สาหร่ายวากาเมะ เป็นสาหร่ายทะเลสีน้ำตาลที่พบได้ในญี่ปุ่นและเกาหลี มีแคลอรี่ต่ำ อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี โซเดียม แคลเซียม ฟอสฟอรัส ทั้งยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เช่น ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน ลดภาวะดื้ออินซูลิน รวมไปถึงอาจช่วยต้านโรคมะเร็งได้ การรับประทานสาหร่ายวากาเมะในปริมาณที่เหมาะสม จึงอาจส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว
[embed-health-tool-bmi]
คุณค่าทางโภชนาการของสาหร่ายวากาเมะ
ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรแห่งสหรัฐอเมริกา (United States Department of Agriculture หรือ USDA) ระบุว่า สาหร่ายวากาเมะ 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 45 กิโลแคลอรี่ มีน้ำเป็นส่วนประกอบ 80 กรัม และอุดมไปด้วยสารอาหาร เช่น
- คาร์โบไฮเดรต 9.14 กรัม
- โปรตีน 3.03 กรัม
- โซเดียม 872 มิลลิกรัม
- แคลเซียม 150 มิลลิกรัม
- แมกนีเซียม 107 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 80 มิลลิกรัม
- เหล็ก 2.18 มิลลิกรัม
นอกจากนี้ สาหร่ายวากาเมะยังมีวิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเค เบต้าแคโรทีน และสารอาหารอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น สารต้านอนุมูลอิสระอย่างสารฟูโคแซนทีน (Fucoxanthin) ที่พบในสาหร่ายสีน้ำตาล อีกทั้งสาหร่ายวากาเมะยังมีไอโอดีน ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่มีบทบาทสำคัญในการบำรุงสุขภาพต่อมไทรอยด์ และเนื่องจากร่างกายไม่สามารถสร้างไอโอดีนเองได้ จึงควรรับประทานอาหารที่มีไอโอดีนเป็นประจำ เพื่อให้ร่างกายได้รับไอโอดีนเพียงพอ
สาหร่ายวากาเมะ ประโยชน์ มีอะไรบ้าง
สาหร่ายวากาเมะ อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยมีงานศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุนคุณสมบัติในการส่งเสริมสุขภาพของสาหร่ายวากาเมะ ดังนี้
อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน
สารฟูโคแซนทีน และสารฟูคอยแดน (Fucoidan) ในสาหร่ายวากาเมะเป็นสารแคโรทีนอยด์ที่พบมากในสาหร่ายทะเลสีน้ำตาล มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ อาจช่วยปรับปรุงการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2
งานวิจัยชิ้นหนึ่งจากประเทศญี่ปุ่นที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Nutritional Science เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 ศึกษาเกี่ยวกับความสามารถในการลดระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสมในเลือด (HbA1c levels) ของน้ำมันที่สกัดจากสาหร่ายสีน้ำตาล
โดยให้กลุ่มตัวอย่างชาวญี่ปุ่นที่มีน้ำหนักตัวปกติและเป็นโรคอ้วนรับประทานน้ำมันสาหร่ายทะเลท้องถิ่นที่อยู่ในสกุลเดียวกับสาหร่ายวากาเมะซึ่งมีปริมาณฟูโคแซนทีน 0 มิลลิกรัม 1 มิลลิกรัม และ 2 มิลลิกรัม ตามลำดับ เป็นเวลา 8 สัปดาห์ พบว่า ผู้ที่รับประทานน้ำมันที่มีฟูโคแซนทีน 2 มิลลิกรัม มีระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในเกณฑ์ดีขึ้น เมื่อเทียบกับกลุ่มที่รับประทานน้ำมันที่มีฟูโคแซนทีน 0 มิลลิกรัม
อาจช่วยลดภาวะดื้ออินซูลิน
สาหร่ายวากาเมะมีฟูโคแซนทีน ซึ่งเป็นสารแคโรทีนอยด์ที่พบเฉพาะในสาหร่ายสีน้ำตาล มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ อาจช่วยต้านโรคอ้วนและโรคเบาหวานได้ เนื่องจากช่วยลดภาวะดื้ออินซูลิน
งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Molecular Medicine Reports ฉบับเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม พ.ศ. 2552 ศึกษาเกี่ยวกับฤทธิ์ต้านโรคอ้วนและต้านเบาหวานของฟูโคแซนทีนต่อการเกิดโรคอ้วนจากการบริโภคอาหาร พบว่า การบริโภคสาหร่ายวากาเมะที่อุดมไปด้วยฟูโคแซนทีนช่วยควบคุมน้ำหนักตัวและปริมาณเนื้อเยื่อไขมันสีขาว ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อไขมันที่พบมากที่สุดในร่างกาย
ดังนั้น จึงอาจสรุปได้ว่า สาหร่ายวากาเมะมีสารพฤษเคมีที่ช่วยในการควบคุมกระบวนการเผาผลาญไขมันและภาวะดื้ออินซูลินที่เกิดจากการรับประทานอาหารได้ อย่างไรก็ตาม งานวิจัยชิ้นนี้เป็นการทดลองในสัตว์ จึงควรศึกษาวิจัยเพิ่มเติมในมนุษย์เพื่อยืนยันประสิทธิภาพของสาหร่ายวากาเมะในการลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอ้วนและภาวะดื้ออินซูลินจากการรับประทานอาหารไขมันสูงต่อไป
อาจมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง
สาหร่ายวากาเมะมีฟูโคแซนทีนซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ออกฤทธิ์ต้านการเกิดปฏิกิริยาเครียดออกซิเดชัน (Oxidative stress) ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง ทั้งยังช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ด้วยการกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งตายโดยไม่กระทบต่อเซลล์ปกติ และลดการแพร่กระจายของมะเร็งเต้านมของมนุษย์ได้
งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Cellular and Molecular Medicine เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2562 ศึกษาเกี่ยวกับฟูโคแซนทีนและฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของมะเร็งเต้านม พบว่า สารฟูโคแซนทีนที่สกัดจากสาหร่ายวากาเมะสามารถลดการสร้างหลอดน้ำเหลืองใหม่จากก้อนเนื้องอกได้ อย่างไรก็ตาม งานวิจัยชิ้นนี้เป็นการทดลองในหลอดทดลอง ควรมีการศึกษาเพิ่มเติมในมนุษย์ต่อไป
ข้อควรระวังในการบริโภค สาหร่ายวากาเมะ
ข้อควรระวังในการบริโภคสาหร่ายวากาเมะ อาจมีดังนี้
- สาหร่ายวากาเมะมีโซเดียมสูง จึงไม่ควรบริโภคมากเกินไปหรือบริโภคติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคไตและผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง เพราะอาจทำให้ระดับความดันโลหิตเพิ่มขึ้นจนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
- ควรเลือกซื้อสาหร่ายวากาเมะจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เพราะการบริโภคสาหร่ายวากาเมะที่มาจากแหล่งผลิตหรือแหล่งซื้อขายที่อาจปนเปื้อนสารเคมีบางชนิดในระดับสูง เช่น สารหนู ปรอท ตะกั่ว อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้
- สาหร่ายวากาเมะมีวิตามินเคที่ช่วยให้เลือดแข็งตัว จึงอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยาละลายลิ่มเลือด ผู้ที่ใช้ยาดังกล่าวอยู่จึงไม่ควรรับประทานสาหร่ายวากะเมะ