อาจช่วยป้องกันมะเร็ง
สารไนอาซีมิซิน (Niazimicin) ในมะรุมซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระมีคุณสมบัติช่วยชะลอการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง การบริโภคมะรุมจึงอาจมีส่วนช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้
อาจเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
สารต้านอนุมูลอิสระในมะรุม เช่น เควอซิทิน (Quercetin) กรดคลอโรจีนิค (Chlorogenic Acid) อาจมีส่วนช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงและห่างไกลจากโรคเรื้อรังต่าง ๆ เนื่องจากช่วยลดการอักเสบในร่างกาย และอาจช่วยในการคลายความเครียด และคลายความวิตกกังวล รวมถึงความเมื่อยล้าในสมอง
อาจช่วยให้กระดูกแข็งแรง
มะรุมประกอบไปด้วยแคลเซียม ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ซึ่งเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อการสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ทั้งยังมีคุณสมบัติต้านการอักเสบในกระดูก อาจช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับกระดูกอย่างโรคข้ออักเสบ และโรคกระดูกพรุน
อาจช่วยบำรุงสุขภาพสายตา
มะรุมมีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง โดยสารต้านอนุมูลอิสระนั้นมีส่วนช่วยปรับปรุงสายตา ทั้งยังมีส่วนช่วยยับยั้งการขยายหลอดเลือดในม่านตา ซึ่งอาจช่วยป้องกันความหนาตัวของเยื่อหุ้มเส้นเลือดฝอย และลดความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดปกติต่อจอประสาทตา
ข้อควรระวังในการบริโภคมะรุม
แม้ว่ามะรุมจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ แต่ควรบริโภคด้วยความระมัดระวัง ดังนี้
- สตรีมีครรภ์และให้นมบุตร บริโภคมะรุมได้ตามปกติในปริมาณพอเหมาะ แต่ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคมะรุมแบบผง ยาเม็ด น้ำมัน ชา หรืออาหารเสริม หรือปรึกษาคุณหมอก่อนรับประทานอาหารเสริมจากมะรุมเสียก่อน
- มะรุมมีสารเคมีที่มีคุณสมบัติเป็นยาระบายอ่อน ๆ หากบริโภคมะรุมมากเกินไปอาจทำให้ท้องเสียได้
- ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง รวมทั้งผู้ป่วยไทรอยด์ ที่กำลังใช้ยารักษาโรคควรบริโภคมะรุมด้วยความระมัดระวัง หากไม่แน่ใจควรปรึกษาคุณหมอ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย