ป่วยจะสังเกตเห็นรอยแตกที่ร่องที่ลิ้นได้อย่างชัดเจน ร่องลิ้นจะลึก โดยเฉพาะส่วนตรงกลางของลิ้นจะสังเกตได้ง่ายที่สุด  ลักษณะเป็นรอยแยก สีแดง หรือสีชมพู นอกจากนี้ผู้ป่วยบางรายอาจมีลิ้นลายแผนที่เกิดร่วมด้วย และมีความลึกของร่องลิ้นไม่เกิน 6 มิลลิเมตร รอยแตกแต่ละรอยอาจเชื่อมกับรอยแตกอื่น ๆ โดยแยกรอยแตกออกเป็นส่วนเล็ก ๆ หรือส่วนต่าง ๆ อาการลิ้นแตกเป็นร่อง อาจส่งผลให้ลิ้นผู้ป่วยบางรายไวต่อความรู้สึกเร็วเกินไป จนทำให้รู้สึกไม่สบายตัว ระคายเคืองได้ ควรไปพบหมอเมื่อใด หากคุณมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการใด ๆ ตามที่ระบุข้างต้น หรือมีคำถาม โปรดปรึกษาแพทย์ ร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ของคุณ สาเหตุ สาเหตุของกลุ่ม อาการลิ้นแตกเป็นร่อง ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของอาการลิ้นแตกเป็นร่อง โดยมีข้อสันนิษฐานว่าอาจได้รับการถ่ายทอดทางพันธุกรรม หรืออาจเกิดขึ้นครั้งแรกในวัยเด็ก รวมถึงสาเหตุอื่นๆ ดังนี้ การขาดสารอาหาร และขาดวิตามิน ภาวะที่มีอาการบวมที่ริมฝีปากและใบหน้า (Orofacial […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

ทำความรู้จักกับ ระบบน้ำเหลือง อีกหนึ่งระบบสำคัญ ที่ไม่ควรมองข้าม

น้ำเหลือง เป็นส่วนประกอบหนึ่งในร่างกายที่หลาย ๆ คนคุ้นเคยกันมานาน แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า น้ำเหลืองคืออะไร และทำหน้าที่อย่างไรในร่างกาย วันนี้ Hello คุณหมอ เลยจะมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับ ระบบน้ำเหลือง อีกหนึ่งระบบสำคัญในร่างกายที่ไม่ควรมองข้าม ระบบน้ำเหลือง คืออะไร ระบบน้ำเหลือง (Lymphatic system) คือเครือข่ายที่เชื่อมต่อระหว่างเนื้อเยื่อ หลอดเลือด และอวัยวะในร่างกาย เพื่อไหลเวียนของของเหลวไร้สี ที่เรียกว่า น้ำเหลือง ให้กลับเข้าสู่ระบบไหลเวียนโลหิต น้ำเหลืองจะไหลเวียนไปทั่วทั้งร่างกาย คล้ายคลึงกับการไหลเวียนของเลือด หน้าที่หลักๆ ของระบบน้ำเหลือง มีดังนี้ รักษาความสมดุลของระดับน้ำในร่างกาย โดยการเก็บสะสมน้ำส่วนเกินที่ไหลออกมาจากเซลล์และเนื้อเยื่อทั่วร่างกาย แล้วส่งคืนกลับเข้าสู่กระแสเลือด ดูดซึมไขมันและวิตามินที่ละลายในไขมัน ที่อยู่ในระบบทางเดินอาหาร แล้วส่งคืนกลับเข้าสู่กระแสเลือด ปกป้องร่างกายจากเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมต่างๆ โดยการผลิตเม็ดเลือดขาวชนิดลิมโฟไซต์ (Lymphocyte) และเซลล์ภูมิคุ้มกันอื่น ๆ ที่ช่วยกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย เช่น เชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อไวรัส เป็นต้น ลำเลียงและกำจัดเซลล์ที่ผิดปกติออกจากน้ำเหลือง ส่วนประกอบของระบบน้ำเหลือง ระบบน้ำเหลืองนั้นเป็นเครือข่ายซับซ้อน ที่ประกอบไปด้วยส่วนต่าง ๆ มากมาย ได้แก่ น้ำเหลือง น้ำเหลือง คือของเหลวส่วนเกินที่ไหลออกมาจากเซลล์และเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย รวมเข้ากับสารอื่น ๆ เช่น โปรตีน แร่ธาตุ ไขมัน เซลล์ น้ำเหลืองนั้นจะช่วยลำเลียงเซลล์เม็ดเลือดขาวไปยังจุดต่าง […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

แผลตกสะเก็ด เมื่อไหร่..ทำไมถึงทำให้เรารู้สึกคันแผลทุกทีนะ

Hello คุณหมอ เชื่อว่าทุกคนคงคุ้นเคยกับความรู้สึกนี้กันมาแล้ว ทุกครั้งที่เรามีแผลที่กำลังใกล้จะหาย หรือเรียกกันง่าย ๆ ว่า แผลตกสะเก็ด มักจะทำให้เรานั้นรู้สึกมีอาการคันยิบ ๆ ทุกที แต่ก็ไม่สามารถจะเกาได้ เพราะเกรงว่าแผลจะกลับมาฉีกอีกครั้ง ดังนั้น วันนี้เราจึงมีคำตอบมาให้ทุกคน ได้ร่วมคลายข้อสงสัยนี้ไปพร้อม ๆ กันค่ะ [embed-health-tool-bmi] แผลตกสะเก็ด คืออะไร แผลตกสะเก็ด เป็นกระบวนการอย่างหนึ่งในการซ่อมเซลล์ผิว หรือแผลของคุณที่ได้รับความเสียหาย โดยจะมีลักษณะเป็นก้อนสีดำแข็งก่อตัวอยู่รอบ ๆ แผลของคุณเพื่อเป็นเกราะป้องกันในช่วงของการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมาทดแทน ทำไมแผลตกสะเก็ด ถึงทำให้เรารู้สึกคัน ร่างกายของคนเรามีเส้นประสาทเล็ก ๆ ที่บอบบางอยู่ตามชั้นใต้ผิวหนัง เมื่อใดที่มีบางสิ่งบางอย่างไปรบกวน เช่น การตกสะเก็ด จนทำให้เกิดการระคายเคืองบริเวณเส้นประสาทนั้น ก็อาจสามารถทำให้คุณเกิดอาการคันขึ้นได้ อีกทั้งเส้นประสาทนี้มีความไวต่อสารฮีสตามีน (Histamine) ที่ร่างกายปล่อยออกมา เพื่อกระตุ้นเซลล์เนื้อเยื่อจากแผลของคุณให้เกิดการสร้างตัวขึ้นมาใหม่ จึงส่งผลให้เกิดเป็นปฏิกิริยาตอบสนอง ส่งผลให้คุณมีอาการคันเล็กน้อยต่อบริเวณแผลที่ผิวหนังของคุณฉีกขาด กระบวนการพัฒนาของ แผลสด-แผลตกสะเก็ด บาดแผลของคุณไม่ว่าจะขนาดเล็ก หรือขนาดใหญ่ ก็ล้วนใช้ระยะเวลาในการรักษาจากระบบการทำงานของตามธรรมชาติของร่างกายคุณเองทั้งสิ้น โดยมีกระบวนการ 4 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้ ระยะเลือดออก เป็นระยะแรกที่เมื่อคุณประสบอุบัติเหตุจนเกิดการบาดเจ็บ และผิวหนังฉีกขาด ร่างกายของคุณจะทำการตอบสนองที่คุณสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน นั่นก็คือ การมีเลือดออกบริเวณบาดแผล พร้อมกับน้ำเหลือง จากนั้นของเหลวเหล่านี้จะทำการแข็งตัวเอง เพื่อลดอัตราการสูญเสียเลือด ขั้นตอนการซ่อมแซมบาดแผล ถัดมาจากระยะแรก ร่างกายคุณจะเริ่มทำการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

คอเลสเตซิส (Cholestasis)

คอเลสเตซิส (Cholestasis) เกิดจากความผิดปกติของตับ เนื่องจากท่อถุงน้ำดีของตับเกิดการอุดตัน โดยปกติทั่วไปตับจะทำหน้าที่ผลิตน้ำดี ซึ่งช่วยในการย่อยอาการโดยเฉพาะไขมัน แต่เมื่อท่อน้ำดีเกิดการอุดตัน จะส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ คำจำกัดความคอเลสเตซิส (Cholestasis) คืออะไร คอเลสเตซิส (Cholestasis) เกิดจากความผิดปกติของตับ เนื่องจากท่อถุงน้ำดีของตับเกิดการอุดตัน โดยปกติทั่วไปตับจะทำหน้าที่ผลิตน้ำดี ซึ่งช่วยในการย่อยอาหารโดยเฉพาะไขมัน แต่เมื่อท่อน้ำดีเกิดการอุดตัน จะส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่เป็นโรคคอเลสเตซิสมักมีอาการตัวเหลือง ผิวเหลือง รู้สึกคันอย่างรุนแรง ปวดท้อง เป็นต้น พบได้บ่อยเพียงใด คอเลสเตซิสสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย  แต่ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นกับสตรีมีครรภ์ อาการของคอเลสเตซิสอาการของคอเลสเตซิส อาการคัน แต่ไม่มีผื่น เป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุดของผู้ป่วยคอเลสเตซิส จะรู้สึกคันบริเวณฝ่ามือหรือฝ่าเท้า ในบางกรณีอาจรู้สึกคันทุกส่วนในร่างกาย และยิ่งรู้สึกคันมากพิเศษในช่วงเวลากลางคืน รวมถึงอาการอื่น ๆ ดังนี้ ผิวเหลือง ตาเหลือง (ดีซ่าน) ปัสสาวะสีเข้ม รู้สึกเมื่อยล้า อ่อนแรง อุจจาระสีซีด  เบื่ออาหาร ควรไปพบหมอเมื่อใด หากคุณมีสิ่งบ่งชี้หรืออาการใด ๆ ตามที่ระบุข้างต้น หรือมีคำถาม โปรดปรึกษาแพทย์ ร่างกายของแต่ละบุคคลมีการตอบสนองแตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีรักษาที่ดีที่สุดตามสถานการณ์ของคุณ สาเหตุสาเหตุของคอเลสเตซิส การอุดตันของน้ำดีสามารถเกิดขึ้นได้หลายปัจจัยด้วยกัน ดังนี้ การรับประทานยา ยาที่อาจทำให้ตับเกิดความผิดปกติ อย่างยาปฏิชีวนะบางชนิด เช่น อะม็อกซี่ซิลลิน (Amoxicillin) มิโนซัยคลิน (Minocycline) และยากลุ่มอนาบอลิกสเตียรอยด์ (Anabolic Steroid) รวมถึง ยาคุมกำเนิด ยาต้านจุลชีพ ยากันชัก เป็นต้น โรค […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

น้ำส้มสายชูทำความสะอาด ของในบ้านได้ แถมปลอดสารเคมีด้วย

ส่วนใหญ่เมื่อพูดถึงน้ำส้มสายชู หลายคนคงนึกถึงการเอาไว้ปรุงรสชาติ หรือใช้สำหรับทาหารเสียส่วนใหญ่ แต่ความจริงแล้วน้ำส้มสายชูยังมีประโยชน์อย่างอื่นที่นอกเหนือจากการใช้ทำอาหาร นั่นก็คือ น้ำส้มสายชูทำความสะอาด ของในบ้านได้ แต่จะใช้ทำความสะอาดอะไรได้บ้าง ต้องมาติดตามกันใน Hello คุณหมอ ประโยชน์ของน้ำส้มสายชูที่เกี่ยวกับการทำความสะอาด อย่างที่กล่าวแล้วข้างต้นว่าน้ำส้มสายชูนั้นไม่ได้มีประโยชน์แค่เพียงใช้ในการปรุงอาหาร แต่ยังสามารถใช้เป็นน้ำยาทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี เนื่องจากน้ำส้มสายชูผลิตมาจาก “กรดอะซิติก (Acetic Acid)” ซึ่งกรดนี้เป็นสารประกอบอินทรีย์ไม่มีสี รสเปรี้ยว และมีกลิ่นฉุน ธรรมชาติของน้ำส้มสายชูคือมีฤทธิ์เป็นกรด จึงทำให้สามารถละลายแร่ธาตุ สิ่งสกปรก และไขมัน ทั้งยังสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้อีกด้วย น้ำส้มสายชูใหลายประเภทด้วยกัน ซึ่งสามารถแยกออกได้ ดังนี้ น้ำส้มสายชูที่หมักด้วยแอปเปิ้ลสด หรือที่หลาย ๆ คนมักเรียกติดปากกันว่า น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล (Apple Cider Vinegar) น้ำส้มสายชูกลั่นสีขาว น้ำส้มสายชูบาลซามิก (Balsamic Vinegar) น้ำส้มสายชูหมักจากไวน์แดงหรือไวน์ขาว (Red or White Wine Vinegar) เลือกใช้น้ำส้มสายชูทำความสะอาดอย่างไรจึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดี สำหรับสุดยอดน้ำส้มสายชู ได้แก่ น้ำส้มสายชูกลั่นสีขาว ซึ่งเหมาะที่สุดที่จะนำมาใช้ในการทำความสะอาด เพราะมันไม่มีสารแต่งสี จึงทำให้ไม่เปื้อนพื้นผิว นอกจากนี้น้ำส้มสายชูกลั่นยังมีความเป็นกรดประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคล้ายดีบระดับความเป็นกรดในน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ หากพูดถึงเรื่องกลิ่น น้ำส้มสายชูค่อนข้างมีกลิ่นฉุนที่อาจจะไม่เป็นที่พึงประสงค์สำหรับคุณสักเท่าไหร่ ดังนั้น คุณอาจจะเลือกใช้เป็นน้ำส้มสายชูที่หมักด้วยแอปเปิ้ลสดก็ได้ เพราะมันจะมีกลิ่นที่จางกว่าเล็กน้อย แต่น้ำส้มสายชูที่หมักด้วยแอปเปิ้ลสดจะมีสีที่เข้มกว่า ดังนั้น […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน