สุขภาพ

สุขภาพ เป็นเรื่องสำคัญ เราจึงได้รวบรวมข้อมูลที่จะช่วยให้คุณดูแลสุขภาพได้ดียิ่งขึ้นไว้ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นข่าวสารสุขภาพ ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป และอื่น ๆ อีกมากมาย หากคุณมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยคุณได้แน่นอน

เรื่องเด่นประจำหมวด

สุขภาพ

โรคไวรัสตับอักเสบบี คือโรคอะไร ใครควรได้รับวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี

โรคไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B) เป็นหนึ่งในไวรัสตับอักเสบ ซึ่งมีทั้งหมด 5 ชนิด ได้แก่ ไวรัสตับอักเสบ เอ บี ซี ดี และอี โดยไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี เป็นชนิดที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก และในปัจจุบันยังไม่มียารักษาโดยตรง มีเพียงยาที่ช่วยไม่ให้ตับถูกทำลาย โรคไวรัสตับอักเสบบี จึงเป็นโรคที่ควรตรวจคัดกรองเพื่อเข้ารับการรักษาโดยเร็ว และป้องกันด้วยการฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี  [embed-health-tool-vaccination-tool] โรคไวรัสตับอักเสบบี คืออะไร ไวรัสตับอักเสบบี เป็นโรคตับอักเสบชนิดหนึ่ง หรือเกิดจากการอักเสบของเซลล์ตับ สาเหตุจากการ ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBV) อาจทำให้เซลล์ตับตาย ความรุนแรงของโรคไวรัสตับอักเสบ บี เมื่อเป็นเรื้อรังจะเกิดพังผืด อาจกลายเป็นตับแข็ง นำสู่โรคมะเร็งตับได้  การติดต่อของเชื้อไวรัสตับอักเสบบี  ส่วนใหญ่การติดต่อของโรคเกิดจากการถ่ายทอดจากแม่ที่ติดเชื้อสู่ทารก ไม่ติดต่อผ่านทางการสัมผัสภายนอก ไม่ติดต่อหลักทางน้ำลาย แต่ติดต่อได้ ดังนี้ สามารถเกิดได้จากการเจาะหรือสักผิวหนัง ด้วยเครื่องมือที่ไม่สะอาด ไม่ได้มาตรฐาน เชื้อเข้าทางบาดแผล หรือการใช้ยาเสพติด การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยป้องกัน  สัมผัสกับเลือดหรือสารคัดหลั่งของผู้ที่ติดเชื้อ อาการของผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี เชื้อไวรัสตับอักเสบบีจะไม่แสดงอาการในทันที แต่จะใช้เวลาฟักตัว 2-3 เดือน จึงเริ่มมีอาการ เช่น เกิดการอ่อนเพลียคล้ายกับโรคหวัด คลื่นไส้ อาเจียน จุกแน่นใต้ชายโครงขวาจากตับโต  สีปัสสาวะเข้มขึ้น […]

หมวดหมู่ สุขภาพ เพิ่มเติม

ประกันสุขภาพ

สำรวจ สุขภาพ

การทดสอบทางการแพทย์

ซักประวัติและการตรวจร่างกายสำหรับอาการปวดหลังส่วนล่าง (History And Physical Exam For Low Back Pain)

ข้อมูลพื้นฐานการ ซักประวัติและการตรวจร่างกายสำหรับอาการปวดหลังส่วนล่าง (History And Physical Exam For Low Back Pain) คืออะไร ก่อนที่แพทย์จะสามารถวินิจฉัยอาการของคุณ และกำหนดแผนการรักษา การซักประวัติสุขภาพ และการตรวจร่างกายอย่างครบถ้วน ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากผลการทดสอบเหล่านี้จะช่วยให้แพทย์สามารถทราบว่า อาการปวดหลังและอาการอื่นๆ ของคุณ เกี่ยวข้องกับการกดทับเส้นประสาทหรือไม่ และเส้นประสาทเส้นใดที่ถูกกดทับ ซึ่งแพทย์จะใช้ข้อมูลดังกล่าว เพื่อช่วยกำหนดว่าการรักษาประเภทใดที่มีโอกาสได้ผลมากที่สุด และเป็นประโยชน์ต่อคุณมากที่สุด เหตุผลในการตรวจ การซักประวัติและการตรวจร่างกาย เป็นส่วนแรกในการจัดการอาการเกี่ยวกับหลังส่วนล่าง แพทย์อาจเปลี่ยนหรือข้ามการทดสอบบางประการ เพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้หลังบาดเจ็บในอนาคต ข้อควรรู้ก่อนตรวจข้อควรรู้ก่อนการ ซักประวัติและการตรวจร่างกายสำหรับอาการปวดหลังส่วนล่าง อาการปวดเกี่ยวข้องกับสาเหตุทั้งทางร่างกายและอารมณ์ ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณมีความเครียด กล้ามเนื้อตึงหรือกล้ามเนื้อเกร็งสามารถเกิดขึ้นที่หลังได้ ซึ่งทำให้เกิดอาการปวดหรือมีอาการแย่ลง หากคุณหรือแพทย์ที่ทำการรักษารู้สึกว่า อาการปวดเกิดจากหรือมีอาการแย่ลงจากความเครียด ความโกรธ หรืออารมณ์ที่ยุ่งยากอื่นๆ ให้วางแผนเข้ารับการรักษาเฉพาะทาง การบำบัดด้วยการปรับความคิดและพฤติกรรม (Cognitive-behavioral therapy) และการสร้างความสมดุลของร่างกาย (biofeedback) เป็นการรักษาสองประเภทที่เป็นเครื่องมือในการจัดการอาการปวด ขั้นตอนการตรวจการเตรียมตัวเพื่อการ ซักประวัติและการตรวจร่างกายสำหรับอาการปวดหลังส่วนล่าง คุณควรเตรียมข้อมูลที่สมบูรณ์และละเอียดจากการวินิจฉัยและการรักษาที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าโรคหนึ่งหายขาดแล้ว หรือดูไม่สำคัญสำหรับคุณ แต่การรู้เกี่ยวกับอาการดังกล่าว อาจช่วยให้แพทย์วินิจฉัยอาการปวดหลังส่วนล่างได้ นอกจากนี้ การรู้เกี่ยวกับอาการทางสุขภาพในอดีตและปัจจุบันทั้งหมดของคุณ จะช่วยให้แพทย์หาวิธีที่ดีที่สุดในการดูแลสุขภาพของคุณ ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของประวัติสุขภาพของคุณ คุณควรแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับยาชนิดต่างๆ ที่คุณใช้อยู่ เป็นการดีที่สุดที่จะนำรายการชื่อยาและขนาดยาล่าสุดของยาทั้งหมดที่ใช้อยู่มาด้วย ขั้นตอนการซักประวัติและการตรวจร่างกายสำหรับอาการปวดหลังส่วนล่าง ประการแรก คุณจะได้รับการซักประวัติสุขภาพของคุณ เกี่ยวกับอาการอย่างครบถ้วน […]


การทดสอบทางการแพทย์

ตรวจวินิจฉัยดวงตาโดยการฉีดสี (Eye Angiogram)

ตรวจวินิจฉัยดวงตาโดยการฉีดสี (Eye Angiogram) เป็นหัตถการเพื่อตรวจวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับดวงตา โดยการฉีดสีฟลูออเรสเซนต์เข้าไปในกระแสเลือด เพื่อให้สามารถถ่ายภาพติดได้   ข้อมูลพื้นฐานตรวจวินิจฉัยดวงตาโดยการฉีดสี (Eye angiogram) คืออะไร การตรวจวินิจฉัยดวงตาโดยการฉีดสี (Fluorescein angiogram) เป็นหัตถการเพื่อตรวจวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับดวงตา โดยการฉีดสีฟลูออเรสเซนต์เข้าไปในกระแสเลือด สีฟลูออเรสเซนต์จะทำให้เกิดสีที่หลอดเลือดบริเวณด้านหลังดวงตาเพื่อให้สามารถถ่ายภาพติดได้ การทดสอบนี้มักใช้เพื่อจัดการอาการผิดปกติเกี่ยวกับดวงตา โดยแพทย์อาจสั่งให้มีการทดสอบเพื่อยืนยันการวินิจฉัย เพื่อกำหนดวิธีการรักษาที่เหมาะสม หรือเพื่อเฝ้าระวังอาการเกี่ยวกับหลอดเลือดบริเวณด้านหลังดวงตา ความจำเป็นใน การตรวจวินิจฉัยดวงตาโดยการฉีดสี การทดสอบดำเนินการเพื่อดูว่า มีกระแสเลือดที่เหมาะสม ในหลอดเลือดด้านหลังดวงตาทั้งสองชั้นหรือไม่ (The retina and choroid) และการทดสอบนี้ยังสามารถใช้เพื่อวินิจฉัยปัญหาในดวงตา เพื่อดูว่าการรักษาดวงตาบางประเภทได้ผลดีหรือไม่ ข้อควรรู้ก่อนการตรวจข้อควรรู้ก่อนตรวจจอประสาทตา แพทย์ส่วนใหญ่ไม่สนับสนุนให้ใช้ การตรวจวินิจฉัยดวงตาโดยการฉีดสี นี้กับหญิงตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรก เนื่องจากสีสามารถส่งต่อไปยังลูกผ่านทางน้ำนมได้ จึงไม่ปลอดภัยที่จะให้นมบุตรเป็นเวลา 24 ถึง 48 ชั่วโมงหลังการทดสอบนี้ และควรใช้อุปกรณ์ปั๊มนมให้เกลี้ยงเต้า และทิ้งนมที่ปั๊มออกมาจนกว่าจะปลอดภัย แล้วจึงเริ่มให้นมบุตรอีกครั้ง หรืออาจต้องปั๊มและเก็บน้ำนมเป็นเวลาหลายวัน ก่อนการทดสอบ หรือใช้นมผงในระหว่างช่วงเวลานี้ สีที่ฉีดเข้าไปจะถูกกรองผ่านไตและขับออกจากร่างกาย ผ่านทางปัสสาวะภายในเวลาประมาณ 48 ชั่วโมง โดยปัสสาวะอาจมีสีเหลืองหรือสีส้มสว่าง และสีที่เรียกว่า Indocyanine green พบว่าให้ผลดีกว่าในการตรวจหาอาการผิดปกติเกี่ยวกับดวงตาบางประเภท และอาจใช้แทนสารฟลูออเรสซีน เพื่อให้แพทย์สามารถดูได้ว่าหลอดเลือดใต้เรตินารั่วหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผลการทดสอบ การตรวจวินิจฉัยดวงตาโดยการฉีดสี […]


การทดสอบทางการแพทย์

อัลตราซาวด์กะโหลกศีรษะ (Cranial Ultrasound)

อัลตราซาวด์กะโหลกศีรษะ เป็นการใช้คลื่นเสียงสะท้อน เพื่อสร้างภาพถ่ายสมอง และบริเวณกักเก็บของเหลวในโพรงสมอง ที่น้ำหล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลังไหลผ่าน   คำจำกัดความการตรวจ อัลตราซาวด์กะโหลกศีรษะ (Cranial Ultrasound) คืออะไร  การตรวจอัลตราซาวด์กะโหลกศีรษะ (cranial ultrasound) ใช้คลื่นเสียงสะท้อนเพื่อสร้างภาพถ่ายสมองและบริเวณกักเก็บของเหลวในโพรงสมองที่น้ำหล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลังไหลผ่าน การทดสอบนี้มักดำเนินการในเด็กเพื่อประเมินอาการแทรกซ้อนของการคลอดก่อนกำหนด ส่วนในผู้ใหญ่นั้น การตรวจอัลตราซาวด์กะโหลกอาจดำเนินการเพื่อแสดงให้เห็นก้อนสมองในระหว่างการผ่าตัด   คลื่นอัลตราซาวด์ไม่สามารถผ่านกระดูกได้ จึงไม่สามารถทำการตรวจอัลตราซาวด์เพื่อประเมินสมองได้หลังจากที่กระดูกหุ้มสมอง (cranium) เชื่อมต่อกันสนิทแล้ว การตรวจอัลตราซาวด์กะโหลกสามารถดำเนินการได้ในทารกก่อนที่กระดูกกะโหลกศีรษะเจริญเติบโตเต็มที่ ส่วนในผู้ใหญ่จะทำหลังจากผ่าตัดเปิดกะโหลกแล้ว การทดสอบนี้อาจใช้ประเมินอาการผิดปกติในสมองและโพรงสมองในทารกแรกเกิดไปจนอายุประมาณ 18 เดือน การอัลตราซาวด์กะโหลกศีรษะสำหรับทารก อาการแทรกซ้อนของการคลอดก่อนกำหนด ได้แก่ อาการ periventricular leukomalacia (PVL) และเลือดออกในสมอง ซึ่งได้แก่อาการเลือดออกในโพรงสมอง (intraventricular hemorrhage: IVH) อาการ PVL เป็นภาวะหนึ่งที่เนื้อเยื่อสมองรอบโพรงสมองได้รับความเสียหายซึ่งอาจเกิดจากออกซิเจนหรือกระแสเลือดที่ไปเลี้ยงสมองน้อยลง โดยอาจเกิดขึ้นก่อน ในระหว่าง หรือหลังการคลอดก็ได้ อาการ IVH และ PVL จะเพิ่มความเสี่ยงของความพิการในทารก ซึ่งอาจปราฏอาการได้หลากหลาย ตั้งแต่อาการที่ไม่รุนแรงเกี่ยวกับการเรียนรู้หรืออาการกล้ามเนื้อมัดใหญ่เติบโตช้า (gross motor delays) ไปจนถึงอาการสมองพิการ (cerebral palsy) หรือความพิการทางสติปัญญา […]


การทดสอบทางการแพทย์

ตรวจหมู่โลหิต (Blood Typing)

ตรวจหมู่โลหิต ใช้เพื่อระบุหมู่โลหิตของผู้ป่วยก่อนให้หรือรับเลือด และเพื่อระบุหมู่เลือดของผู้ที่ต้องการมีบุตรเพื่อประเมินความเสี่ยงในการเข้ากันไม่ได้ของ Rh ระหว่างมารดาและบุตร ข้อมูลพื้นฐาน การ ตรวจหมู่โลหิต คืออะไร ในเลือดหมู่ต่างๆ นั้น มีสารชีวเคมีหรือแอนติเจน ABO (ABO antigens) และ Rh เป็นตัวจำแนกหมู่เลือด โดยสามารถตรวจสอบเลือดของผู้บริจาคและเลือดของผู้ที่อาจจะรับบริจาค เพื่อดูการเข้ากันของเลือด นอกจากนี้ การทดสอบนี้ใช้ระบุหมู่เลือดของหญิงตั้งครรภ์และทารกเกิดใหม่ได้ด้วยบทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับหมู่เลือดระบบ ABO และระบบ Rh ตลอดจนปฏิกิริยาข้ามกัน (cross-reactions) ระหว่างแอนติเจนและแอนติบอดีที่เกิดขึ้น เมื่อมีความไม่เข้ากันของหมู่เลือดต่างกลุ่ม หรือต่างระบบกัน เลือดของมนุษย์ได้รับการจัดหมวดหมู่ตามการมีหรือไม่มีของแอนติเจนเอและบี ในเลือดกรุ๊ปเอ เยื่อหุ้มเซลล์เม็ดเลือดแดงจะประกอบด้วยแอนติเจนเอ ในเลือดกรุ๊ปบี เยื่อเม็ดเลือดแดงหมู่บีประกอบด้วยแอนติเจนบี ส่วนกรุ๊ปเลือดเอบี จะมีทั้งแอนติเจนเอและบีที่พื้นผิวของเยื่อหุ้มเซลล์เม็ดเลือดแดง ในขณะที่เลือดกรุ๊ปโอ จะไม่มีทั้งแอนติเจนเอและบีที่เยื่อหุ้มเซลล์เม็ดเลือดแดงเลย โดยปกติแล้ว ซีรัมในเลือดของบุคคลหนึ่งจะประกอบด้วยแอนติบอดีที่เข้ากันกับแอนติเจนบนเซลล์เม็ดเลือดแดง หมายความว่าแอนติเจนเอ (หมู่เลือดเอ) จะไม่มีแอนติบอดี anti-A แต่จะมีแอนติบอดี anti-B ในทางกลับกัน ผู้ที่มีแอนติเจนบีจะไม่มีแอนติบอดี anti-B แต่จะมีแอนติบอดี anti-A ส่วนเลือดกรุ๊ปโอจะมีสารแอนติบอดีทั้ง anti-A และ anti-B โดยแอนติบอดีเหล่านี้จะผลิตขึ้นในสามเดือนแรกหลังคลอดโดยการสัมผัสกับสารแวดล้อม เช่น แอนติเจนจากเม็ดเลือดแดง หรือแบคทีเรียในระบบทางเดินอาหาร การถ่ายเลือด หมายความถึง […]


การทดสอบทางการแพทย์

ตรวจสารเคมีในเลือด (Blood Chemistry Screen)

ตรวจสารเคมีในเลือด เป็นการตรวจเลือดประเพื่อวัดระดับของสารต่างๆ ในเลือด (เช่น อิเล็กโทรไลต์) การตรวจสารเคมีในเลือดทำให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป ช่วยตรวจหาอาการบางประการ ตลอดจนประเมินผลของการรักษาสำหรับอาการเฉพาะ [embed-health-tool-bmr] ข้อมูลพื้นฐาน การ ตรวจสารเคมีในเลือด คืออะไร การตรวจสารเคมีในเลือด (Chemistry screen) เป็นการตรวจเลือดประเพื่อวัดระดับของสารต่างๆ ในเลือด (เช่น อิเล็กโทรไลต์) การตรวจสารเคมีในเลือดทำให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป ช่วยตรวจหาอาการบางประการ ตลอดจนประเมินผลของการรักษาสำหรับอาการเฉพาะ กระบวนการทั่วไปของการตรวจเลือดนี้ เป็นการวัดระดับของอิเล็กโตรไลต์ที่สำคัญและสารเคมีอื่นๆ ได้แก่ กลูโคส หรือ น้ำตาลในเลือดจะถูกย่อยในระดับเซลล์เพื่อให้พลังงานแก่ร่างกาย ระดับกลูโคสที่สูงขึ้นอาจเกิดจากเบาหวานหรือยาชนิดต่างๆ เช่น สเตียรอยด์ ระดับโซเดียม ในเลือดแสดงให้เห็นถึงสมดุลระหว่างการบริโภคโซเดียมและน้ำและการขับถ่าย ระดับโซเดียมที่ผิดปกติในเลือดอาจแสดงให้เห็นถึงการทำหน้าที่ผิดปกติของหัวใจหรือไตหรือภาวะขาดน้ำ โพแทสเซียม มีบทบาทสำคัญในการควบคุมกิจกรรมของกล้ามเนื้อ ซึ่งได้แก่ การหดตัวของหัวใจ ภาวะไตล้มเหลว รวมทั้งอาเจียนหรือท้องร่วงอาจทำให้มีระดับโพแทสเซียมที่ผิดปกติ ระดับคลอไรด์ อาจสูงขึ้นและลดลงในทิศทางเดียวกันกับระดับโซเดียมเพื่อคงสมดุลของประจุไฟฟ้า อาการผิดปกติหลายประการอาจเปลี่ยนแปลงระดับคลอไรด์ ซึ่งได้แก่ การทำงานที่ผิดปกติของไต โรคเกี่ยวกับต่อมหมวกไต อาเจียน ท้องร่วง และหัวใจวาย คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ทำหน้าที่เป็นระบบบัฟเฟอร์เพื่อช่วยคงสมดุลกรด-เบสของเลือด โดยโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ (Respiratory disease) อาการผิดปกติของไต อาเจียนรุนแรง ท้องร่วง และติดเชื้อรุนแรงมากสามารถทำให้เกิดระดับคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดที่ผิดปกติได้ […]


การทดสอบทางการแพทย์

ตรวจสอบสุขภาพทารกในครรภ์ขณะมดลูกหดรัดตัว (Contraction Stress Test)

การ ตรวจสอบสุขภาพทารกในครรภ์ขณะมดลูกหดรัดตัว (Contraction Stress Test) เป็นการตรวจเพื่อดูว่าว่าทารกในครรภ์จะปลอดภัยหรือไม่ เมื่อมดลูกหดรัดตัวระหว่างการคลอด ข้อมูลพื้นฐานการ ตรวจสอบสุขภาพทารกในครรภ์ขณะมดลูกหดรัดตัว คืออะไร การตรวจสอบสุขภาพทารกในครรภ์ขณะมดลูกหดรัดตัว หรือการประเมินภาวะสุขภาพของทารกในครรภ์ขณะที่มีการหดรัดตัวของมดลูก (Contraction Stress Test หรือ CST) เป็นการตรวจเพื่อประเมินว่าทารกในครรภ์จะปลอดภัยหรือไม่ในระหว่างที่ระดับออกซิเจนลดลงซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อมดลูกหดรัดตัวระหว่างการคลอด โดยเป็นการตรวจดูการเต้นของหัวใจของทารกในครรภ์จากภายนอก และมักทำการทดสอบเมื่อมีอายุครรภ์ 34 สัปดาห์หรือมากกว่า ในระหว่างมดลูกหดรัดตัว เลือดและออกซิเจนที่ไปหล่อเลี้ยงทารกในครรภ์จะลดลงเป็นเวลาสั้นๆ สิ่งนี้ไม่ใช่ปัญหาสำหรับทารกส่วนใหญ่ แต่อัตราการเต้นของหัวใจของทารกบางรายอาจมีค่าช้าลง การเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการเต้นของหัวใจนี้สามารถมองเห็นได้จากอุปกรณ์แสดงภาพจากภายนอก การตรวจสอบนี้ จะมีการให้ฮอร์โมนออกซิโทซิน (oxytocin) ผ่านทางหลอดเลือดดำ (intravenously หรือ IV) ของมารดา เพื่อทำให้มดลูกหดตัวเสมือนการคลอด หรืออาจมีการนวดหัวนมเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายปลดปล่อยฮอร์โมนออกซิโทซินออกมา หากอัตราการเต้นของหัวใจของทารกช้าลงหลังมดลูกบีบรัดตัว แสดงว่าทารกอาจมีปัญหาเกี่ยวกับแรงกดทับในการคลอดตามธรรมชาติ การตรวจสอบสุขภาพทารกในครรภ์ขณะมดลูกหดรัดตัว มักกระทำเมื่อหญิงตั้งครรภ์มีผลการตรวจความเปลี่ยนแปลงของอัตราการเต้นหัวใจ (Non-stress test) และการตรวจความสมบูรณ์ของทารก (biophysical profile) ผิดปกติ การตรวจความสมบูรณ์ของทารกทำได้โดยการอัลตราซาวด์เพื่อวัดลักษณะทางร่างกายของทารก ความจำเป็นในการ ตรวจสอบสุขภาพทารกในครรภ์ขณะมดลูกหดรัดตัว การตรวจสอบภาวะสุขภาพของทารกในครรภ์ขณะมีการบีบตัวของมดลูกมีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้ เพื่อประเมินว่าทารกในครรภ์จะปลอดภัยหรือไม่ เมื่อมดลูกบีบตัวและระดับออกซิเจนลดลงระหว่างการคลอด ประเมินว่ารกแข็งแรงพอที่จะพยุงตัวทารกได้ การตรวจสุขภาพทารกในครรภ์อาจดำเนินการเมื่อพบว่ามีผลการตรวจภาวะสุขภาพทารกในครรภ์แบบไม่มีแรงกดทับที่ตัวทารก (Non-stress test) หรือการตรวจความสมบูรณ์ของทารกผิดปกติ ข้อควรรู้ก่อนตรวจข้อควรรู้ก่อนเข้ารับการ ตรวจสอบสุขภาพทารกในครรภ์ขณะมดลูกหดรัดตัว ในบางกรณี การตรวจภาวะสุขภาพทารกในครรภ์ขณะมีการบีบตัวของมดลูกอาจแสดงผลว่าการเต้นของหัวใจทารกช้าลง ทั้งๆ ที่ทารกไม่ได้มีอาการผิดปกติใดๆ กรณีนี้เรียกว่าผลบวกลวง ในปัจจุบัน การตรวจสุขภาพทารกในครรภ์ประเภทนี้ไม่เป็นที่นิยมนัก […]


การทดสอบทางการแพทย์

ตรวจค่าน้ำตาลสะสมในเลือด (Glycohemoglobin Test)

การ ตรวจค่าน้ำตาลสะสมในเลือด (glycohemoglobin test) เป็นการตรวจเลือดประเภทหนึ่งที่ใช้ตรวจสอบปริมาณน้ำตาลกลูโคสในเลือด ข้อมูลพื้นฐานการ ตรวจค่าน้ำตาลสะสมในเลือด คืออะไร การ ตรวจค่าน้ำตาลสะสมในเลือด (glycohemoglobin test) หรือที่เรียกกันติดปากว่าการตรวจ “ฮีโมโกลบิน เอวันซี” (hemoglobin A1c) เป็นการตรวจเลือดประเภทหนึ่งที่ใช้ตรวจสอบปริมาณน้ำตาล (กลูโคส) ที่จับตัวกับฮีโมโกลบินในเซลล์เม็ดเลือดแดง เมื่อฮีโมโกลบินและกลูโคสจับตัวกัน น้ำตาลจะเคลือบฮีโมโกลบิน ยิ่งปริมาณน้ำตาลในเลือดมากเท่าไหร่ รอยเคลือบก็จะยิ่งมีชั้นหนาขึ้นเท่านั้น การตรวจค่าน้ำตาลสะสมในเลือด เป็นการวัดความหนาของรอยเคลือบในช่วงเวลา 2-3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเท่ากับอายุขัยของเซลล์เม็ดเลือดแดง ผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือมีภาวะอื่น ๆ ที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นมักพบว่ามีค่าน้ำตาลสะสมในเลือด (น้ำตาลที่ติดอยู่กับฮีโมโกลบิน) มากกว่าปกติ นอกจากนี้ การตรวจค่าน้ำตาลสะสมในเลือด ยังสามารถใช้วินิจฉัยภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes) หรือเบาหวาน (Diabetes) ได้ โดยเป็นการตรวจสอบการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในระยะยาวในผู้ป่วยโรคเบาหวาน แพทย์ส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่า การตรวจค่าน้ำตาลสะสมในเลือด หรือการตรวจหาระดับเอซีวันนี้ เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการตรวจว่าผู้ป่วยสามารถควบคุมเบาหวานได้ดีเพียงใด การตรวจน้ำตาลในเลือดด้วยตัวเองที่บ้านถือเป็นการวัดระดับน้ำตาลในเลือดในขณะหนึ่งเท่านั้น ซึ่งระดับน้ำตาลในเลือดสามารถเปลี่ยนแปลงในระหว่างวันจากสาเหตุหลายประการ เช่น การใช้ยา อาหาร การออกกำลังกาย และระดับอินซูลินในเลือด สำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน มีข้อแนะนำว่า ควรต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในระยะยาว ซึ่งผลการตรวจค่าน้ำตาลสะสมในเลือดจะไม่เปลี่ยนแปลงไปตามปัจจัยแปรผันต่าง ๆ เช่น อาหาร การออกกำลังกาย […]


การทดสอบทางการแพทย์

การตรวจความดันโลหิตที่บ้าน (Home Blood Pressure Test)

คำจำกัดความการตรวจความดันโลหิตที่บ้าน คืออะไร การตรวจความดันโลหิตที่บ้าน (Home Blood Pressure Test) ช่วยให้ติดตามค่าความดันโลหิตที่บ้านได้ด้วยตัวเอง โดยเป็นการวัดแรงดันของเลือดภายในหลอดเลือด คนส่วนใหญ่ใช้เครื่องมืออัตโนมัติเพื่อวัดความดันโลหิตที่บ้าน เครื่องมือนี้ทำงานโดยการเป่าลมเข้าไปยังสายรัดแขนที่จะใช้พันรอบแขนส่วนบนเพื่อหยุดกระแสเลือดในหลอดเลือดชั่วคราว ในขณะที่อากาศถูกปล่อยจากผ้ารัดแขนอย่างช้าๆ เครื่องมือวัดความดันโลหิตจะบันทึกค่าความดันขณะที่เลือดเริ่มไหลเวียนอีกครั้ง ความดันโลหิตจะถูกบันทึกเป็นสองค่า ตัวเลขแรกเป็นค่าความดันซิสโตลิก (systolic pressure) หมายถึงค่าความดันโลหิตสูงสุดที่เกิดขึ้นเมื่อหัวใจบีบตัว ตัวเลขที่สองเป็นค่าความดันไดแอสโตลิก (diastolic pressure) หมายถึงค่าความดันโลหิตต่ำสุดที่เกิดขึ้นเมื่อหัวใจคลายตัวในระหว่างการเต้นของหัวใจ ค่าความดันโลหิตสองประการนี้แสดงเป็นหน่วยมิลลิเมตรของปรอท (mm Hg) เนื่องจากเครื่องมือดั้งเดิมที่ใช้วัดความดันโลหิตเป็นการใช้ปรอท ค่าความดันโลหิตบันทึกเป็น systolic/diastolic เช่น หากค่าความดันซิสโตลิกมีค่าเป็น 120 mm Hg และค่าความดันไดแอสโตลิกมีค่าเป็น 80 mm Hg ค่าความดันโลหิตของคุณบันทึกเป็น 120/80 เครื่องมือวัดความดันโลหิตอัตโนมัติ เครื่องมือวัดความดันโลหิตอัตโนมัติ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เครื่องมือวัดความดันโลหิตอิเล็กทรอนิกส์หรือดิจิทัล เป็นเครื่องมือวัดความดันโลหิตแบบใช้แบตเตอรี่ที่ใช้ไมโครโฟนเพื่อจับจังหวะการไหลเวียนเลือด สายรัดแขน ซึ่งใช้พันโดยรอบแขนส่วนบนจะมีการดูดลมเข้าและปล่อยลมออกโดยอัตโนมัติเมื่อกดปุ่มเริ่มการทำงาน เครื่องมือวัดความดันโลหิตที่พบได้ทั่วไปในซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยา และชอปปิงมอลล์เป็นเครื่องมือแบบอัตโนมัติ ส่วนเครื่องมือวัดความดันโลหิตที่วัดค่าบริเวณนิ้วมือหรือข้อมือมักแสดงผลไม่แม่นยำและไม่แนะนำให้ซื้อ เครื่องมือวัดความดันโลหิตแบบธรรมดา เครื่องมือวัดความดันโลหิตแบบธรรมดาคล้ายคลึงกับเครื่องมือที่แพทย์ใช้เครื่องมือดังกล่าวที่เรียกว่าเครื่องวัดความดันชนิดปรอท (Sphygmomanometer) มักประกอบด้วยสายรัดแขน หลอดสำหรับบีบเพื่อเป่าลมเข้าสายรัดแขน เครื่องมือฟังเสียงหัวใจ (stethoscope หรือ microphone) และมาตรวัดเพื่อวัดความดันโลหิต การวัดความดันโลหิตทำได้โดยการหยุดการไหลเวียนของเลือดในหลอดเลือดชั่วคราว (มักทำโดยการเป่าเข้าผ้ารัดแขนที่ใช้พันรอบแขนส่วนบน) จากนั้นวางเครื่องมือฟังเสียงหัวใจลงบนผิวหนังเหนือหลอดเลือดสามารถเริ่มฟังเสียงเลือดที่เริ่มไหลเวียนผ่านหลอดเลือดอีกครั้งในขณะที่ปล่อยอากาศออกจากสายรัดแขน ความดันโลหิตจะแสดงเห็นได้ในหน้าปัดรูปวงกลมที่มีเข็มชี้ ในขณะที่ความดันในสายรัดแขนเพิ่มขึ้น เข็มบนหน้าปัดจะเคลื่อนที่ตามเข็มนาฬิกา ในขณะที่ความดันของสายรัดแขนลดลง เข็มจะเคลื่อนที่ทวนเข็มนาฬิกา […]


การทดสอบทางการแพทย์

ตรวจโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone Test)

ข้อมูลพื้นฐานการตรวจโกรทฮอร์โมน คืออะไร การตรวจโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone Test) เป็นการตรวจวัดปริมาณโกรทฮอร์โมน (GH) ในเลือดของมนุษย์ โกรทฮอร์โมนถูกสร้างขึ้นจากต่อมใต้สมอง ซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย ทั้งยังมีบทบาทสำคัญต่อระบบเผาผลาญของร่างกายด้วย การออกกำลังกาย การนอน ความตึงเครียดทางอารมณ์ และอาหาร สามารถทำให้ปริมาณโกรทฮอร์โมนในเลือดเปลี่ยนแปลงได้ในระหว่างวัน โกรทฮอร์โมนปริมาณมากเกินไปในวัยเด็กจะทำให้เด็กเจริญเติบโตมากกว่าปกติ (Gigantism) ในขณะที่โกรทฮอร์โมนปริมาณน้อยเกินไปในวัยเด็กจะทำให้เด็กเจริญเติบโตน้อยกว่าปกติ (Dwarfism) แต่ภาวะทั้งสองประการนี้สามารถรักษาได้หากตรวจพบแต่เนิ่นๆ ในผู้ใหญ่นั้น โกรทฮอร์โมนในปริมาณมากเกินไปเกิดจากมีเนื้องอกที่ไม่ใช่มะเร็งบริเวณต่อมใต้สมอง ซึ่งส่งผลให้กระดูกใบหน้า ขากรรไกร มือ และเท้า มีขนาดใหญ่กว่าปกติ (Acromegaly) โกรทฮอร์โมนทำให้เกิดการปลดปล่อยสารอื่นๆ ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและระบบเผาผลาญของร่างกาย หนึ่งในสารเหล่านี้ คือ ตัวกระตุ้นการเจริญเติบโตที่มีโครงสร้างคล้ายอินซูลิน (Insulin-like growth factor 1 หรือ IGF-1) เมื่อระดับโกรทฮอร์โมนมีค่าสูงมาก ระดับ IGF-1 ก็จะสูงมากด้วยเช่นกัน โดยอาจมีการตรวจหา IGF-1 ร่วมด้วยเพื่อยืนยันระดับโกรทฮอร์โมนที่สูงขึ้น ความจำเป็นในการ ตรวจโกรทฮอร์โมน การตรวจโกรทฮอร์โมนมักทำในเด็กที่มีสิ่งบ่งชี้และอาการของภาวะขาดโกรทฮอร์โมน (growth hormone deficiency (GHD)  เช่น อัตราการเจริญเติบโตที่ช้าลงในวัยเด็กตอนต้น ความสูงน้อยกว่าเด็กคนอื่นในวัยเดียวกัน เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ช้ากว่าปกติ การเจริญเติบโตของกระดูกช้า โดยสามารถะระบุได้จากการเอ็กซเรย์ การตรวจโกรทฮอร์โมนอาจจำเป็นสำหรับผู้ใหญ่เมื่อมีสิ่งบ่งชี้และอาการของภาวะขาดโกรทฮอร์โมน ภาวะต่อมใต้สมองทำงานต่ำ  เช่น ความหนาแน่นของกระดูกลดลง อ่อนเพลีย การเปลี่ยนแปลงของระดับไขมันที่เป็นอันตราย เช่น คอเลสเตอรอลสูง ความอึดในการออกกำลังกายน้อยลง ข้อควรรู้ก่อนตรวจข้อควรรู้ก่อนเข้ารับก่อน […]


ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป

มลพิษทางอากาศ ไม่ใช่แค่ปอดพัง แต่ทำร้ายยันหัวใจและหลอดเลือด

มลพิษ ถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญ ที่ส่งผลเสียต่อทั้งสภาพแวดล้อม การดำรงชีวิต และสุขภาพของสิ่งมีชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มลพิษทางอากาศ เพราะเราต้องหายใจเอาอากาศเข้าร่างกายทุกวัน เมื่ออากาศเป็นพิษ ฝุ่นละอองปกคลุมไปทั่วทุกพื้นที่ นั่นเท่ากับว่า เราสูดเอาอากาศเป็นพิษเข้าร่างกาย มลพิษทางอากาศที่เราสูดดมเข้าไปนั้น ไม่ได้ส่งผลเสียกับแค่อวัยวะ หรือระบบใดระบบหนึ่งในร่างกาย แต่ทำร้ายร่างกายเราได้แทบทุกส่วน ยิ่งหากเป็นฝุ่นละอองขนาดเล็ก อย่างฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือพีเอ็ม 2.5 (PM2.5) ที่เล่นงานเราหนักขึ้นทุกวัน ก็ยิ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพมากขึ้นไปอีก มลพิษทางอากาศ คืออะไร มลพิษทางอากาศ (Air Pollution) คือ ภาวะอากาศที่มีฝุ่นละออง (Particulate Matter) สารเคมี สารประกอบ โมเลกุลชีวภาพ หรือวัตถุที่เป็นพิษเจือปนอยู่ในระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์ สัตว์ พืช และสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินหรือวัสดุต่างๆ สารเจือปนในอากาศ หรือมลพิษทางอากาศที่พบอาจอยู่ในรูปของก๊าซ หยดของเหลว หรืออนุภาคของแข็ง มีทั้งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น ฝุ่นละอองจากลมพายุ ภูเขาไฟระเบิด ไฟไหม้ป่า และเกิดจากการกระทำของมนุษย์ เช่น ฝุ่นควันจากโรงงานอุตสาหกรรม ยานพาหนะ การสูบบุหรี่ โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศมากที่สุดก็คือ การใช้ยานพาหนะ การเผาไหม้ของเชื้อเพลิง […]

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของเรา

ทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของ Hello คุณหมอ ประกอบไปด้วยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มาร่วมสร้างสรรค์บทความในเว็บไซต์ของเราตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจะช่วยรับรองว่าข้อมูลด้านสุขภาพของเราถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และตรงตามหลักฐานจากงานวิจัยล่าสุด
ทีมผู้เชี่ยวชาญของเรามุ่งมั่นเต็มที่ในการช่วยให้คุณได้รับข้อมูลและความรู้ด้านสุขภาพที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ และพร้อมให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกับคุณเสมอ เพื่อให้คุณได้รับทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น

ดูผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน